หลังจาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศชูแนวทาง “ประชาธิปไตยไทยนิยม” เมื่อวันเด็กแห่งชาติที่ผ่านมา 

ท่ามกลางฟีดแบ็กตอบกลับอย่างล้นหลามจากบรรดาพรรคการเมือง ที่เห็นเป็นเพียงถ้อยคำสวยหรู เพื่อปูทางอยู่ต่อ!!!!

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา “บิ๊กตู่” เร่งแจงความหมายคำว่า “ไทยนิยม” ในแบบของตนเอง และล่าสุดได้ลงมือเขียนเอกสารด้วยลายมือตัวเองถึง 12 หน้ากระดาษเอ 4 แจกในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา 

เพื่อให้ไปทำความเข้าใจและเร่งขับเคลื่อนดำเนินการใน 3 ส่วน

ส่วนที่ 1 นายกฯ ชี้แจงความหมายของประชาธิปไตยไทยนิยม....

"เพื่อให้คนไทยเข้าใจหลักคิดที่ถูกต้อง ผมไม่เคยคิดจะทิ้งพื้นฐานของประชาธิปไตยสากล ด้วยหลักการประชาธิปไตยเป็นของปวงชน เป็นประชาธิปไตยที่ยอมรับกันได้ทุกฝ่าย มุ่งเป้าหมายเดียวกันคือ ความสงบสุขสันติอย่างยั่งยืน โดยมีพื้นฐานจากการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล อย่าเอานายกฯ คสช.ไปสู้กับใคร นายกฯ ใด พรรคใด กลุ่มใด อยากให้คนไทยที่ต้องการประชาธิปไตยนิยมไทยมีอุดมการณ์เดียวกัน มีผู้ไม่หวังดีเจตนาไม่บริสุทธิ์ยังคงพยายามอยู่จนถึงทุกวันนี้ ต้องหาแก่นสารของประชาธิปไตย สร้างไทยนิยมระบบประชาธิปไตยให้ได้"

ส่วนที่ 2 เป็นเรื่องบริหารราชการในปี 61-62....
 
"ขอให้ ครม.ทำงานด้วยความโปร่งใส ชี้แจง ตรวจสอบได้ เตรียมการเป็นประชาธิปไตย แก้ปัญหาประชาธิปไตยทุกประเด็น สร้างระบบ วิธีการราชการ เตรียมคนรุ่นใหม่และปัจจุบัน สร้างอาชีพ รายได้ที่เหมาะสม เป็นคนเก่งและดี มีศีลธรรม คุณธรรมในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองต่อไป และมองว่าสิ่งที่เป็นปัญหาตอนนี้คือ สื่อ นักการเมือง ที่มีปัญหาพยายามจะล้มรัฐบาลและ คสช.ให้ได้ในช่วงนี้ กฎหมาย คำสั่งทุกฉบับจะแก้ไขให้กลับไปที่เดิม และข้าราชการไม่สุจริตร่วมมือ"

ส่วนที่ 3 หลักการทำงาน...

"ต้องเดินหน้าปฏิรูปประเทศ เดินหน้ายุทธศาสตร์ กวาดล้างทุจริต สร้างความสมดุลการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ไม่ให้เกิดปัญหาระบบการเงินการคลัง ไม่ทำให้สินค้าเกษตรเป็นปัญหาการเมืองอีกต่อไป"

เอกสารดังกล่าว "บิ๊กตู่" ได้แจกให้กับรัฐมนตรีทุกคน ยกเว้นรองนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นการกระตุ้นการขับเคลื่อนการดำเนินงานในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเรื่องความยากจน ที่นายกฯ เน้นมากเป็นพิเศษในปี 61 นี้

ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ตรงที่ "บิ๊กตู่" ระบุว่า มี “สื่อและนักการเมือง” จ้องจะโจมตีรัฐบาลและ คสช.นั้น คนในรัฐบาลยืนยันถึงความตั้งใจดีของบิ๊กตู่ ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ และเป็นแค่การปรารภเรื่องการเมือง และการสื่อสารทำความเข้าใจเท่านั้น 

อย่างไรก็ตาม ในด้านการข่าว สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กลับพบว่า มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นในหลายๆ ทาง เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่การเลือกตั้ง แต่คงไม่ถึงขั้นล้มรัฐบาลได้

แต่ทั้งหมดก็ถือเป็นการกวดขันการทำงานของทุกฝ่าย และจะใช้เป็นกรอบในการชี้วัดการทำงาน จะเป็นตัวประเมินการทำงานของทั้งรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง หรืออธิบดี ที่จะเริ่มมีการประเมินตั้งแต่ เม.ย.61 และจะมีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้ายที่จะเกิดขึ้นใน เดือน ต.ค.นี้ด้วย

ส่วนการบ้าน 12 หน้ากระดาษจาก บิ๊กตู่ ถึง ครม.จะสำเร็จจนปูทางไปสู่วันข้างหน้าหรือไม่ และอุปสรรคในสายตาบิ๊กตู่ อย่าง “สื่อและนักการเมือง” จะเป็นแรงผลักหรือแรงฉุดรัฐบาลได้หรือไม่  

คงต้องวัดกันที่ฝีไม้ลายมือของนายกฯ ประยุทธ์นั่นเอง!.