'มาร์ค'ไล่กระทุ้งนาฬิกา'เสี่ยป้อม'


เพิ่มเพื่อน    

เรือนที่ 25 โผล่ Patek Philippe ทองคำขาว 18K ราคาอย่างแพง 1.5 ล้านบาท รวมยอดทะลุ 2 โหล 40 ล้านบาท "เสี่ยป้อม" ร้องวู้ว..... "มาร์ค" เตือนซ้ำ ระวังพังยกเข่ง เพราะประชาชนไม่เชื่อมั่น ป.ป.ช.ด้วย จี้ตอบให้ชัดจะได้จบ ยืมเพื่อนกี่เรือน จากใครบ้าง ย้อนเกล็ด ในอดีตนักการเมืองเจอเรื่องพวกนี้ก็ลาออกโดยป.ป.ช.ยังไม่ชี้ความผิด หาก "บิ๊กตู่" ยังใช้คำว่าธรรมาภิบาลก็สะสางให้เรียบร้อย
    วันพุธที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก "CSI LA"  โพสต์ภาพพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สวมใส่นาฬิกาหรู  เรือนที่ 25 ระบุว่าเป็น Patek Philippe รุ่น Complications Annual Calendar รหัส 5396g-011 ทำจากทองคำขาว 18K ราคา 1.5 ล้านบาท
    ภาพดังกล่าวถ่ายวันที่ 26 ตุลาคม 2557 ที่วัดโฆสมังคลาราม บ้านโพนสวาง ต.โคกสว่าง อ.ปลาปาก จ.นครพนม พล.อ.ประวิตรพร้อมคณะเดินทางมาเป็นประธานในพิธีทำบุญทอดกฐินสามัคคี โดยมีนายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำข้าราชการ ประชาชน ร่วมทำบุญ ได้ปัจจัยในการทำบุญทั้งสิ้น 82,043,529 บาท ซึ่งถือว่าเป็นโคตรกฐินที่ทำลายสถิติ 82 ล้าน"
    สรุปข้อมูลนาฬิกาหรูของพลเอกประวิตร จำนวนนาฬิกาหรูตอนนี้พบเเล้ว 25 มูลค่า 39.5 ล้านบาท
Rolex 11 เรือน, Patek Philippe 8 เรือน, Richard Mille 3 เรือน, Audemars Pigue 2 เรือน, A. Lange & Sohne 1 เรือน
    เพจนี้ตั้งข้อสังเกตว่า นี่คือการวิเคราะห์โดยหลักวิทยาศาสตร์ข้อมูลเเบบ Thailand 4.0 ทำไมช่วงหลังที่รัฐบาลมีการประกาศจะซื้อเรือดำน้ำในช่วงครึ่งปีหลังของปี 59 จนกระทั่งมีการตกลงซื้อเรือดำน้ำจากจีนในเดือนมกราคม เราจะเห็นบิ๊กป้อมใส่นาฬิกาเเพงๆ เรือนใหม่ๆ บ่อยจนผิดสังเกต จะเห็นได้ว่ามี Clustering หรือเกาะกลุ่มของนาฬิกาหรูที่ราคามากกว่า 3 ล้านบาทถึง 4 เรือน หลังจากเดือนกุมภาพันธ์ เป็น Richard Mille 3 เรือน เเละ Patek Philippe 1 เรือน ซึ่งต่างมากกับช่วงเเรกๆ ที่มีรัฐประหาร เราจะเห็นบิ๊กป้อมใส่นาฬิกาเเบบลุงๆ ซ้ำๆ กันไม่กี่เรือน
    ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับกรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะเข้ามาตรวจสอบการจ่ายภาษี โดยเดินออกจากวงสัมภาษณ์ของผู้สื่อข่าวทันที พร้อมกล่าวเพียงสั้นๆ “วู้ว...”
     นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กรณีที่ พล.อ.ประวิตรระบุว่า นาฬิกาหรูเป็นของเพื่อนที่ยืมมา และได้ชี้แจงต่อ ป.ป.ช. ไปหมดแล้ว โดยกล่าวสั้นๆ เพียงว่า ขอให้ ป.ป.ช.ทำงานก่อน
    ผู้สื่อข่าวพยายามถามย้ำว่า พล.อ.ประวิตรได้ชี้แจงครบทั้ง 2 ครั้งแล้วหรือยัง นายวรวิทย์กล่าวเหมือนเดิมว่า ขอให้ ป.ป.ช.ทำงานก่อน ถ้าเสร็จแล้วจะแถลงให้ทราบต่อไป
     ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตรระบุว่าพร้อมออกจากตำแหน่งหาก ป.ป.ช.ชี้ว่ามีความผิด ว่าอยากให้ชี้แจงต่อสาธารณะให้ชัดเจน เพราะถ้าสังคมสงสัย ไม่เชื่อ แล้วปล่อยให้ยืดเยื้อ จะกระทบกับการทำงานของรัฐบาล ทำให้ขาดความเชื่อมั่นและการสนับสนุนจากประชาชน 
    เขาบอกว่า กรณี ป.ป.ช.เมื่อชี้แล้วก็จะมีผลทางกฎหมายตามอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่ตอนนี้สังคมเกิดความไม่เชื่อมั่นในตัว ป.ป.ช.ด้วย จึงอยากเห็นการชี้แจงอย่างชัดเจนว่าข้อเท็จจริงคืออะไร หากยืนยันว่ายืมเพื่อนมาใส่ ก็ชี้แจงรายละเอียดว่ามีกี่เรือน ยืมจากใคร สังคมจะได้จบเรื่องนี้ไป แต่ถ้ายังชี้แจงเพียงเท่านี้ การวิพากษ์ วิจารณ์ก็จะยังอยู่ในสภาพเดิม ไม่เป็นผลดีกับรัฐบาล
    นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อย่างน้อยที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ต้องคุยกับ พล.อ.ประวิตร ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เรื่องนี้กระทบความน่าเชื่อถือของรัฐบาล และแปลกใจอยู่ว่าท่านนายกฯ ใช้คำพูดว่าอย่าเอาวาทกรรมทางการเมืองมาพูด ทั้งที่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องวาทกรรม แต่เป็นเรื่องพฤติกรรม
    "ผมพยายามชี้ให้เห็นว่าในฐานะนักการเมือง ถูกรัฐบาลชุดนี้ต่อว่าต่อขานว่าการเมืองเก่าๆ เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ จึงชี้ให้เห็นว่ามาตรฐานในรัฐบาลผมที่เป็นนักการเมืองเก่า มีความชัดเจนและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ มีปัญหาที่สังคมสงสัย รัฐมนตรีก็ลาออก ทั้งๆ ที่ ป.ป.ช.ยังไม่ได้ชี้ว่ามีความผิด และสุดท้ายก็ไม่ได้มีความผิดด้วย ดังนั้นหากท่านนายกฯ ยังอยากใช้คำว่าธรรมาภิบาลอยู่ ก็ควรสะสางเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ด้วยการสร้างมาตรฐานทางการเมือง อย่างน้อยที่สุดก็คือมาตรฐานการชี้แจงให้เกิดความโปร่งใสต่อสังคม”
    อดีตนายกฯ ระบุว่า เข้าใจถึงความสำคัญของพล.อ.ประวิตรที่มีต่อรัฐบาล รวมถึงความผูกพันที่มีต่อกัน แต่สิ่งที่ขอคือ ทำอย่างไรให้เกิดความโปร่งใสกับสังคม ถ้ามีข้อเท็จจริงที่มั่นใจว่าถูกต้องก็ชี้แจงให้สังคมเข้าใจและมั่นใจด้วย แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ สภาพของรัฐบาลและการทำงานก็จะได้รับผลกระทบ
    "ผมเป็นห่วงไปถึงการแก้ปัญหาและบรรทัดฐานของสังคมด้วย เพราะต้องไม่ลืมว่า คสช.เข้ามาบอกว่าจะทำให้การเมืองดีขึ้น หากมีปัญหาความเสื่อมศรัทธาขององค์กรอิสระและ ป.ป.ช.ตามมาอีก จะยิ่งเป็นปัญหาใหญ่" นายอภิสิทธิ์กล่าว
    นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ว่า 
คนไทยไม่ได้กินแกลบกินหญ้า ที่จะเชื่อว่านาฬิกาวนกันใส่ ถ้อยแถลงของ พล.อ.ประวิตร เป็นเพียงการแก้ตัวไปแบบน้ำขุ่นๆ ซึ่งหาเหตุผลรองรับแบบเบาหวิว เพื่อให้รอดพ้นจากข้อครหาและคมดาบของ ป.ป.ช. ซึ่งเชื่อว่าสังคมไทยและ ป.ป.ช. ก็คงไม่เชื่อตามไปด้วย ทั้งนี้เพราะนาฬิกาเรือนหรูแต่ละเรือนที่มีมูลค่านับล้านบาทนั้น ไม่ใช่นาฬิกาที่มีวางขายแบกับดินที่ขายกันตามตลาดโรงเกลือ ตลาดนัดจตุจักร กันเสียเมื่อไร 
