'สัญญาประชาชาติ' บิ๊กป้อม


เพิ่มเพื่อน    

    ยากเอ่ยคำ "กลั่นจากอก"...........
    แต่พลัน "จันทร์ตรีโกณอังคาร" 
    ณ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ปีระกา ตรงกับพุธ ๓๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๑
    พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ คสช.จำเอ่ย
    "............ถ้าประชาชนไม่ต้องการ 
    ผมก็พร้อมที่จะ..จะ..จะไปจากตำแหน่งนี้ 
    เพราะฉะนั้น อยากจะฝากกับสื่อว่า อยากให้ดูว่า ผมทำงานมาตลอด ๕๐ ปี ได้ทำอะไรไว้บ้าง?" 
    ครับ....คืนวาน 
    อาถรรพณ์สรรพคราสเค้นจันทร์ร้องไห้จนน้ำตาเลือดอาบฟ้า โหราจารย์บอกว่า
    ระวัง จะเป็นน้ำตาจากทุกข์ทนหม่นไหม้ชาวประชา และนั่น นำสู่การ "พลิกฟ้า-พลิกดิน" อีกครั้ง ที่ไม่คาดกันมาก่อน!
    แต่สรุปว่า..........
    บ้านจะสุข เมืองจะมีสง่าราศี กับสิ่งดี-สิ่งใหม่!
    ไม่ต้องไปถอดรหัส หรือตีความกับวลี "ผมพร้อมที่จะไปจากตำแหน่งนี้" ของพลเอกประวิตร
    คำพูดทหาร ชัด ตรงตัว ไม่อ้อมค้อม เมื่อท่านเอ่ยผ่านสื่อถึงสาธารณะว่า "พร้อมจะไป"
    ก็หมายความว่า ท่านตัดสินใจแล้ว......
    ตัดสินใจ "ไปจากตำแหน่งรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม" แน่นอน!
    เพราะเงื่อนไขการไป-ไม่ไปของท่าน ที่ว่า "ถ้าประชาชนไม่ต้องการ" นั้น
    มัน "ชัด" และ "ใช่" อยู่แล้ว!
    มิใช่ "ไม่ต้องการท่าน" เพียงแต่ในสถานการณ์นี้ อยากให้ท่าน "เห็นแก่สถานการณ์"
    "สลับหน้าชน" บ้างเท่านั้น!
    ๕๐ ปี ในงานราชการทหาร และอีก ๓ ปี ๘ เดือน ในงานรัฐบาล คสช.
    เพื่อส่วนร่วม เพื่อธำรงความมั่นคงประเทศและสถาบัน 
    พลเอกประวิตร......
    ท่าน "เสียสละ" เพื่อสิ่งนั้น เป็นที่ประจักษ์มามากแล้ว
    และการประกาศ "จะไปจากตำแหน่งนี้"
    นี่ ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง..........
    อาจหาญยิ่งใหญ่ พิสูจน์ชายชาติทหารในการเสียสละของท่าน     
    ในเมื่อ......ประชาชน 
    พอใจ-ต้องการ ให้น้องร่วมสาบานท่าน เป็น "กระบี่เดียวค้ำฟ้า"
    มีอันใดเล่า ที่พี่ใหญ่จะไม่ยินดี!?
    น้องสำเร็จ เท่ากับพี่สำเร็จ ในงานกอบกู้ ชาติ-ราชบัลลังก์ และสังคมชาติ ที่ร่วมเป็น-ร่วมตายด้วยกัน จาก ๒๒ พฤษภา ๕๗
    ครั้งนี้ เพียงพี่ถอยตามยุทธวิธี 
    จากแถวหน้า ไประวังหลังอยู่ในสถานะ "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ"
    สลายแผน "ฝ่ายตรงข้าม" วืดไปทันที........
    ตารุก-ตาฆาตในกระดานหมากจะเปิดโล่ง ให้ คสช.ทิ่มเบี้ย โคนเบียด ม้าสกัด สะกดด้วยเรือ รุกไล่
    เดี๋ยวก็เหลือพื้นที่เดิน แค่ "โรงพัก" กับ "ห้องรอประกัน" เท่านั้นแหละ!
    ตลอดชีวิตท่าน ดูเหมือน เมื่อวาน (๓๑ ม.ค.๖๑)
    เป็นครั้งแรก ที่ท่านยืนหน้าไมค์ ด้วย "ความในใจ" ที่ถอดร้อยเรียงลงแผ่นกระดาษพร้อมสรรพ
    เป็นใครๆ ก็ไม่ง่ายเลย
    พูดน่ะไม่ยาก...........
