14 ตุลาฯ ต้องรอหลังเลือกตั้ง


เพิ่มเพื่อน    

ดูๆ แล้ว...ไม่น่าจะไปไกลถึงขั้น 14 ตุลง 14 ตุลา อะไรได้เลย เฉพาะแค่ ทุ่งใหญ่ 16 กับ ทุ่งใหญ่ 61 ก็คนละเนื้อหา คนละเวอร์ชั่น ไม่เพียงไม่สามารถหยิบมาเป็นสายชนวน จุดชนวน ให้ลุกลาม บานปลาย ไปถึง รัฐบาล ได้เท่านั้น ยังกลับเป็น ตัวช่วย ให้ นาฬิกาบิ๊กป้อม เรือนที่กี่สิบๆ ก็แล้วแต่ ค่อยๆ จางหายไปจากความเมามันซ์ซ์ซ์ของพวกโซเชียลมีเดีย มิใช่น้อย เนื่องจากการหันไปฟัด ไปขม้ำ ท่านประธานเปรมชัย อาจถนัดกว่า จมเขี้ยวกว่า หรือไม่ อย่างไร ก็แล้วแต่จะว่ากันไป...

                                                          -------------------------------------------------

      แต่ถึงจะไม่ลุกลาม บานปลาย กลายเป็น 14 ตุลาฯ 6 ตุลาฯ นั่นก็ใช่ว่า...จะทำให้สถานการณ์ ขาลง ของรัฐบาล สามารถเปลี่ยนมาเป็น ขาขึ้น ได้ง่ายๆ คือถ้าหากอยู่กันไปเรื่อยๆ อยู่กันแบบรักพี่ รักน้อง เลิฟ มี เลิฟ มาย ด๊อก ไปโดยตลอด ไม่ได้มีอะไรใหม่ ไม่ได้กล้าหัก กล้าฟัน กล้าปฏิรูป แบบจริงๆ จังๆ พอถึงช่วงจังหวะเลือกตั้งตามโรดแมปขึ้นมาเมื่อไหร่ โอกาสที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยเขาจะข้ามคอสะพาน ไปลากเอาพรรค เผาไทย กลับมาเป็นรัฐบาลกันอีกเที่ยว ก็ดูจะยิ่งมีโอกาสเป็นไปได้ยิ่งขึ้นเท่านั้น...

                                                       ----------------------------------------------------

      พูดง่ายๆ ว่า...ถึงไม่ไปไกลถึง 14 ตุลาฯ 6 ตุลาฯ ก็แล้วแต่ แต่ถ้าหากต้อง เสียของ หรือเสียรังวัด เสียสุนัข กันในลักษณะที่ว่านี้ ก็ออกจะเป็นอะไรที่น่าเหนื่อย น่าเบิ๊ดกระโหลกตัวเองกันไปเป็นรายๆ คืออุตส่าห์ใช้เวลาตั้ง 4 ปีเกือบ 5 ปีเข้าไปแล้ว ยังทำอะไร เผาไทย เขาไม่ได้เลย เผลอๆ กลับจะช่วยให้เขามีโอกาสหวนคืนกลับมาเป็นรัฐบาล กลับมามีอำนาจ อันเนื่องมาจากการอาศัย เผด็จการ เป็นเงื่อนไข ในการโฆษณา หาเสียง แบบชนิดแตะตรงไหน ก็เข้าเท้า เข้าทาง ไปด้วยกันทั้งสิ้น หรือแบบพูดอีกก็ถูกอีก อะไรประมาณนั้น...

                                                    ------------------------------------------------------

      คือจะบอกว่า ประชาธิปไตยกินได้-เผด็จการกินไม่ได้ มันก็ออกจะจริงๆ อย่างที่เขาว่าๆ เอาไว้นั่นแหละ ด้วยเหตุเพราะช่วงเท่าที่ผ่านมาใครต่อใครที่ไม่มีจะแ-ก ออกจะเยอะแยะอย่างเป็นพิเศษ แถมเวลาจะแก้ปัญหาก็ดันไม่ได้คิดอะไรใหม่ๆ ดันไปก๊อบปี้นโยบาย ไปลอกประชานิยมมาแปลงเป็นประชารัฐแบบดื้อๆ ทื่อๆ ทั้งดุ้นทั้งด้าม มันก็เลยเป็นการเข้าทางเท้า เข้าทางตีน ของ เผาไทย เขา แบบเน้นๆ เนื้อๆ แค่เขาหยิบเอาเรื่องนี้ไปขายในสนามเลือกตั้ง พรรคทหาร หรือพรรคอะไรก็แล้วแต่ จะของคุณ ไพบูลย์ นิติตะวัน หรือของใครก็ตาม คงได้แต่ อมสากกะเบือ เอาไว้คนละด้าม สองด้าม...

