'ชูวิทย์' กระทืบซ้ำ 'กำพล ซีเครท' รวยแล้วไม่พอโลภไม่หยุด!


เพิ่มเพื่อน    

แฟ้มภาพ

20 ม.ค. 61 - นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตส.ส.พรรครักประเทศไทย และอดีตเจ้าของสถานบริการอาบอบนวด เผยแพร่ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กรณีศาลออกหมายจับ นายกำพล และนางนิภา วิระเทพสุภรณ์ พัวพันกับสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท ว่า   "ศาลอนุมัติหมายจับ กำพล-นิภา วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของ “วิคตอเรีย ซีเครท ตัวจริง” ตั้งข้อหาทั้งสิ้น 12 ข้อหา อ่วมอรทัย

นายชูวิทย์ ระบุว่า หากตนไม่พูดเรื่องนี้จะถูกตราหน้าว่ารู้แล้วทำเฉย เมื่อตนทำหน้าที่สื่อก็ต้องพูดให้หมด สังคมจะได้รู้ว่า ใครเป็นตัวจริง ใครเป็นนอมินีของวิคตอเรีย เพราะธุรกิจอาบอบนวดตนทำมากับมือ รู้เส้นสนกลในเป็นอย่างดี ถ้ารู้จักพอก็ต้องเลิก ไม่ใช่ไปถลำตัวทำธุรกิจสีเทา ให้กลายเป็น สีดำโดยการเอาเด็กอายุ 12-13 ปี มาเปิดบริสุทธิ์

"ยุคผมยืนยันว่าไม่มีแม้แต่ต่างด้าว แต่เพราะยุคนี้รวยแล้วไม่พอ โลภไม่หยุด แล้วยังคิดการใหญ่เอาทุนค้ามนุษย์เข้าไปกว้านซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ทีมฟุตบอล ร่วมมือกับนักการเมืองที่ว่างงาน หวังกรุยทางฟอกขาวขยายทุนสร้างความร่ำรวยให้กับตัวเอง" นายชูวิทย์ ระบุและว่าหากไม่แฉ ก็ไม่ใช่ชูวิทย์ ใครจะรู้เบื้องหลังของกำพล และกล้าพูดได้มากเท่าผม?

อดีตเจ้าของสถานบริการอาบอบนวด ระบุว่า วิคตอเรีย เทียบกับ นาตารี รูปแบบธุรกิจเหมือนกัน ทำเด็กต่างด้าวอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่โกลัก นั้นเป็นแค่อาโก ทรัพย์สินที่มีก็เอาไปซื้อบ้านซื้อที่ดิน แต่อย่างกำพลคิดจะล้างคราบ แล้วเอาน้ำสกปรกไปใส่ขวดให้ดูสวยหรูและเอาไปวางขายให้กับคนทั่วไปในห้างหรู

"เรื่องราวยังสลับซับซ้อน และมีอิทธิพลไม่ธรรมดา ทั้งยังใช้รูปแบบธุรกิจสมัยใหม่ มีการประชุมกับเครือข่ายปรากฎเป็นหลักฐานการประชุมบัญชีและการเงิน เหมือนกับบริษัทมหาชนที่ใหญ่ๆในตลาดหลักทรัพย์ รวมกลุ่มกันชื่อว่าเครือเดอะลอร์ดที่มีทั้ง วิคตอเรีย โคปาคาบาน่า ลองบีช และเดอะลอร์ด โดยมีคำสั่งในที่ประชุมชัดเจนว่า" เขาระบุแล้ว่าหากมีการจู่โจมให้ตัดสัญญาณระบบข้อมูล เครื่องรูดบัตร สลิปการ์ดบัตรเครดิต ออกไปจากหน้างานให้เร็วที่สุดดังนั้นจึงเป็นการทำงานที่เป็นขบวนการ เป็นองค์กรอาชญากรรมหรือที่เรียกว่าอั้งยี่ ซ่องโจรของแท้แน่นอน

อดีตเจ้าของสถานบริการอาบอบนวด โพสต์ว่านายกำพลเติบโตจากการทำเอเย่นต์ส่งเด็กจนรวยขนาดมีคฤหาสน์ใหญ่โตที่เมืองเอกชื่อว่า “บ้านเทพสุภรณ์” เป็นคฤหาสน์ที่รวมเครือญาติพี่น้องบนพื้นที่กว่า 10 ไร่ แต่รวยขนาดนี้ยังไปหักค่าเด็กรอบละ 200 บาทจากค่าตัว เอาไปแบ่งกับ “ป๋าติ๊ก” และ “ป๋ากบ” ที่ถูกจับไปก่อนหน้า แยกต่างหากจากค่าห้อง เวรกรรมจากการค้าเด็กจึงตามไปหลอนแบบเดียวกับโกลัก

"หากผมไม่พูดว่าใครเป็นตัวจริง โดยมีหลักฐานมอบให้ท่านศรีวราห์ เสียเวลานอนวันละ 2-3 ชั่วโมงอยู่สองสามวัน และได้เห็นตัวตนของท่านศรีวราห์ว่าถึงลูกถึงคน แม้หนึ่งในทีมนั้นจะเคยจับและทำคดีผมมาก่อน แต่เรื่องมันแล้วไปแล้ว ผมเป็นคนไม่ติดใจคิดมาก สมัยนี้โทษมันแรง ไหนจะตามมาด้วย อายัด ยึดทรัพย์ เพราะเป็นความผิดมูลฐานของการฟอกเงิน 12 ข้อหาหนัก กำพลไม่ตามลูกน้องเข้าไปอยู่ในคุก ก็คงต้องตามโกลักไปอยู่ต่างประเทศประเทศ"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"