    แต่การพูดเหมือนประกาศ "ลาแล้ว" จากตำแหน่งทางการเมืองในรัฐบาล คสช.ประหนึ่ง "จำใจ" ต่อหน้าพี่น้องทหาร และบรรดานักข่าว
    มัน "ยากจริงๆ"!
    ดังนั้น แม้ร่างไว้ล่วงหน้า แต่เมื่อถึงคราเอ่ยข้อความสำคัญสุดท้าย ก้อนแห่งความอัดอั้น จะระคนน้อยเนื้อต่ำใจ หรือคับแค้นอันใด ก็ยากเดา
    ท่านสะดุดตรงคำว่า ผมพร้อมที่...จะ...จะ...อยู่ ๒-๓ ครั้ง 
    ก่อนต่อประโยคให้สมบูรณ์ ด้วยเนื้อความว่า
    "............จะไปจากตำแหน่งนี้"!
    อย่าว่าแต่เจ้าของคำเลย ผมเชื่อว่าผู้ฟังคำแทบทุกคนก็รู้สึกสะท้อน ด้วยเข้าใจ-เห็นใจท่าน
    เท่ากับที่ท่าน "เข้าใจประชาชน"
    และ "เห็นน้ำใจ"........
    น้องเล็กของท่านที่ชื่อ "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา"!
    ใครอยู่ในจุดนี้ ก็เหมือน "พี่ใหญ่-น้องเล็ก" คู่นี้ มันยากจริงๆ ทั้งการตัดสินใจ และการทำใจ
    "ทำงานใหญ่ น้ำใจต้องไม่ฟุ่มเฟือย"
    ถึงตอนนี้ ผมชักจะเข้าใจและเห็นใจท่านประธาน "เหมาเจ๋อตง"
    ว่าการปลดแอกประชาชนสู่ความเป็น "จีน" ยิ่งใหญ่วันนี้
    "สหายต้องตายให้สหาย" ไปไม่รู้เท่าไหร่?
    เอาล่ะ...........
    เมื่อพี่ใหญ่ประกาศ "พร้อมลาออก" เช่นนี้ พลเอกประยุทธ์ ในฐานะ "หัวหน้ารัฐบาล" จะทำอย่างไรต่อไป?
    นี่...ทั้งมิตร ทั้งศัตรู จ้องดูเขม็ง!
    พูดกันทางการเมือง รัฐมนตรีเมื่อประกาศต่อสาธารณะเช่นนี้ ถือว่า "มีผล" ในทางลาออกไปแล้ว
    แต่รัฐบาลเผด็จการ จะยึดธรรมเนียมปฏิบัตินั้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับท่านนายกฯ
    ผมว่าพี่กับน้องคงได้หารือกัน ก่อนพี่ใหญ่จะตัดสินใจประกาศต่อสาธารณะเมื่อวาน
    ดังนั้น ไม่นานเกินการณ์ "การสลับตัวเดิน" ก็ต้องได้เห็น
    นายกฯ คงต้องนั่งควบเก้าอี้ "รัฐมนตรีกลาโหม" แทนพลเอกประวิตร 
    ไปน่ะ ไม่ใช่ไปลับหรือไปเลย หากแต่ไปคุมทัพอยู่ใน "บอร์ด คสช." ซึ่งคุมนโยบายรัฐบาลอีกที!
    ผมขอย้ำ..........
    เรื่อง "เลื่อนเลือกตั้ง" นั้นน่ะ ประชาชนไม่ซีเรียส จะปลายปี ๖๑ หรือต้นปี ๖๒ ไม่ต่างกันตรงไหน
    และก็พอเข้าใจ ถ้าผมเป็นรัฐบาล ผมก็ต้องเลื่อน โดยทิ้ง "ช่วงห่าง" ไว้แบบนี้
    เพราะอะไรน่ะหรือ?
    คืออย่างที่ผมเคยคุยตรงนี้ไป ๒-๓ ครั้งแล้ว บ้านเมืองอยู่ในช่วงรอยต่อแผ่นดิน
    งาน "ถวายพระเพลิงพระบรมศพ" ผ่านไปแล้วก็จริง
    แต่ขณะนี้ อยู่ในช่วงรื้อถอนและย้ายพระเมรุมาศออกจากท้องสนามหลวง 
    ไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และอาคารจัดแสดงนิทรรศการที่ จ.ปทุมธานี
    ใช้เวลาประมาณ ๒ เดือน ตามกำหนด ราวๆ กลางเดือนมีนา ๖๑ นั่นแหละ จะแล้วเสร็จ
    และส่งมอบพื้นที่ให้ กทม.ปรับแต่งภูมิทัศน์ต่อไป
    แต่ที่สำคัญสูงสุด..........
