รวบนายหน้าค้าอาวุธโสมแดง


เพิ่มเพื่อน    


นีล กอก์น รองผู้บัญชาการตำรวจกลางของออสเตรเลีย แถลงเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2560 ภาพ AFP

ตำรวจออสเตรเลียแถลงผลงานการจับกุม "นายหน้าผู้ภักดีของเกาหลีเหนือ" ตั้งข้อหาพยายามขายชิ้นส่วนขีปนาวุธและถ่านหินของเกาหลีเหนือในตลาดมืด เพื่อหาเงินส่งให้ทางการเปียงยางโดยละเมิดข้อมติคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติและกฎหมายอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงของออสเตรเลีย

สื่อออสเตรเลียรายงานอ้างคำแถลงของสำนักงานตำรวจรัฐบาลกลางออสเตรเลีย (เอเอฟพี) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2560 ว่าชายชื่อชาน ฮัน ชอย คนนี้ เป็นคนเชื้อสายเกาหลีวัย 59 ปี ที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลียมานานกว่า 30 ปีและได้รับสัญชาติออสเตรเลียแล้ว เขาพยายามเป็นนายหน้าลักลอบทำข้อตกลงค้าขายสิ่งผิดกฎหมายที่สามารถสร้างเงิน "นับพันล้านดอลลาร์" ให้เกาหลีเหนือ

ข้อกล่าวหาของตำรวจกล่าวว่า ชอยเกี่ยวข้องกับการหารือจัดตั้งโรงผลิตขีปนาวุธและการจัดส่งแผนการก่อสร้างขีปนาวุธ พร้อมกับส่วนประกอบ, ซอฟต์แวร์ และการถ่ายโอนความชำนาญการจากเปียงยาง

เขาถูกตั้งข้อหา 2 กระทงภายใต้กฎหมายห้ามการแพร่กระจายอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง และอีก 4 ข้อหาภายในกฎหมายเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือขององค์การสหประชาชาติและออสเตรเลีย โทษสูงสุดของข้อกล่าวหาเหล่านี้คือจำคุก 10 ปี

ตำรวจเผยว่า ชอยถูกจับกุมที่เมืองอีสต์วูด ชานเมืองซิดนีย์เมื่อวันเสาร์ และถูกส่งตัวขึ้นศาลเมื่อวันอาทิตย์ โดยศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว

นีล กอก์น รองผู้บัญชาการตำรวจเอเอฟพี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนบนแผ่นดินออสเตรเลีย ชายคนนี้เป็นนายหน้าที่ภักดีของเกาหลีเหนือ เชื่อว่าเขามีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือ

อย่างไรก็ดี ตำรวจออสเตรเลียกล่าวว่า แผนของนายหน้ารายนี้ไม่ได้เกี่ยวโยงกับรัฐบาลใดหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลประเทศไหน แต่คำแถลงยังไม่ได้เปิดเผยว่ามีบุคคลใดหรือองค์กรใดที่ชายคนนี้กำลังพยายามติดต่อค้าขายด้วย

เกาหลีเหนือตกอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดของยูเอ็น ที่มีเป้าหมายเพื่อตัดเส้นทางรายได้ที่เกาหลีเหนือจะนำไปใช้ในโครงการนิวเคลียร์และมิสไซล์

นายกฯ มัลคอล์ม เทิร์นบุล กล่าวว่า คดีนี้เป็นการจับกุมครั้งสำคัญมาก เกาหลีเหนือเป็นระบอบอาชญากรที่อันตรายบ้าบิ่นคุกคามสันติภาพของภูมิภาคนี้ เกาหลีเหนือเลี้ยงตนเองด้วยการฝ่าฝืนข้อมติคว่ำบาตรของยูเอ็น

"สำคัญอย่างยิ่งที่ทุกประเทศบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้ เพราะยิ่งกดดันทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือได้มากเท่าใด ระบอบนี้ก็จะสำเหนียกเร็วขึ้นเท่านั้น" นายกฯ ออสเตรเลียกล่าว

ชายชาวเกาหลีแปลงสัญชาติรายนี้ถูกกล่าวหาว่าใช้บริการติดต่อสื่อสารแบบเข้ารหัสเพื่อติดต่อค้าขายสินค้าของเขา ซึ่งรวมถึงการขายถ่านหินจากเกาหลีเหนือไปยังหน่วยงานหรือองค์กรในอินโดนีเซียและเวียดนาม

ตำรวจเริ่มตรวจสอบกิจกรรมของเขาตั้งแต่ช่วงต้นปี หลังจากได้รับเบาะแสจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจากต่างประเทศ แต่กอก์นไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าหน่วยงานที่เป็นหุ้นส่วนความร่วมมือจากต่างชาตินั้นคือประเทศใด

มีความเป็นไปได้ที่ตำรวจออสเตรเลียจะตั้งข้อกล่าวหาเขาเพิ่มเติมด้วย โดยตำรวจกำลังสอบสวนเกี่ยวกับความพยายามค้าขายสินค้าโภคภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันและหินอัญมณี รวมถึงกำลังสืบสวนสอบสวนพฤติกรรมของชอยย้อนไปถึงปี 2551

คดีของชายคนนี้เป็นครั้งแรกที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานฝ่าฝืนกฎหมายอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงของออสเตรเลีย และละเมิดการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของยูเอ็นภายในออสเตรเลีย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"