12ก.พ."สุเทพ" เผยมีวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชน ขายวุฒิการศึกษา เทียบโอนวุฒิไม่ได้คุณภาพ ตรวจเจอหายภาค แถมเบิกเงินค่าใช้จ่ายรายหัวเกินจริง จี้สวทอ.ต้องดูแลไม่ให้มีนักเรียนผี ตรวจทุก 1หรือ 3เดือน ถ้าเจอยังมีพฤติกรรมไม่ดีจะสั่งปิดวิทยาลัยไปไปเลย ด้านหมอธี เตรียมหาต้นตอเหตุใดโรงเรียนสกัดกั้นไม่ให้วิทยาลัยอาชีวะเข้าไปแนะแนวสายอาชีพ อ้างสพฐ.สั่ง แต่เลขากพฐ.ยันไม่เคยออกระเบียบเตะตัดขาอาชีวะ
ภาพจาก Youtube.com
นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาฯ กอศ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้หารือร่วมกับนายอดิศร สินประสงค์ นายกสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สวทอ.)มาตนมได้รับข้อมูลว่าวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนบางแห่ง มีการเบิกเงินค่าใช้จ่ายรายหัวเกินจริง เช่น มีนักเรียน 100 คน เบิกค่ารายหัว 300 คน ขณะที่บางแห่งมีการขายวุฒิการศึกษา และยังมีการเทียบโอนการศึกษาที่ไม่ได้คุณภาพ ซึ่งผมได้ให้อาชีวศึกษาจังหวัดตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นความจริง และเกิดขึ้นในหลายภาค ดังนั้น เรื่องนี้ทาง สวทอ.ต้องให้ความร่วมมือในการเข้าไปดูแลวิทยาลัยให้ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบ เพราะพฤติกรรมดังกล่าวถือว่าส่อไปในทางทุจริต ส่งผลต่อคุณภาพและเสียภาพลักษณ์การอาชีวศึกษา ซึ่งหากพบว่าวิทยาลัยไหนยังดำเนินการในลักษณะดังกล่าวอยู่ก็ต้องให้ออกจากระบบไป หรือไม่ก็ปิดวิทยาลัยไปเลย ทั้งนี้เบื้องต้นคิดว่าจะต้องมีการตรวจสอบเป็นระยะ โดยเฉพาะจำนวนนักเรียนผี ทุก 1 เดือนหรือ 3 เดือน
"ส่วนประเด็นมีเสียงสะท้อนว่าสอศ.ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิทยาอาชีวะเอกชน จำนวนผู้เรียนยังลดลงอย่างต่อเนื่อง ผมได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการบริหารอาชีวศึกษาเอกชน โดยมีนายศรีชัย พรประชาธรรม รองเลขาฯ กอศ. เป็นประธาน และมีผู้แทนจาก สอศ. สวทอ. ผู้บริหารวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชน และผู้ประกอบการเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหาร ขณะเดียวกันได้มีการยกฐานะศูนย์ส่งเสริมการอาชีวศึกษาเอกชน เป็นสำนักภายในของ สอศ. เพื่อดูแลอาชีวศึกษาเอกชนโดยเฉพาะ ซึ่งที่ผ่านมา สอศ.ไม่ได้ทอดทิ้งแต่ได้พัฒนาอาชีวะเอกชนควบคู่ไปกับอาชีวะของรัฐ"นายสุเทพฯกล่าว
ด้านนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ร่วมในพิธีเปิดงานการประชุมวิชาการระดับชาติองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อกท.) ครั้งที่ 39 ที่จังหวัดมหาสารคาม จากนั้นได้ลงพื้นที่ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม และได้รับเสียงสะท้อนจากการประชุมผู้บริหารวิทยาลัยอาชีวศึกษาในพื้นที่ต่างๆ เรื่องเกี่ยวกับความต้องการเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนสายอาชีพให้มากขึ้น ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ในกระบวนการแนะแนวการเรียนต่อสายอาชีพให้แก่นักเรียนที่กำลังจะจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จะมีอาจารย์และนักศึกษาของวิทยาลัยต่างๆ เข้าไปให้คำแนะนำแต่กลับถูกสกัดกั้นจากโรงเรียน รวมถึงโรงเรียนยังแจ้งว่ามีระเบียบปฏิบัติจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ห้ามไม่ให้มีการแนะแนวเรียนต่อสายอาชีพ ทำให้เกิดอุปสรรคในการปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ตนก็ไม่รู้ว่ามีมูลความจริงมากน้อยแค่ไหน แต่จะเรียกทั้ง สพฐ.และ สอศ. มาคุยกันว่าที่มาที่ไปในเรื่องนี้เป็นอย่างไร
ด้านนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า สพฐ.ไม่เคยออกระเบียบการห้ามไม่ให้วิทยาลัยอาชีวศึกษาเข้ามาแนะแนวการเรียนต่อสายอาชีพให้แก่นักเรียน ซึ่งถ้ามีก็ขอให้นำระเบียบดังกล่าวออกมาให้ตนดู โดยเรื่องนี้น่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เช่น ไม่ได้มีการประสานงานกับโรงเรียนไว้ก่อน สพฐ. ไม่เคยปฏิเสธการแนะแนวเรียนต่อสายอาชีพ เพราะเข้าใจดีว่าประเทศกำลังต้องการแรงงานในอนาคต โดยขณะนี้ สพฐ. เองก็กำลังจัดทำหลักสูตรระยะสั้นสายอาชีพ เพื่อให้เด็กได้เลือกเรียนตามความถนัด ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในภาคเรียนที่ 1/2561 นี้ทันที