                                                    ----------------------------------------------------

      ถึงจะหยิบเอาเรื่องทุจริต คอร์รัปชัน โกงบ้าน โกงเมือง มาใช้ในการฟาดฟัน เล่นงานพวก เผาไทย เขา ก็อาจไม่ถึงกับทำได้แบบถนัดถนี่ แบบเต็มปาก เต็มคำ มากมายซักเท่าไหร่ คือแค่เจอเขาถามกลับเรื่อง นาฬิกาบิ๊กป้อม เรื่องเดียวเท่านั้น โอกาสที่จะชี้แจงให้ชัดๆ แจ้งๆ โดยไม่ต้องเกิดอาการลิ้นพันกัน มันออกจะยากซ์ซ์ซ์อยู่พอสมควร จากจุดที่เคยเป็น จุดแข็ง นานๆ ไปชักจะกลายเป็น จุดอ่อน ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งต้องมาไล่จับเด็กๆ ส่งคนไปเฝ้าบ้าน ไปชวนใครต่อใครมากินกาแฟ ทั้งๆ ที่ 4 ปี 5 ปีเข้าไปแล้ว ยังไม่อาจหา มุกใหม่ ได้เลย ทั้งหลาย ทั้งปวงเหล่านี้นี่เอง ที่จะกลายเป็นตัวช่วยให้ เผาไทย เขายังมีโอกาสออกฤทธิ์ ออกเดช ในสนามเลือกตั้งได้มิใช่น้อย...

                                                   -----------------------------------------------------

      และถ้าหาก เผาไทย เขามีโอกาสลากใครต่อใครเข้ามาในระดับ 200-300 ไม่ว่าเขาจะสามารถผงาดขึ้นมาเป็น รัฐบาล ได้หรือไม่ก็ตาม ล้วนแล้วแต่ ยุ่ง...ฉิบหาย-ยุ่ง...ตายห่ะ ไปด้วยกันทั้งสิ้น เพราะโดยชื่อ ชั้น แห่งความเป็น เผาไทย นั้น ย่อมเป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่า เขามิได้ได้มาด้วยโชคช่วย ถึงจังหวะเมื่อไหร่...เขาเผาเอาจริงๆ โดยไม่ได้คิดลังเลใดๆ แม้แต่น้อย แค่กลับมาได้ระดับเป็นร้อยๆ ขึ้นไป...ก็ยุ่งแล้ว แต่ถ้ายิ่งบวก ความเสียของ หรือ ความไม่เอาไหน ของรัฐบาลเผด็จการเข้าไปด้วย อันนั้นนั่นแหละ...ที่อาจส่งผลให้สถานการณ์นับจากนั้น หรือนับจากหลังเลือกตั้งไปแล้วนั่นแหละ มีสิทธิ์ลุกลาม บานปลาย กลายเป็น 14 ตุลาฯ เป็นพฤษภาทมิฬ ได้ทุกเมื่อ...

                                                       ------------------------------------------------------

      ยิ่งถ้าประเภทคุณ ไพบูลย์ นิติตะวัน หรือคุณอะไรต่อมิอะไรทั้งหลาย ยังพยายามเคี่ยวๆ เข็ญๆ กะจะไปหาทางลาก บิ๊กตู่ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีให้จงได้ บรรดาท่านทั้งหลายเหล่านี้นี่แหละ...อาจถือเป็นผู้ จุดชนวน เหตุการณ์ 14 ตุลาฯ หรือพฤษภาทมิฬขึ้นมาใหม่ แบบตัวจริง เสียงจริง เพราะไม่ว่า บิ๊กตู่ ท่านจะซื่อสัตย์ สุจริต เที่ยงธรรม มีคุณธรรม ปานประดุจเปาบุ้นจิ้น หรือเปาปล้อนปลิ้น ก็แล้วแต่ แต่สิ่งเหล่านี้ได้ถูกทำให้กลายเป็น เงื่อนไข ในการจุดชนวนเหตุการณ์ระดับที่ว่า แบบที่นับวันจะมีน้ำหนักเพิ่มยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อย่างมิอาจปฏิเสธได้...

                                                  --------------------------------------------------------

      ด้วยเหตุนี้...ระหว่างนี้ คงไม่ต้องเสียเวลาไปคิดมาก หรือคิดเล็ก-คิดน้อย ในเรื่อง 14 ตุลาฯ 6 ตุลาฯ พฤษภาทมิฬ ให้ต้องเมื่อยเนื้อ เมื่อยตัว โดยใช่เหตุ คงต้อง มองข้ามช็อต ไปถึงช่วงหลังเลือกตั้งครั้งใหม่ผ่านไปแล้วนั่นแหละ ใครคิดสูตร ตั้งสูตร สมการ คำนวณคณิตศาสตร์ทางการเมืองเอาไว้ในรูปไหน แบบไหน สูตรใครถูก สูตรใครผิด เมื่อผิดแล้ว ถูกแล้ว จะเดินหน้าต่อไปกันอย่างไร??? อันนั้นนั่นแหละ...คงต้องออกแรงคิดให้หนักๆ หน่อย ต้องใช้ทั้งสติ-ปัญญา ตลอดไปจนวุฒิภาวะ รวมทั้ง ความพอเพียง เป็นที่ตั้งให้มากๆ เข้าไว้ ไม่งั้น...14 ตุลาฯ มาแน่!!! ไม่ก็พฤษภาทมิฬหวนกลับเอาง่ายๆ...

                                                  -------------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก G.W.F. Hegel... We learn from history that we do not learn from history. เราเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ ว่าเอาเข้าจริงๆ แล้ว...เราไม่ได้รู้อะไรเลยจากประวัติศาสตร์...

                                                -------------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"