เตือนแทรกแซงโพลนาฬิกาเพื่อนอาจขัดรธน.


เพิ่มเพื่อน    

    28 ม.ค.61- นายสิงห์ สิงห์ขจร ประธานคณะกรรมการศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพล กล่าวถึง กรณีนายอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ผอ.นิด้าโพล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว โดยระบุว่า เตรียมลาออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลว่าโดนจำกัดเสรีภาพทางวิชาการว่า รัฐธรรมนูญ 2560 ระบุค่อนข้างชัดเจนเกี่ยวกับเสรีภาพทางวิชาการ โดยเฉพาะตามมาตรา 34 วรรค 2 ที่ระบุตอนหนึ่งว่า “เวรีภาพทางวิชาการย่อมได้รับความคุ้มครอง แต่การใช้เสรีภาพนั้นต้องไม่ขัดต่อหน้าที่ของปวงชนชาวไทยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และต้องเคารพและไม่ปิดกั้นความเห็นต่างของบุคคลอื่น” ซึ่งตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ระบุว่ามาจากดุลยพินิจของผู้บริหาร ในการตัดสินใจไม่ให้เผยแพร่โพลที่เกี่ยวกับประเด็นที่ที่สังคมจับตา แต่การกระทำดังกล่าวนั้นอาจขัดต่อรธน. 2560 ซึ่งหากไม่ได้มองถึงประเด็นการเมือง การกระทำดังกล่าวย่อมทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารไม่ครบถ้วน ทั้งฝ่ายที่เห็นชอบและเห็นต่าง และส่งผลโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือของสำนักโพลที่อยู่ภายใต้มหาวิทยาลัยรัฐ และรัฐบาลโดยตรง 
    รวมทั้งในอนาคตการทำโพลอาจถูกตีกรอบให้แคบลง โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับภาพลักษณ์ด้านลบของรัฐ ทำให้ประชาชนไม่ได้เห็นผลโพลที่แท้จริง อย่างไรก็ตามผลสำรวจความเห็นของประชาชนนั้น บางเรื่องเป็นประโยชน์โดยตรงต่อภาครัฐ เป็นการแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข แต่หากมีเหตุการณืลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต สุดท้ายผลเสียจะตกอยู่กับทุกฝ่ายโดยไม่มีใครได้ประโยชน์เลย 
    ขณะที่นายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ชี้แจงกรณีที่มีการระงับผลสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “นาฬิกาหรูที่ยืมเพื่อน แค่บิดเบือนหรือพูดความจริง” ของศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล ทำให้นายอานนท์ จะยื่นใบลาออกจากตำแหน่งว่า กรณีการครอบครองแหวนเพชรและนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และยังไม่มีข้อยุติ ตนเห็นว่าหากมีการเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นนิด้าโพลหรือโพลไหนๆ จะกลายเป็นการชี้นำสังคม มีผลต่อการตัดสินได้ จึงไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แต่ถ้า ป.ป.ช.มีมติตัดสินมาแล้วว่ามีความผิด หรือไม่มีความผิด ก็สามารถทำโพลได้ว่าประชาชนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย 
    ส่วนที่ตนสั่งชะลอผลสำรวจความคิดเห็น เพราะการทำโพลในครั้งนี้ระบุไปถึงตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่งซึ่งไม่เป็นธรรมต่อบุคคลนั้นอย่างยิ่ง เพราะผลตัดสินยังไม่ออกมา ที่ผ่านมาตนไม่เคยไปแทรกแซงการทำโพล เพราะถือว่าเป็นสิทธิเสรีภาพทางวิชาการ แต่จะต้องแสดงความคิดเห็นที่ถูกต้อง ไม่ทำร้ายบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือสังคม การทำโพลแต่ละครั้งจะใช้กลุ่มตัวอย่างประมาณ 2,000 คน เป็นตัวแทนคนทั้งประเทศ ถ้าทำในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม ผลของโพลก็ชี้นำสังคมได้ ในอดีตที่ผ่านมาเรามีจุดยืนว่ามีความเป็นกลาง ไม่ว่าจะพาดพิงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลหรือไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลก็ตาม อย่างไรก็ตาม ตนคงต้องพูดคุยกับนายอานนท์เพื่อทำความเข้าใจ ส่วนที่วิจารณ์ว่ามีใบสั่งนั้น ในฐานะนักวิชาการยืนยันว่าไม่มีใบสั่ง และไม่มีใครครอบงำได้
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"