ผวจ.พัทลุงสั่ง พร้อมหนีน้ำ รร.ปิดระนาว


เพิ่มเพื่อน    

หลายจังหวัดภาคใต้ยังต้องดิ้นรนช่วยตัวเองจากอุทกภัยครั้งร้ายแรง พัทลุงฝนตกต่อเนื่อง 5 อำเภอลุ้นระทึก โรงเรียนปิดระนาว ผู้ว่าฯ ประกาศเตือนขนของไว้ที่สูง เตรียมพร้อมอพยพ ประปากันตังงดผลิตประปาหลังโรงสูบถูกน้ำท่วมหนัก สงขลาประกาศหยุดเรียนแล้ว 62 โรง พื้นที่ริมทะเลสาบยังน่าห่วง

มีรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมนี้ ยังมีฝนตกต่อเนื่องจากวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในเกือบทุกพื้นที่ ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นในเขตอำเภอเมือง เขาชัยสน บางแก้ว ปากพะยูน และ อ.ควนขนุน โรงเรียนหลายแห่งในพื้นที่ดังกล่าว เช่น รร.บ้านแหลมดิน รร.บ้านคลองขุด รร.บ้านสะทัง ต.หารโพธิ์ ระดับน้ำท่วมสูงเกือบถึงหน้าต่างประมาณ 1.50 เมตร และ รร.บ้านจองถนน รร.วัดเขียน ต.จองถนน อ.เขาชัยสน ขณะเดียวกัน รร.บ้านเกาะนางคำ รร.บ้านท่าเนียน รร.บ้านแหลมดินสอ ต.เกาะนางคำ อ.ปากพะยูน ประกาศปิดอย่างไม่มีกำหนดเนื่องจากน้ำท่วมสูง อีกทั้งเส้นทางสัญจรภายในหมู่บ้านน้ำท่วมสูงเช่นกัน ขณะที่โรงเรียนระดับมัธยมและโรงเรียนระดับประถมในเขตเทศบาลเมืองพัทลุงทุกโรงเรียนประกาศปิด 2 วัน คือ 4-5 ธ.ค.นี้

ส่วนบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ริมทะเลสาบ 60 หมู่บ้านใน 5 อำเภอ ยังคงมีน้ำท่วมสูง และเช้าวันจันทร์ ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ชาวบ้านในพื้นที่บางครัวเรือนที่น้ำยังไม่ท่วมต่างช่วยกันขนของไว้บนที่สูง

ขณะที่นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง ได้ออกประกาศเตือนประชาชนที่ลุ่มต่ำขนสิ่งของไว้บนที่สูง และพร้อมอพยพหากมวลน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากสภาวะฝนตกหนักจนถึงวันที่ 5 ธันวาคม ตามประกาศของกรมอุตุฯ ขณะเดียวกัน ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ออกช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมพื้นที่เสี่ยง

ตรัง สถานการณ์น้ำท่วมทั้ง 8 อำเภอยังไม่ดีขึ้น แม้ฝนจะหยุดแล้วตั้งแต่เมื่อคืนวันอาทิตย์ แต่เนื่องจากมีน้ำทะเลหนุน ทำให้ระดับน้ำที่วัดประสิทธิชัย ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ยังสูงกว่า 3 เมตร เช่นเดียวกับที่ ต.บางรัก และ ต.นาตาล่วง อ.เมือง ซึ่งได้รับผลกระทบจากพนังกั้นแม่น้ำตรังแตก 2 จุด ทำให้มีน้ำท่วมถึงหลังคาบ้านมาเป็นวันที่ 5 แล้ว

ไม่แต่เท่านี้ การประปาส่วนภูมิภาคสาขากันตังยังประกาศหยุดผลิตน้ำประปาแจกจ่ายให้กับผู้ใช้น้ำในเขต ต.ควนปริง รวมทั้งที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง และบางส่วนของ อ.กันตัง หลังจากมีกระแสน้ำไหลเข้าท่วมโรงสูบน้ำแรงดันสูง, โรงสูบน้ำแรงดันต่ำ, โรงเก็บ-จ่ายสารเคมี และบ่อหมักสารส้มสูงกว่า 2 เมตร เนื่องจากได้รับผลกระทบจากพนังกั้นแม่น้ำตรังแตก 2 จุด

นายพิศาล เต็งเฉี้ยง กำนันตำบลหนองตรุด อ.เมืองตรัง กล่าวว่า ความเดือดร้อนจากน้ำท่วมครั้งนี้มากกว่าปี 59 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนพนังจะพังทลายลงมาได้มีการออกแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำตรังริมพนังกั้นแม่น้ำให้เก็บข้าวของไว้บนที่สูง สำหรับความช่วยเหลือตอนนี้มีหลายหน่วยงานที่จะเข้ามาช่วย แต่ปัญหาก็คือไม่สามารถเข้าไปได้ การขนส่งไปมาหาสู่นั้นลำบากมาก เพราะตำบลหนองตรุด เส้นทางปิดรอบด้านเข้าไปไม่ได้นอกจากใช้เรือทางเดียวเท่านั้น

ปัตตานี สถานการณ์ยังคงทรงตัว ถนนหลายสายย่านเศรษฐกิจเขตเทศบาลเมืองปัตตานียังมีน้ำท่วมบริเวณไหล่ทาง ส่วนพื้นที่ ต.จะบังติกอ เขตเทศบาลเมืองปัตตานี บนถนนน้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้ ระดับน้ำ 40-50 ซม. ส่วนบริเวณถนนหลังวัง ระดับน้ำยังสูง 1.50 เมตร ประชาชนใช้เรือเป็นยานพาหนะ นอกจากนี้ถนนสาย 42 ปัตตานี-นราธิวาส ยังมีน้ำท่วม รถต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ส่วน ต.บาราเฮาะ ต.ตะลูโบ๊ะ น้ำเริ่มทรงตัว เนื่องจากเขื่อนบางลางหยุดปล่อยน้ำ และฝนเริ่มหยุดตก แต่ถนนทางหลวงชนบท ถนนในหมู่บ้าน รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ ระดับน้ำยังสูง 1.50-2 เมตร

สงขลา สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ที่อยู่ติดริมทะเลสาบสงขลา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั้งสองฝั่งตั้งแต่ อ.ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ สิงหนคร ควนเนียง บางกล่ำ และบางส่วนของ อ.หาดใหญ่ เมื่อวันจันทร์น้ำยังไม่ลดลง ขณะที่มีน้ำจากทะเลสาบสงขลาหนุนเข้าท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากมวลน้ำในคลองสาขา และมวลน้ำจาก จ.พัทลุง ที่ไหลลงมาสมทบ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โรงเรียนได้รับผลกระทบถูกน้ำท่วมทั้งหมด 86 โรงเรียน ในจำนวนนี้ต้องประกาศหยุดเรียนแล้ว 62 โรงเรียน เช่น โรงเรียนวัดป่าขาด อ.สิงหนคร โรงเรียนวัดท่าหิน และโรงเรียนวัดคูขุด อ.สทิงพระ บางโรงเรียนถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกรายงานสภาพอากาศว่า บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา (คาบสมุทรสทิงพระ) คลื่นสูง 2 เมตร

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้รวม 10 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยะลา สงขลา พัทลุง ตรัง สตูล นราธิวาส นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และกระบี่ รวม 109 อำเภอ 699 ตำบล 4,769 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 299,391 ครัวเรือน 960,126 คน เสียชีวิต 15 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 1 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 9 จังหวัด รวม 95 อำเภอ 657 ตำบล 4,590 หมู่บ้าน 282,140 ครัวเรือน 898,199 คน ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"