มหาอำนาจผู้โดดเดี่ยว!!!


เพิ่มเพื่อน    

 

 เวทีประชุมดาวอส หรือที่เรียกกันย่อๆ ว่าการประชุม WEF (World Economic Forum) ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่เพิ่งปิดฉากลงไปเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นเวทีที่คุณพ่ออเมริกาท่านโดนอัด โดนบี้ ทั้งจากด้านบน และด้านล่าง ชนิดแทบแบนเป็นแซนด์วิชแต๊ดๆ แต๋ๆ อยู่ตรงกลาง...
                                                            ----------------------------------------------
    คือจากบรรดาผู้ที่ลุกขึ้นมาประท้วงเวทีประชุมคราวนี้ หรือพวกที่ถูกเรียกขานกันในนาม โลกาภิวัตน์จากด้านล่าง ที่ระดมออกมาชูป้าย ไม่เอาทรัมป์-ไม่เอาถ่านหิน-ไม่เอาพลังงานฟอสซิล-ไม่เอาประเทศรูขี้ (Shit Hole)อย่างอเมริกา ฯลฯ เป็นต้น และทั้งจากผู้ซึ่งจัดเวทีการประชุมเช่นนี้ขึ้นมา หรือที่เรียกๆ กันว่าพวก โลกาภิวัตน์จากด้านบน อันประกอบด้วย อีลิท ระดับโลกทั้งหลาย เช่นบรรดาพวกนายธนาคาร นักอุตสาหกรรม นักบริหารธุรกิจ ฯลฯ ที่ให้การยกย่อง เชิดชู โลกาภิวัตน์และการค้าเสรีมาโดยตลอด และออกจะหงุดหงิด รำคาญ กับนโยบาย America First ของ ทรัมป์บ้า ยิ่งขึ้นทุกที...
                                                          -----------------------------------------------
    เฉพาะประเด็นหัวข้อการประชุมที่กำหนดเอาไว้ให้ว่ากันด้วยเรื่อง Fractured World หรือโลกที่กำลังย่อยแยกแตกกระจาย อันเนื่องมาจากการยื้อแย่ง แข่งขัน การชิงความได้เปรียบ เสียเปรียบ ในทางเศรษฐกิจ ที่อาจส่งผลนำมาซึ่งความไร้เสถียรภาพในระดับสังคม ประเทศ และภูมิภาค ก็พอสะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนว่า บรรดาผู้ที่จัดการประชุมคราวนี้ คงไม่ถึงกับชอบหน้า ทรัมป์บ้า มากมายซักเท่าไหร่ เพราะนับวันนโยบาย America First ของประธานาธิบดีอเมริกันรายนี้แทบไม่ได้ต่างอะไรไปจากความปรารถนา ความต้องการ ที่จะ รื้อฟื้นลัทธิป้องกันกีดกันทางการค้า ขึ้นมาใหม่ หรือถึงขั้นแทบกลายเป็นการประกาศ สงครามทางการค้า ไปแล้วก็ว่าได้...
                                                            -------------------------------------------------
    ไม่ว่าโดยอาศัยมาตรการทางภาษีกีดกันการส่งออกเหล็กจากยุโรป อาศัยมาตรการแซงก์ชั่นรัสเซียบีบบังคับธุรกิจพลังงานในยุโรปไม่ให้เหลือทางออก ทางเลือก ขึ้นภาษีเครื่องซักผ้า แผงผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ จากจีน จากเกาหลีใต้ เผลอๆ อาจกำลังเตรียมเล่นงานบริษัท Alibaba ของ แจ็ก หม่า ให้เดี้ยงไปเป็นแถบๆ ฯลฯ ก็ด้วยเหตุผล ข้ออ้าง ในเรื่อง America First นี่เอง อันเป็นสิ่งที่อาจทำให้โลกทั้งโลกย่อยแยก แตกร้าว แตกสลาย ไปเพราะความพยายามแย่งยื้อ แย่งชิง ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ โดยประเทศที่มีสถานะเป็นถึง มหาอำนาจสูงสุด ของโลก...
                                                            ---------------------------------------------------
