สภาคองเกรสของสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายที่ล่าช้าจนก่อปัญหาชัตดาวน์รอบที่ 2 ในห้วง 3 สัปดาห์แล้วเมื่อวันศุกร์ ส่งให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนาม

แฟ้มภาพ AFP

    เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 ว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายงบประมาณฉบับนี้ด้วยคะแนน 240 ต่อ 186 เพื่อขยายเวลาการใช้จ่ายงบประมาณชั่วคราวไปจนถึงวันที่ 23 มีนาคม ก่อนหน้านั้น 3 ชั่วโมง ร่างกฎหมายนี้เพิ่งผ่านวุฒิสภาด้วยมติ 71 ต่อ 28 โดยคาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะลงนามให้มีผลทันทีในวันศุกร์ ก่อนหน้าที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางจะเริ่มงานในสัปดาห์ใหม่
    เมื่อวันศุกร์ สหรัฐเผชิญการชัตดาวน์เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากวุฒิสภาไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายได้ก่อนเส้นตายเที่ยงคืนวันพฤหัสบดีด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ครบทั้ง 100 เสียง เนื่องจากแรนด์ พอล สมาชิกวุฒิสภาหัวอนุรักษนิยมพรรครีพับลิกัน คัดค้าน อ้างว่าไม่เห็นด้วยกับการผ่านร่างกฎหมายความหนา 650 หน้าฉบับนี้แบบเร่งรัด ทั้งที่มีการเพิ่มงบใช้จ่ายมหาศาลและเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลาง
    ร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบจากทั้ง 2 พรรคที่เจรจาต่อรองกันอย่างเคร่งเครียด จะเพิ่มงบประมาณสำหรับ 2 ปีข้างหน้า และเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางไปจนถึงเดือนมีนาคม 2561 ซึ่งน่าจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องวิกฤติงบประมาณไปได้ในช่วงที่ทั้งสองพรรคต้องขับเคี่ยวกันในการเลือกตั้งกลางเทอมเดือนพฤศจิกายนปีนี้
    งบประมาณที่ผ่านความเห็นชอบของแกนนำ ส.ว. 2 พรรคนั้น รวมถึงการเพิ่มงบประมาณใช้จ่าย 300,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งในด้านการทหารและกิจการภายในที่ไม่ใช่การทหาร สำหรับปี 2561 และปี 2562 และเพิ่มเพดานหนี้ไปถึงวันที่ 1 มีนาคมปีหน้า ข้อตกลงนี้ยังร่วมถึงงบบรรเทาภัยพิบัติ 90,000 ล้านดอลลาร์ และงบประมาณสำหรับแก้ไขวิกฤติการใช้ยากลุ่มโอปิออยด์ในทางที่ผิดอย่างกว้างขวางทั่วสหรัฐ
    ส่วนประเด็นดรีมเมอร์ หรือผู้อพยพเข้าเมืองแต่วัยเยาว์ที่เสี่ยงจะถูกเนรเทศนั้น พอล ไรอัน ประธานสภาล่าง ให้คำมั่นกับ ส.ส.เสรีนิยมพรรคเดโมแครตว่า เขาจะทุ่มเทกับการหาทางออกอย่างจริงใจ.