กองปราบลุยหาหลักฐาน ครูปรีชาเสียงแข็งไม่กลัว


เพิ่มเพื่อน    

“อัจฉริยะ” ขย่มซ้ำยันมีไทม์ไลน์ขบวนการชิงหวยชัด ครูปรีชายังมั่นใจย้ำความจริงเป็นความจริง ไม่วิตกที่กองปราบฯ มาดูคดี “ผกก. 5 ป.” เผยยังไม่มีหนังสือเป็นทางการโอนคดี แต่ขนทีมลงพื้นที่เช็กข้อมูลรอแล้ว “ทนายตั้ม” เฮคดีเปลี่ยนมือ ชี้เรื่องไม่ควรรกศาลหากต้นทางยุติธรรมไม่บิดเบี้ยวแต่แรก
    เมื่อวันพุธ ยังคงมีความต่อเนื่องในกรณีหวยอลเวง 30 ล้านบาท ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ กับครูปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการโรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะกรณีล่าสุดเมื่อนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ให้เวลา 3 วันในการให้ครูปรีชาทบทวนและสารภาพก่อนจะเป็นครูจอมทรัพย์ 2 
โดยล่าสุด นายอัจฉริยะได้โพสต์ข้อความในเพจชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม “ว่าหมดเวลาแล้ว ครูปรีชา หลักฐานอีกชิ้นข้อตกลงการแบ่งเงินรางวัลให้ บ้าบิ่น 15 ล้านคนละครึ่งกับครู” นอกจากนั้น นายอัจฉริยะระบุว่า มั่นใจอยู่ว่าครูปรีชาไม่มีลอตเตอรี่ตั้งแต่แรก ไม่มีเลข 533726 ตามที่อ้างว่าทำหล่นหาย เรามีหลักฐานหมด ไทม์ไลน์ของขบวนการนี้ทำอย่างไร ไม่ต่างอะไรกับคดีครูจอมทรัพย์ ที่แบ่งหน้าที่กันทำ คดีนี้มีข้อครหาเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐมากมาย พบความไม่ปกติตั้งแต่วันที่ 2-28 พ.ย.2560 มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ความเป็นธรรมจึงไม่เกิด 
“จริงๆ คดีนี้มีพยานสำคัญแค่ 6 ปาก ถามจริงๆ ถ้าลอตเตอรี่ 30 ล้านหาย ต้องรีบแจ้งความไหม ทำไมรู้ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.2560 ว่าลอตเตอรี่หาย ดันโทร.ไปหาแม่ค้าแล้วทั้งคืนคุณไม่ทำอะไร จนวันที่ 1 พ.ย.หวยออกแล้วก็ยังไม่ทำอะไร จนมีนารีขี่ม้าขาวมาที่บ้านบอกว่าถูกรางวัลที่ 1 นะ ก็ยังไม่ทำอะไรอีก จนวันที่ 2 พ.ย.ค่อยไปแจ้งความ" นายอัจฉริยะระบุ
ด้านครูปรีชาเปิดใจว่า รู้สึกดีที่มีการโอนคดีไปให้กับกองปราบฯ เป็นผู้ทำ และไม่ได้รู้สึกเครียดหรือวิตกกังวลแต่อย่างใด เพราะให้การตามความเป็นจริงมาโดยตลอด และยังเชื่อมั่นว่าต่อให้นำคดีนี้ไปให้หน่วยงานไหนทำ ความจริงก็ยังคงเป็นความจริง ทุกวันนี้ก็ยังคงมาทำงานสอนหนังสือตามปกติ ไม่ได้วิตกกังวลในเรื่องของคดีนี้แต่อย่างใด ปล่อยให้เรื่องทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ 
“เรื่องที่บอกว่ามีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างผมกับแม่ค้าลอตเตอรี่นั้น ยังไม่เคยเห็น และยังไม่เคยได้ยิน แต่ก็คิดว่าคงไม่มีอะไร เพราะไม่เคยสร้างหลักฐานเท็จ และข้อมูลทุกอย่างก็ได้ให้กับเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว” ครูปรีชากล่าว
ส่วนความเคลื่อนไหวของนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ้บ้าบิ่น แม่ค้าที่ขายลอตเตอรี่ที่อ้างว่าขายให้กับครูปรีชา ซึ่งปกติจะตั้งแผงขายประจำอยู่ที่บริเวณด้านหน้าของธนาคารกสิกรไทย สาขากาญจนบุรี และ น.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ้พัช แม่ค้าขายลอตเตอรี่ที่อ้างว่าขายลอตเตอรี่ให้นางรัตนาพร ซึ่งปกติจะตั้งแผงขายตรงข้ามธนาคารกสิกรไทย สาขากาญจนบุรีเช่นกัน ในวันพุธกลับไม่ได้มาตั้งแผงขายสลากแต่อย่างใด
    พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบคดีนี้ว่า  ตำรวจกองปราบปรามและพนักงานสอบสวนจะลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุในจุดที่แม่ค้าลอตเตอรี่มานั่งขาย, จุดซื้อ, จุดที่อ้างว่าทำหล่น และจุดอื่นๆ ที่มีพยานบุคคลยืนยันเหตุการณ์ต่างๆ ของแต่ละฝ่าย เนื่องจากก่อนหน้านี้ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนที่ทำคดีร่วมกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 คือ กองกำกับการ 5 กองปราบปราม จึงมีหลายจุดที่พนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนสอบสวนชุดใหม่ที่ถูกแต่งตั้งขึ้น ยังสงสัยในลำดับเหตุการณ์และต้องการเห็นสภาพพื้นที่เกิดเหตุที่แท้จริง เพื่อยืนยันคำให้การของพยานของแต่ละฝ่าย 
    ด้าน พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้กำกับการ 5 กองปราบปราม กล่าวว่า ถึงขณะนี้ยังไม่มีหนังสืออย่างเป็นทางการเรื่องโอนคดีดังกล่าวมาให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทำคดี แต่ระหว่างที่รอเอกสารนั้น จะทำงานล่วงหน้าไปก่อน โดยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แต่ทั้งหมดต้องรอสำนวนคดีที่ตำรวจภูธรภาค 7 รวบรวมได้มาใช้ในการสืบสวนสอบสวนของทีมที่กองปราบปราม ส่วนการสอบสวนพยานบุคคลของทั้งสองฝ่าย ยังไม่มีการเชิญมาสอบสวน เนื่องจากต้องรอสำนวนคดีที่ตำรวจภูธรภาค 7 รวบรวมไว้มาศึกษารายละเอียดและประเด็นต่างๆ ก่อน จึงเรียกพยานบุคคลที่ชุดสืบสวนสอบสวนมีข้อสงสัยมาให้ปากคำเพิ่มเติม เชื่อว่าหากได้สำนวนการทำคดีก็ดำเนินการได้ทันที
      ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะระบุว่ามีคลิปเสียงหลักฐานการพูดคุยกันระหว่างแม่ค้าลอตเตอรี่และนายปรีชา ทำนองว่าไม่ได้เป็นคนซื้อลอตเตอรี่ชุดดังกล่าว และได้มอบพยานหลักฐานดังกล่าวให้กับตำรวจกองปราบปรามนั้น ชุดสอบสวนยังไม่ได้หลักฐานดังกล่าวจากนายอัจฉริยะ ซึ่งคลิปดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ได้จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในคลิปดังกล่าวได้ว่ามีการพูดคุยสนทนากันในรูปแบบใด และจะถูกนำมาใช้เป็นพยานหลักฐานในการสืบสวนสอบสวนหรือประกอบในสำนวนคดีหรือไม่
       ต่อมาเวลา 16.00 น. พ.ต.อ.ชาคริตและ พ.ต.อ.ภูมินทร์ได้นำทีมสืบสวนของ กก.5 บก.ป. ลงพื้นที่ตลาดเรดซิตี้ อ.เมืองฯ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับคำให้การของนายปรีชาให้การไว้ว่ามารับลอตเตอรี่จากแม่ค้าเจ้าประจำที่สั่งซื้อเอาไว้ก่อนไปเดินหาซื้อกับข้าว กระทั่งทำลอตเตอรี่หาย เพื่อหาข้อเท็จจริงว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร
ขณะที่นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีถูกเชิญเข้าไปเป็นที่ปรึกษากฎหมายของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดีหวย 30 ล้านบาท ว่า ยังไม่ทราบว่ามีการเชิญไปเป็นที่ปรึกษาคดีดังกล่าว ก็ต้องดูว่าพนักงานสอบสวนจะเข้ามาปรึกษาสอบถามข้อกฎหมายอย่างไรบ้าง ส่วนที่ก่อนหน้านี้เคยแสดงความเห็นในคดีนี้ไปแล้วนั้น ก็ไม่มีผลต่อรูปคดีในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย
“ผมให้เหตุผลในการศึกษาพยาน ว่าพยานปากไหนน่าเชื่อถือได้ จะสอบอย่างไรให้พยานมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น คงไม่ไปบอกว่าใครเป็นยังไง ผมเพียงวิเคราะห์ให้ฟังว่าพยานที่จะไปถึงศาล ศาลจะรับฟังได้หรือไม่ เรื่องพยานจึงเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนต้องทำ ว่าจะต้องทำอย่างไรให้เชื่อถือมากยิ่งขึ้น ผมเคยสอนสถาบันสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สอนพนักงานสอบสวนมาตลอด พนักงานสอบสวนต่างจังหวัดก็มีโทร.มาหารือว่าควรจะทำอย่างไร แต่เราไม่ก้าวล่วงดุลพินิจ เราให้คำแนะนำเท่าที่ทำได้" นายประเมศวร์กล่าว
    ด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม  เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความของ ร.ต.ท.จรูญ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ในที่สุดคดีแก๊งโจรชิงหวยของคุณลุงจรูญที่ถูกดำเนินการมาอย่างบิดๆ เบี้ยวๆ ก็ถูก ผบ.ตร.สั่งให้กองปราบฯ เข้ามารับผิดชอบแทน ภ.7 ต่อจากนี้ประชาชนทั้งประเทศก็ต้องช่วยกันติดตามต่อไป ว่าผู้รับไม้ต่อจะสร้างความยุติธรรมและสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมไทยได้มากน้อยแค่ไหนเพียงใด
“คดีคนส่วนใหญ่ล้วนให้ความเห็นพร้อมสรุปว่าต้องให้ไปจบที่ศาลตัดสินว่าใครคือเจ้าของหวยที่แท้จริง ผมเองเห็นด้วยครับ แต่ต้องเป็นกรณีครูปรีชาและพยานต้องมั่นใจในพยานหลักฐานยื่นฟ้องเองต่อศาล แต่ที่ผ่านมาครูกลับยืมมือตำรวจเข้ามาจัดการตั้งแต่เริ่มต้น ดังนั้นความบิดเบี้ยวของคดีมันก็เลยเกิดขึ้น”นายษิทราระบุ
นายษิทรายังโพสต์ว่า คดีลุงจรูญง่ายแสนง่าย และไม่ซับซ้อนอะไรเลย จำเป็นที่ต้องนำขึ้นสู่ศาล มาเป็นคดีที่รกศาล เสียงบประมาณของทางราชการกับเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วยหรือ ถ้าทุกฝ่ายทำกันด้วยความบริสุทธิ์ใจและเที่ยงธรรม เพราะคดีนี้เริ่มต้นก็มีพิรุธแล้ว และภาระการพิสูจน์ต้องอยู่ที่ครูปรีชาที่ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าหวยที่อ้างนั้นเป็นของครูปรีชาจริงๆ โดยปราศจากข้อสงสัย และต้องพิสูจน์ด้วยว่าคุณลุงจรูญไปลักขโมย ยักยอกหรือรับของโจรจากใครด้วยวิธีการใด ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีพิสูจน์ฝ่ายผู้กล่าวหาด้วย และตรงกับตัวบทกฎหมายที่คนส่วนใหญ่มองข้ามกัน เพราะส่วนใหญ่เข้าใจผิดและคิดอยู่อย่างเดียวว่าผู้ถูกกล่าวหาต้องหาพยานหลักฐานมาแก้ข้อกล่าวหาแต่เพียงฝ่ายเดียวให้ได้ เมื่อหาไม่ได้ก็ต้องสั่งฟ้องลูกเดียว ซึ่งวิธีการนี้น่าจะมีการปรับแนวคิดได้แล้ว โดยเฉพาะตำรวจที่เป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม 
“คุณครูกับพวกย่ามใจคิดว่าตนเองเป็นต่อ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะตั้งประเด็นคำถามให้ครูและพยานตอบ ผมจะถามโดยที่คุณลุงไม่จำเป็นออกอาวุธอะไรเลย ผมจะยึดตัวบทกฎหมายให้ครูกับพวกพิสูจน์พยานหลักฐานฝ่ายตนจนปราศจากข้อสงสัย แล้วมาลองดูกันว่าอย่างนี้หรือที่จะมาแจ้งข้อกล่าวหาและจะมาสั่งฟ้องคุณลุง” นายษิทราระบุ.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"