19 ก.พ. 61 - ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจถอยรถชนอ่างบัวที่ทำเนียบรัฐบาลแตก จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเป็นลางร้ายรัฐบาล ตามความเชื่อว่าวันตรุษจีนห้ามมีของแตกหัก ขณะที่วันเดียวกันพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำการติดโคมจีนสีแดงหรือเต็งลั้งบริเวณ 6 จุดประตูเข้า-ออกทำเนียบรัฐบาล โดยให้เหตุผลเพื่อร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีน ไม่ได้แก้อาถรรพ์อ่างบัวแตก 

ต่อมายังเกิดเหตุการณ์ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น เมื่อพบว่ามีคนนำธูป 36 ดอก ปักบริเวณพุ่มไม้ปืนใหญ่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า และตกเย็นเกิดเหตุระทึก เมื่อไฟไหม้ลังกระดาษหลังธนาคารกรุงไทย ภายในทำเนียบฯ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจดับไฟได้ทัน

ล่าสุดเช้าวันนี้  เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้วิพากษ์วิจารณ์กันอีก หลังมีผู้ไปสังเกตเห็นกระถางต้นข่อยที่อยู่บริเวณด้านหน้าตึกนารีสโมสร ซึ่งเป็นศูนย์แถลงข่าวของทำเนียบรัฐบาล แตกชำรุด 1 กระถาง จากที่มีอยู่ 10 กระถาง

เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รวมทั้งคนงานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างปรับปรุงตึกบัญชาการ 1 ต่างบอกว่ากระถางต้นข่อยดังกล่าวมีรอยร้าวและแตกชำรุดมาสักระยะหนึ่งแล้ว เมื่อได้รับแรงกระเทือนจากรถที่วิ่งผ่านไป-มา เลยทำให้รอยร้าวปริแตกลงมา ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบเพื่อดำเนินการเปลี่ยนกระถางใหม่ต่อไป 

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง ถึงลางร้ายของรัฐบาล และ คสช. ที่หลายคนมองเป็นช่วงรัฐบาลขาลงหรือไม่ และหลังปรากฏเป็นข่าวเจ้าหน้าที่ได้นำลวดไปรัดไว้.

อย่างไรก็ตาม ในส่วนเรื่องของธูปจำนวน 36 ดอก ที่พบบริเวณพุ่มไม้ข้างปืนใหญ่ หน้าตึกไทยคู่ฟ้าหลังปรากฏเป็นข่าว ทีมงานสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลค.) ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อดูว่าใครเป็นผู้นำธูปมาปัก เนื่องจากได้ห้ามไม่ให้มีการจุดไฟภายในทำเนียบฯ และเกรงว่ามีผู้ไม่หวังดีมาทำพิธีนำ