    ต่างไปจากมหาอำนาจรายใหม่ หรือมหาอำนาจคู่แข่งอย่างคุณพี่จีน ที่การประชุมในเวที WEF คราวนี้...อาจถือเป็นการ เข้าทางตีน คุณพี่จีน พอดิบพอดี คือสามารถใช้พื้นที่เวทีเป็นที่ป่าวประกาศโฆษณาถึงแนวนโยบายของจีน โดยเฉพาะในเรื่องอภิมหาโครงการ One-Belt, One Road หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าโครงการ BRI (Belt and Road Initiative) ที่มุ่งจะแปรเปลี่ยน การแข่งขันทางเศรษฐกิจ  ให้กลายมาเป็น ความร่วมมือในทางเศรษฐกิจ ลดการยื้อแย่ง แข่งขัน การแย่งชิง กีดกัน ที่มักนำมาซึ่งความพ่ายแพ้และชัยชนะ แบบ Zero-Sum-Game ทั้งหลาย ให้กลายเป็นการ Win-Win ไปด้วยกันทุกฝ่าย อันทำให้บรรดาผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนไม่น้อย หันมาสรรเสริญ เยินยอคุณพี่จีน กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ต่างไปจากคุณพ่ออเมริกา ที่แม้ว่า ทรัมป์บ้า พยายามอธิบายว่า America First นั้น ไม่ใช่อเมริกาขอเอาก่อน โดยไม่คิดจะให้ใครเอาด้วยเลย แต่จะเอากันไป-เอากันมาด้วยกันทุกฝ่าย แต่ดูๆ แล้ว ไม่น่าจะมีใครเชื่อน้ำยาซักเท่าไหร่...
                                                               ---------------------------------------------------
    สรุปง่ายๆ ว่า...จากเวทีประชุมคราวนี้ อาจถือเป็นภาพสะท้อนอย่างชัดเจนว่า ประเทศมหาอำนาจสูงสุดของโลกอย่างคุณพ่ออเมริกานั้น ได้กลายเป็น มหาอำนาจสูงสุดผู้โดดเดี่ยว หรือ อเมริกาโฮมอโลน ไปแล้วก็ว่าได้ และจากภาพเช่นนี้นี่เอง ที่ประเทศเล็กๆ อย่างไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา ควรนำมาใช้เป็นองค์ประกอบในการกำหนดระยะต่อ ระยะเคียง กับบรรดามหาอำนาจทั้งหลาย ให้พอเหมาะ พอควร เข้าไว้ แม้ว่าจะ หลวมตัว ถูกลากไปร่วมล่มหัว จมท้าย ร่วมประชุมในเวทีแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา เมื่อไม่นานมานี้ อันเป็นเวทีที่ถูกวิพากษ์ วิจารณ์ว่า เป็นความพยายามจัดตั้ง พันธมิตรทางทหาร เพื่อเล่นงานประเทศเกาหลีเหนือกันโดยเฉพาะ หรือเป็นเวทีที่มหาอำนาจอย่างจีนและรัสเซีย ถึงกับออกมากล่าวตำหนิ ร่วมประณาม ว่าเป็นความพยายามทำลายการแก้ปัญหาคาบสมุทรเกาหลีด้วยวิธีสันติ อันเป็นสิ่งที่จีนและรัสเซียพยายามนำเสนอมาโดยตลอด...
                                                              ---------------------------------------------------
    แต่ยังถือว่า...ด้วยเหตุเพราะเป็นประเทศเล็กๆ อย่างประเทศไทย คงไม่ถึงกับมีใครถือสา หาความ มากมายซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะเมื่อตัวแทนจากประเทศไทย อย่างท่านทูต วีรชัย พลาศรัย ท่านแอบไปยืนอยู่หลังสุดโน่นเลย เวลาถ่ายรูปบนเวที คล้ายๆ ว่าพร้อมจะ แฉลบออกข้าง ได้ทุกเมื่อ ส่วนเมื่อได้รับการแต่งตั้งให้ไปเป็นทูตไทยประจำวอชิงตันคราวล่าสุดท่านจะ แฉลบ ออกไปทางไหน จะ คร่อกก์ก์ก์ จะ แสบ เพื่อผลประโยชน์แห่งชาติ ผลประโยชน์ประเทศไทยได้มาก-น้อยเพียงใด อันนั้น...คงต้องค่อยๆ ติดตามกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...ถ้ายังคิดจะห้อยโตงเตงอยู่แถวๆ หว่างขาสหรัฐแบบเดิมๆ อีกต่อไป โอกาสที่จะต้องปอกกล้วยเปลี่ยวในบ้านร้าง ย่อมเป็นไปได้ทุกเมื่อ...
                                                          -----------------------------------------------------
    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Lycurgus of Sparta (อีกครั้ง...อีกครั้ง...และอีกครั้ง)... Close alliances with despots are never safe for the free states.- เป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับรัฐที่วางอำนาจกดขี่ ไม่เคยเป็นความปลอดภัยสำหรับเสรีรัฐทั้งหลาย...
                                                            ------------------------------------------------------
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"