18 ม.ค. 61 - ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสาวเดียร์ดรา บอยด์ ผู้ประสานงานสหประชาชาติและผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ภายหลังการหารือ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญการหารือว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมนางสาวเดียร์ดรา บอยด์ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง และไทยให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ซึ่งสหประชาชาติและไทยยังร่วมมือกัน เพื่อสนับสนุนให้ไทยสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

ขณะที่ผู้ประสานงานสหประชาชาติกล่าวชื่นชมการพัฒนาของประเทศไทย โดยเฉพาะการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และความสำเร็จของไทยในการเป็นประธานกลุ่ม G77 ซึ่งทางสหประชาชาติยินดีร่วมมือทำงานกับประเทศไทย เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาในทุก ๆ ด้าน ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันถึงความสำคัญของการบรรลุ SDGs โดยต้องการให้ SDGs สามารถเข้าถึงประชาชนและหน่วยงานทุกภาคส่วน ซึ่งไทยมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ที่จะช่วยปูทางไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน อีกทั้งรัฐบาลมีแนวทางการดำเนินงานตามกลไกประชารัฐ ในการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนรวมทั้งทีมงานสหประชาชาติ เพื่อขับเคลื่อนการบรรลุวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน พ.ศ. 2573 โดยเฉพาะการขับเคลื่อนผ่านกรอบความร่วมมือหุ้นส่วนระหว่างไทยกับสหประชาชาติ (UNPAF) ฉบับปี พ.ศ. 2560 – 2564

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า ทั้งนี้ ผู้ประสานงานสหประชาชาติแสดงความยินดีที่ได้ร่วมทำงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ของไทย โดยเฉพาะการดำเนินโครงการห้องปฏิบัติการนวัตกรรมภาครัฐ (Government Innovation Lab) ร่วมกับ ก.พ.ร. โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถยกระดับและขยายความร่วมมือให้ใกล้ชิดและครอบคลุมหลายมิติมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานให้สอดคล้องกับบริบทด้านการพัฒนาและสนองต่อความต้องการของประเทศ พร้อมทั้งตั้งใจที่จะผลักดันกรอบความร่วมมือที่มีอยู่ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป

พล.ท.วีรชน กล่าวอีกว่า ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่าไทยได้น้อมนำแนวทางการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) ที่มีส่วนสำคัญให้ไทยบรรลุเป้าหมายแห่งสหัสวรรษ (MDGs) ได้ พร้อมทั้งแบ่งปันประสบการณ์ความสำเร็จให้แก่มิตรประเทศที่สนใจ และไทยเห็นว่าทางสหประชาชาติมีศักยภาพที่จะเป็นหุ้นส่วนในการจัดทำเอกสารเผยแพร่แนวปฏิบัติที่ดีของการนำ SEP ไปประยุกต์ใช้เพื่อบรรลุ SDGs ในส่วนที่เกี่ยวข้อง ในช่วงท้าย ทั้งสองฝ่ายแสดงความยินดีที่จะมีการเปิดสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกเพื่อความร่วมมือใต้-ใต้ (UNOSSC) และแผนการจัดตั้ง Innovation Center ของภูมิภาคในประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องและสามารถสนับสนุนนโยบาย Thailand 4.0 โดยต่างขอให้สนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกัน.