'ซาร่า'โต้โพสต์รูปท้องป่องเกาะกระแส'กอล์ฟ-ขวัญ'


เพิ่มเพื่อน    

       

 

             หลังจากที่มีดราม่าเรื่องความรักของนักร้องหนุ่ม กอล์ฟ-พิชญะ นิธิไพศาลกุล กับ ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์ ประจวบกับสาว ซาร่า คาซิงกินี ได้โพสต์ภาพตัวเองท้องตอน 4 เดือนในโซเชียล ทำให้สาวซาร่าถูกโยงว่ากำลังเกาะกระแสข่าวของกอล์ฟ-ขวัญหรือไม่ ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวในรายการ คุยแซ่บShow

             “ด้วยความที่ตอนไปญี่ปุ่นโทรศัพท์พัง พอกลับมาจากญี่ปุ่นเราไปเจอรูปเก่าๆ เราเห็นเราก็ อุ๊ย ตอนท้องนี่ ตอนที่เราท้อง เราไม่มีโอกาสได้โพสต์รูปเลย เราเห็นว่าน่ารักดีก็เลยลง เราโพสต์ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะมีข่าวคุณกอล์ฟกับคุณขวัญ ถ้าคนตามจริงๆแฟนคลับก็จะรู้ค่ะ จะมีแฟนคลับมาแก้ให้ว่าคุณซาร่าโพสต์ก่อนที่จะมีข่าวมีดราม่ากันเกิดขึ้น

             มีคนโจมตีหาว่าเราเกาะกระเเส ต้องการอะไร ก็มีเพื่อนๆส่งมาให้ดู เราก็ไม่ได้สนใจ ตอนที่เราโพสต์เราเห็นว่าโมเม้นท์ตอนท้องมันน่ารักดีอะไรอย่างนี้ ไม่ลบภาพค่ะ เรารู้ว่าความจริงมันคืออะไร เราลบไปมันเหมือนคนหนีปัญหามากกว่า เราแฮปปี้กับภาพเรา เห็นว่ามันน่ารักดีและมันไม่เกี่ยวอะไรกับอีกฝั่งหนึ่งเลย

             จริงๆ ตอนซาร่าท้อง ซาร่าก็ไปคุยกับไมค์เเละที่บ้านไมค์ อาจจะลงดีเทลไม่ได้ เป็นเรื่องของคนในครอบครัว ก็คือในเรื่องคุณขวัญกับซาร่ามันคนละเรื่องกันค่ะ ซาร่าขอไม่เอามารวมดีกว่า ความรู้สึกต่างค่ะ เพราะว่ามันคนละเรื่องด้วย และไม่ได้ทะเลาะกันด้วย เหมือนเราคือผู้ใหญ่คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวว่า เราจะจัดการเรื่องนี้ยังไง ถามความรู้สึกเราว่าตอนนั้นเรารู้สึกยังไง อยากให้มันเป็นออกมาเเบบไหน คุณพ่อคุณเเม่ก็รับฟังกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา

             คิดว่าคุณแม่ไมค์พูดจริงไหมเรื่องท้องก่อนแต่ง อันนี้หนูไม่รู้ ซาร่าไม่อยากออกความเห็นเรื่องนี้ เพราะมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับซาร่า บางทีเราพูดไปมันอาจจะกระทบ เพราะเราไม่ได้ไปนั่งคุยไปอยู่ในเหตุการณ์กับเขา เราไม่รู้ความจริงมันคืออะไร

             โพสต์ที่บอกว่าออกไปจากชีวิตเราเเละลูก ตอนนั้นเราไม่สบายแล้วมีคนส่งข้อความมาหาเยอะ เป็นกลุ่มคนที่ไม่หวังดีกับเรา ซึ่งเป็นข้อความที่ค่อนข้างเรียกว่าเสียดสีเรากับลูกเรา เรื่องนี้เป็นระยะเวลามาตั้งเเต่เรามีข่าววันเเรกจนถึงปัจจุบัน เเละมันค่อนข้างเยอะค่ะ เรารู้สึกว่าปีเเรกเดือนแรกเรายังพอแบบเออ เราต้องเจอแบบนี้แหละ เเต่จะ 4 ปีเเล้ว เจออีกแล้ว เราเลยรู้สึกว่าตื่นเช้ามาทำไมต้องเจออะไรพวกนี้ มันเป็นความรู้สึกที่เราป่วยด้วย อ่อนแอสภาพร่างกายจิตใจค่ะ มันเลยรู้สึกว่า เมื่อไหร่จะออกไปจากชีวิตเรากับลูกสักทีอะไรอย่างนี้

             ไม่ได้มีปัญหากับไมค์ค่ะ เพราะว่าเวลามีปัญหาเกี่ยวกับลูก เราจะพิมพ์ผ่านโซเชียลมันก็ไม่เกิดผลอะไรเเล้ว เราโทรหากันคุยเคลียร์เลย

            ข้อความที่เเรง เเละหนักที่สุด ส่วนมากจะเป็นเรื่องลูก ก็ว่าว่าเป็นลูกของคนอื่นทั้งๆที่ DNA มันก็ออกมาเเล้วนะ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องว่าแบบนี้ บางทีหาว่าเราขายลูกกิน บางทีคิดว่าเราเป็นเเม่เลี้ยงลูกไม่ดี คือเหมือนเขาจะหาจุดต่างๆที่เกี่ยวกับลูก แล้วมาว่าเรา เเละพอเวลาอ่านเเล้วมันเศร้า บางทีเรารู้สึกว่าเราพยายามมาก กับการเลี้ยงแม็กซ์เวลล์วันนี้ค่ะ แต่บางทีคนกลุ่มหนึ่งเขาก็ยังมองเราไม่ดี เราก็รู้สึกแย่ เราไม่อยากให้เเม็กซ์เวลล์โตมาเจอหรืออ่านข้อความอะไรพวกนี้ ที่มีคนมานั่งว่าเเม่เขา เรื่องที่บางทีมันไม่จริง หรือเขามโนกันขึ้นมามันค่อนข้างเเรง เราก็เลยกังวล คิดมากค่ะ ว่าถ้าวันหนึ่งเเม็กซ์เวลล์โตขึ้นมาเเละเห็นอะไรแบบนี้เขาจะรู้สึกยังไง

             ยังรอไมค์อยู่ไหม ไม่รอ เพราะว่าเราเป็นคนตัดสินใจเลิก ซาร่าเป็นคนเลือกที่จะเลิกเอง เเละเดินออกมา ก่อนที่เราตัดสินใจเดินออกมาเราไตร่ตรองเเล้ว คิดเเล้วว่าเราจะก้าวไปข้างหน้า มันความรู้สึกที่มีให้กันแบบแฟนมันหายไป คือเรื่องราวมันจะ 4-5 ปี มันผ่านตรงนั้นมาเเล้ว เราผ่านอะไรมาได้ด้วยตัวเอง         

             มีคนเข้ามาจีบไหม ก็มีมาเรื่อยๆค่ะ เข้ามาเเละก็ไป ทั้งนอกวงการและในวงการ อายุประมาณ 30-40 ไม่บอกเดี๋ยวรู้ นักร้องก็ร้อง นักแสดงก็แสดงด้วย เขาไม่เคยเเต่งงาน ตอนนี้โสด เขาจีบเราและก็โทรหา เฟสไทม์ ไลน์ บังเอิญเจอกันในห้องน้ำร้านอาหาร เราเข้าห้องน้ำผิดเขาก็ทักเราเป็นภาษาอังกฤษ เราก็บอกคนไทยค่ะ เขาบอกเราทำไมคุณเข้าห้องน้ำผิดนี่เป็นห้องน้ำผู้ชาย เราก็เลยเดินออกมา เขาก็เลยเดินตามมาคุยขอเบอร์ตั้งเเต่ตอนนั้น นั่งคุยกันนานมาก เขาก็เลยบอกว่าพี่ขอเบอร์ได้ไหม เราก็โอเคได้ คือเหมือนเราก็อาจจะมีโอเคคุยเล่นๆ เราก็ดูไปถ้าใช้เวลาในการคุย 2ปี 5ปี มันยังอยู่ขนาดนั้นมันก็อาจจะเป็นไปได้

             เขารู้ว่าเราเป็นใคร รู้ว่าเรามีลูกค่ะ คุยมาเป็นปีเเล้วนะ คือเหมือนคุยกันเเบบ ออนบ้างออฟบ้าง เหมือนมีช่วงเหนื่อยจีบเรา เขาก็หายไปจีบคนอื่น เเต่ว่าตอนเขาไปมีคนอื่นเราก็ไม่คุยกันนะคะ พอเขาเลิกเขาก็มาคุยกับเราอะไรอย่างนี้ เเต่เขามีประโยคพูดแบบว่า เขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องวนอยู่ในชีวิตซาร่าเรื่อยๆ คุณเล่นของป่ะเนี่ย

             เคยนั่งคุยกันแบบจริงจังละเราถามเขาว่าทำไมมาจีบผู้หญิงมีลูก ยูไปจีบผู้หญิงที่ไม่มีลูกก็ได้ สาวๆ สวยๆ กว่านี้ก็ได้ เขาบอกว่าเขาไม่เคยคิดว่า ผู้หญิงเคยเเต่งงานมีลูกไม่ใช่ว่าจะเป็นผู้หญิงไม่ดีอะไรอย่างนี้ เขาบอกคนเราอยู่ที่การวางตัว การพูดคุย อดีตคืออดีต เราก็เลยคิดว่าประโยคนี่แหละที่ยังกินใจเรามาจนปัจจุบัน

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากอินสตาแกรม @ sarahcasinghini

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"