    "ที่สำคัญนาฬิกาบางเรือนซึ่งปรากฏตามภาพข่าวที่บิ๊กป้อมสวมใส่นั้น เป็นรุ่น “ลิมิเต็ด” (Limited Edition) ซึ่งมีการผลิตหรือจัดทำขึ้นมาในจำนวนจำกัดเฉพาะผู้ที่สั่งทำเท่านั้น และจะมีการรันนัมเบอร์ว่ามีผู้ใดสั่งให้ทำและสั่งจองบ้าง อีกทั้งนาฬิกาแต่ละเรือนจะจัดทำสายรัดที่เป็นโลหะพอดีกับข้อมือของผู้สั่งทำเท่านั้น และหากจะมีการเพิ่มข้อสายรัด ต้องเสียเงินแต่ละครั้งนับหมื่นถึงแสนบาท ดังนั้นข้ออ้างของบิ๊กป้อมที่วนนาฬิกากันใส่ในกลุ่มเพื่อนฝูงนั้น จึงไร้เหตุผล ส่วนนาฬิกาที่มีสายรัดเป็นหนังนั้น โดยปกติทั่วไปนาฬิกาที่มีมูลค่าแพงระยิบขนาดนี้ เขาไม่นิยมวนกันใส่ เพราะจะถูกเหงื่อไคลของผู้สวมใส่ซึมซับกับตัวหนัง ทำให้เกิดกลิ่นเฉพาะตนอันไม่พึงประสงค์ของผู้อื่นในสายนาฬิกานั้นๆ"
    เขากล่าวว่า ข้ออ้างของ พล.อ.ประวิตรไม่มีน้ำหนักเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้สมาคมและสังคมไทยเชื่อได้ว่าเป็นเหตุผลข้ออ้างของการมีนาฬิกาหรูจากเพื่อนแล้วมาวนกันใส่โดยไม่ต้องรายงานบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. อันส่อไปในทางร่ำรวยผิดปกติได้
    นายศรีสุวรรรณยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า กรณี พล.อ.ประวิตรแจ้งว่า "นาฬิกาเพื่อน วนกันใส่" นั้น ก็ยังถือว่าเป็นความผิดตามมาตรา 103 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 เพราะเข้าข่าย "ประโยชน์อื่นใด" ตามมาตรา 103 โดยชัดแจ้ง เรื่องนี้ ป.ป.ช.คงสังเคราะห์กฎหมายมาตรานี้ไม่ยาก
    นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า เมื่อเรื่องเข้าสู่องค์กรตรวจสอบคือ ป.ป.ช. ปรากฏว่าประธานซึ่งอยู่ในตำแหน่งโดยมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติกลับเป็นคนใกล้ชิดของผู้ถูกยื่นเรื่องร้องเรียน ท่าทีจึงหันรีหันขวางอ้างเรื่องเวลา ทั้งที่คนส่วนใหญ่ใช้สติปัญญาหาข้อสรุปเรื่องนี้ได้นานแล้ว 
    "ป.ป.ช.จะชี้มูล พล.อ.ประวิตรหรือไม่ ต้องรอดู แต่ผมเห็นว่ากรณีนี้ พล.อ.ประวิตรได้ชี้มูล ป.ป.ช.ไปแล้วว่า ทำหน้าที่ให้ประชาชนไว้วางใจได้หรือไม่" แกนนำ นปช.กล่าว
        ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่เหนือความคาดหมาย ต้องออกแนวนี้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง สังคมอยากตั้งคำถาม เพื่อนดีๆ เหล่านี้ท่านไปหามาจากที่ไหน ท่านมีเพื่อนดีๆ แบบนี้กี่คน เพื่อนที่ให้ท่านยืมนาฬิกามีกี่คน แต่ละคนชื่ออะไรบ้าง เพื่อนท่านเป็นเจ้าของร้านนาฬิกา เป็นมหาเศรษฐี หรือเป็นเจ้าของโครงการขนาดใหญ่ของรัฐหรือไม่ นาฬิกาเหล่านี้มีหมายเลขกำกับ เพื่อนของท่านเสียภาษีศุลกากรนำเข้าถูกต้องหรือไม่ ระยะเวลาการยืม ยืมเมื่อไหร่ คืนเมื่อไหร่ และจากนี้ไปไม่รู้จะพบเพิ่มอีกกี่เรือน 
    เขากล่าวว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ต้องทำงานอย่างหนักท่ามกลางประเด็นที่สังคมสงสัย ทั้งเรื่องที่ท่านเคยเป็นเลขาฯ พล.อ.ประวิตร รวมถึงเรื่องการต่ออายุกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งมีกรรมการ ป.ป.ช.ที่อาจได้รับผลกระทบ 2 คนคือ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ และนายวิทยา อาคมพิทักษ์ ในเรื่องลักษณะต้องห้าม สังคมสงสัยว่าถ้าหากขาดคุณสมบัติแล้วยังได้อยู่ต่อ อยู่ต่อเพื่อการใดหรือไม่ 
    "ท่านคิดว่าคำชี้แจงของ พล.อ.ประวิตรแบบนี้ ประชาชนจะเชื่อถือหรือรับได้หรือไม่ ถ้าทำไม่ดีจะกระทบต่อ ป.ป.ช.และรัฐบาลทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ฟังคำชี้แจงนี้แล้วรู้สึกอย่างไร รับได้หรือไม่ ขนาดกองหนุนท่านที่เริ่มหมดก็ยังกังขาเรื่องนี้ และก็รอดูท่าทีของท่าน พล.อ.ประยุทธ์เชื่อในคำชี้แจงแบบนี้หรือไม่ ท่านมีเพื่อนให้ยืมนาฬิกาเยอะๆ แบบนี้หรือไม่ เพราะขนาดบารมีระดับรองนายกฯ ยังมีเพื่อนให้ยืมเกือบ 30 เรือน มีใครมาให้ท่านนายกฯ ยืมนาฬิกาหรูบ้างหรือไม่" นายอนุสรณ์กล่าว.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"