ทำตัวเป็นภาระ?


เพิ่มเพื่อน    


    หรือว่าการเมืองไทยก้าวไปอีกขั้นแล้ว?
    ทำไมนักการเมืองถึงออกมากระทุ้ง "หมอธี" ให้มีความรับผิดชอบทางการเมืองมากกว่าการขอโทษที่เสียมารยาทวิจารณ์ "บิ๊กป้อม" 
    เรื่องนี้สำคัญ 
    ความรับผิดชอบทางการเมือง คือสิ่งที่การเมืองไทยขาดมาอย่างช้านาน 
    จนนำไปสู่ความฉิบหายครั้งแล้วครั้งเล่า 
    "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" พูดเรื่องนี้เอาไว้น่าสนใจ  
    "คำถามเกี่ยวกับเรื่องนาฬิกา ที่มีขึ้นมาทั้งหมด เป็นเรื่องของปัญหาวัฒนธรรมทางการเมือง จริยธรรมทางการเมือง ความรับผิดชอบทางการเมือง ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับเรื่องของกฎหมาย ผมก็บอกว่าเหตุหนึ่งที่มีการแยกแยะอย่างนี้ โดยเฉพาะในสากล ก็เพราะกระบวนการของกฎหมายต้องใช้เวลา 
    สุดท้ายสิ่งเหล่านี้ก็จะมาบั่นทอนการทำงานต่างๆ ไปเรื่อยๆ และตั้งแต่ต้นเรื่องนี้มา ก็เป็นจริงอย่างที่พูด เพราะข่าวเรื่องนี้ไม่จบเสียที จะมีประเด็นขึ้นมาอย่างนี้แม้กระทั่งในรัฐมนตรีร่วมคณะด้วยกันเอง"
    “แม้คนใน ครม.ไม่กล้าวิจารณ์ แต่พอถึงจุดหนึ่ง ก็หนีไม่พ้น เมื่อตัดสินใจกันแบบนี้ทุกคนก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ในที่สุดก็กลายเป็นเรื่องของรัฐบาลทั้งหมด ในสมัยผมเป็นรัฐบาล กรณีคุณวิทยา แก้วภราดัย และคุณวิฑูรย์ นามบุตร ท่านเหล่านั้นถึงใช้คำว่า ไม่เป็นภาระกับรัฐบาล 
    เพราะเขารู้ว่าในที่สุดจะกลายเป็นเรื่องของรัฐบาลไปโดยปริยาย ซึ่งวันนี้ผมว่าเกือบจะไปสู่จุดนั้นแล้ว เพราะท่านนายกฯ พูดเองว่า ใครรักท่านก็ต้องรักทุกๆ คนด้วย หมายความว่าต้องรับผิดชอบร่วมกันไป”
    กรณี วิทยา แก้วภราดัย คือการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 
    เพราะประธานสอบที่มี หมอบรรลุ ศิริพานิช สรุปว่ามีการทุจริตโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข 
    ส่วนวิฑูรย์ นามบุตร ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จากกรณีปลากระป๋องเน่า 
    นั่นคือปรากฏการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นมาแล้ว 
    ทั้ง ๒ คนนี้ถูกถล่มอย่างหนักอยู่หลายวัน สุดท้ายอยู่ไม่ได้ต้องออก ก็อย่างที่คุณอภิสิทธิ์บอก 
    ไม่งั้นรัฐบาลพังไปด้วย 
    กรณีปลากระป๋องผลสอบที่ออกมาคือ เป็นปลากระป๋องจากการบริจาค ไม่เกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดิน ฉะนั้นไม่มีใครผิด
    ส่วนทุจริตไทยเข้มแข็งหลังส่งไป ป.ป.ช. ก็หายไป 
    ที่จริงยังมีรัฐมนตรียุครัฐบาลประชาธิปัตย์อีกหลายคนถูกกล่าวหาว่าทุจริต แต่ไม่ได้ลาออก ถูลู่ถูกังกันไป
    เอาเป็นว่านั่นคือการเมืองเก่าตามที่ "ลุงตู่" ชอบพูดถึง ก็คละกันไป มีสปิริตบ้าง ไม่มีบ้าง 
    แต่ยุค "ลุงตู่" การเมืองเปลี่ยนผ่านสู่การปฏิรูป มีต้องพิเศษกว่า ถ้าสั่งก๋วยเตี๋ยวก็ต้องบะหมี่สองก้อน ไม่ใช่หรือ 
    พูดไปก็วนที่เดิม "เสี่ยป้อม" คงไม่ออก รัฐบาลนี้คงพังยาก ขืนไปกลางคันจะเกิดสุญญากาศ เลือกตั้งก็ไม่ได้ รัฐบาลจะมาจากไหน มันวุ่น! 
    สรุปแล้วก็อยู่ไปแบบนี้จนกว่าจะเลือกตั้ง 
    แต่ถ้า "ลุงตู่" จะเป็นนายกฯ อีกสมัย อยู่ไปแบบนี้ไม่ได้แน่ เพราะกว่าจะถึงวันนั้น คงเหวอะไปทั้งตัว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"