    ต้องไม่ลืม บ้านเมืองยังมีพระราชพิธีสำคัญยิ่ง ที่ต้องกระทำต่อจากนี้รออยู่พระราชพิธีหนึ่ง 
    คือ "พระราชพิธีบรมราชาภิเษก"
    "พระเจ้าแผ่นดิน รัชกาลที่ ๑๐"
    คงจำกันได้ "นายพรเพชร วิชิตชลชัย" ประธาน สนช. กราบบังคมทูลเชิญ
    "สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร" องค์พระรัชทายาท 
    เสด็จขึ้นทรงราชย์ เป็นพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ ตามกฎมณเฑียรบาล 
    ว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ.๒๔๖๗ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
    ระหว่างที่ประชาชนยังมิได้ถวายพระปรมาภิไธย เนื่องในการพระราชพิธี "บรมราชาภิเษก" ตามพระราชประเพณี 
    "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระปรมาภิไธยว่า "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร"
    หมายความว่า ขณะนี้ อยู่ระหว่างไปสู่ขั้นตอน "พระราชพิธีบรมราชาภิเษก"
    เมื่อมีพระราชพิธีแล้ว จึงจะขานพระนามพระองค์ว่า
    "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร"
    ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็น "ในหลวง" รัชกาล ที่ ๑๐ ครบถ้วน สมบูรณ์ ทุกประการ
    ส่วนจะกำหนดวันไหน เมื่อไหร่  เป็นพระราชวินิจฉัย 
    ในทางรัฐบาล.........
    เท่าที่ทราบ รองฯ วิษณุ เครืองาม มอบให้ "กระทรวงวัฒนธรรม" จัดเตรียมงานเกี่ยวกับ "พระราชพิธีบรมราชาภิเษก" แล้ว เมื่อกลางเดือนมกรา
    พระราชพิธีสำคัญยิ่งเช่นนี้ พูดถึงด้านรัฐบาล ต้องตระเตรียมต้องติดต่อประสาน ทั้งในและนอกประเทศมากมาย
    พูดกันจริงๆ งานระดับนี้ ๖ เดือน เพื่อการเตรียมให้พร้อม ไม่แน่ว่าจะพอ
    ดังนั้น ถ้าจะกำหนดวันเลือกตั้ง ตามที่กะการณ์ไว้เดิมว่า ราวๆ เดือนพฤจิกา
    เสี่ยงมาก ที่งานพระราชพิธี กับการหาเสียงเลือกตั้ง หรือการเลือกตั้ง อาจประจวบเวลาคาบเกี่ยวกัน
    ซึ่งไม่เหมาะสมเลย อีกทั้ง เมื่อประกาศวันเลือกตั้ง รัฐบาลก็จะอยู่ในฐานะ "รักษาการ"
    ไม่ถูกต้อง-ไม่เหมาะสมเช่นกัน 
    ถ้าพระราชพิธีสำคัญยิ่งนั้น ผู้รับสนองพระราชโองการ จะเป็นรัฐบาลรักษาการ
    เมื่อตรองตามนี้ ผมเข้าใจ และเห็นในความจำเป็น ที่ต้องเลื่อนเลือกตั้งด้วยเงื่อนไข ประกาศกฎหมายเลือกตั้งไปก่อน ๙๐ วัน แล้วจึงจะมีผลบังคับใช้
    ส่วนจะเลือกตั้งวันไหน ค่อยว่ากันต่อจากนั้น?
    เป็นเรื่องความรอบคอบของรัฐบาล บนความรับผิดชอบ มากกว่าเป็นเล่ห์-เป็นเหลี่ยม หวังอยู่ในอำนาจเผด็จการนานๆ
    ก็อยากให้ตรองกันตามนี้..............
    และไอ้พวกกเฬวรากแผ่นดิน ที่กระดี๊-กระด๊า นึกว่ารัฐบาลประยุทธ์ขาลง แล้วแห่กันรุมทึ้งนั่นน่ะ
    ต่อให้พ่อมึงทั้งยูเอ็นยกมามะรุมมะตุ้มด้วย
    จะแจก "กล้วย" เป็นซูวีเนียร์ให้คนละใบ!               


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"