ยังจบไม่ลงหวยอลเวง30ล. ปรีชาข้องใจ4พันคลิปเสียง


เพิ่มเพื่อน    

    "บิ๊กตู่" เอียนหวย 30 ล้านทะเลาะไม่เลิก  บ่นแก้ปัญหาลอตเตอรี่ทุกวิธีแล้ว ขู่! วุ่นมากเลิกทำ "ผบก.ป." แจงยังไม่สรุปคดี เหตุต้องรอผลตรวจคลิปจาก พฐ. และสอบพยานใหม่ปากสำคัญอีก 2 คน มั่นใจเสร็จออกหมายจับได้ทันที "หมวดจรูญ" มั่นใจเจ้าของรางวัลที่ 1 "ครูปรีชา" สงสัยคลิปในมือกองปราบฯ โผล่เยอะเกิน
    เมื่อวันอังคาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงคดีหวย 30 ล้านบาทว่า เรื่องของลอตเตอรี่ยอมรับถึงวันนี้ไม่ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ท้ายที่สุดก็ต้องมาทะเลาะกันไม่เลิก สื่อมวลชนก็ขยายข่าวไปทุกวันๆ ประชาชนก็เอียน มีหลายคนถึงกับบอกเมื่อไหร่จะเลิกกันเสียที หลายคนก็เรียกร้องให้แก้ปัญหาในเรื่องของลอตเตอรี่ ซึ่งตนก็พยายามที่จะแก้ในทุกวิธีการแล้ว
    "เรื่องของ 5 เสือก็ได้ยกเลิกไปแล้ว เรื่องการให้โควตาแล้วเอาไปขายให้กับคนอื่นแล้วมีการมาซื้อต่อไปอีก เรื่องนี้ก็มีการให้กำไรกันไปตามสัดส่วนว่าได้โควตาไปเท่าไหร่ ก็ขายไปตามนั้นในพื้นที่ที่กำหนด ก็จบ ซึ่งถ้าทุกคนไม่ช่วยกันก็ไม่รู้จะไปแก้กันอย่างไร เหลืออย่างเดียวสุดท้ายก็คือเลิกทำลอตเตอรี่ เพราะแก้ทุกอย่างแล้วจนไม่รู้จะแก้อย่างไร เรื่องอยู่ที่คน เพราะคนขายก็เอาไปขายต่อ คนซื้อก็อยากได้แบบรวมเล่มเยอะๆ ทั้งหมดคือปัญหา ก็ต้องไปแก้ไขจุดนี้ว่าทัศนคติจะทำกันอย่างไร หลายคนก็อยากรวย พอผมพูดมากไปก็กลายเป็นว่าไปรังแกคนจนอีก” พล.ต.อ.ประยุทธ์กล่าว
    นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เห็นขยายกันไปเรื่อย ทั้งเรื่องการซื้อหวยตามทะเบียนรถนายกรัฐมนตรี ส่วนใหญ่แพร่ออกมาจากสื่อ แล้วจะให้ไปห้ามใคร สื่อเองควรจะต้องช่วยเตือนว่าอย่าไปซื้อหวยทะเบียนรถนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ไปขยายความทะเบียนรถนายกฯถูกอีกแล้ว คนก็เลยไม่อยากเจอตัวนายกรัฐมนตรี แต่อยากเจอรถนายกฯ ใช่ที่ไหน ขอร้องทุกคนช่วยด้วยก็แล้วกัน ตนก็เตือนสติได้แค่นี้ เพราะเป็นเรื่องของประชาชน อยู่ที่ว่าจะทำกันอย่างไรเท่านั้น
    ขณะที่ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีหวย 30 ล้านบาท ยืนยันตำรวจไม่ได้มีการดึงเวลาหรือยื้อให้เกิดความล่าช้าคดีหวย 30 ล้านบาท ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ กับนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี จ.กาญจนบุรี คณะทำงานได้เร่งดำเนินการในการตรวจสอบวัตถุพยาน และการสอบสวนพยานปากต่างๆ อย่างรัดกุมที่สุด 
    "สิ่งที่ทำให้คดีไม่สามารถหาข้อสรุปหรือดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหาได้ เนื่องจากวัตถุพยานที่เป็นคลิปเสียงจำนวนประมาณ 6-7 คลิป ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) สามารถกู้ข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือของผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี เกรงจะไม่มีน้ำหนักในชั้นศาล จึงได้ส่งคลิปเสียงทั้งหมดให้กองพิสูจน์หลักฐานดำเนินการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเทียบเคียงเสียงบุคคที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ก่อนยืนยันว่าเสียงที่ปรากฏเป็นของบุคคลที่ถูกอ้างถึงจริง" พล.ต.ต.ไมตรีกล่าว
    ผบก.ป.กล่าวว่า อีกส่วนสำคัญคือต้องตรวจสอบให้ได้ว่าคลิปเสียงทั้งหมดไม่มีการตัดต่อหรือดัดแปลงภายหลังจากกู้คืนจากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวทางกองพิสูจน์หลักฐานยืนยันจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยยังไม่สามารถระบุวันเวลาที่ตรวจสอบแล้วเสร็จได้ เพราะขั้นตอนดังกล่าวเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่ให้เกิดข้อบกพร่องหรือข้อโต้แย้งจากคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ก่อนจะดำเนินการออกหมายจับ
    ผบก.ป.กล่าวว่า นอกจากนี้ พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รองผบช.ก.) ยังได้ให้ตำรวจกองกำกับการ 5 กองปราบปราม ลงไปสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นพยานปากเก่า 7 ปาก ที่ระบุชื่อในสำนวนของตำรวจภูธรภาค 7 เพิ่มเติม ในเวลานี้ยังไม่ทราบรายละเอียดของข้อมูลดังกล่าว แต่ตำรวจกองกำกับการ 5 ได้ดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว รวมทั้งจะต้องมีการเรียกพยานมาสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นพยานปากใหม่ที่ยังไม่เคยถูกระบุชื่อลงในสำนวนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 อีก 2 ปาก ส่วนรายละเอียดของพยานบุคคลทั้งสองยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากจะมีผลต่อรูปคดี
    "ยังมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อีกหลายส่วนที่ต้องรอผลการสรุป เพื่อนำมาใช้พิสูจน์คำให้การของพยานและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าใครพูดไม่ตรงกับความเป็นจริง ตามลำดับเหตุการณ์ ไม่อยากให้ผู้ที่ติดตามข่าวหรือติดตามการทำงานของตำรวจกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะมีความจำเป็นต้องสืบหาข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อไม่เกิดข้อโต้แย้งในภายหลังจากคู่กรณีทั้งสองฝ่าย" ผบก.ป.กล่าว
    มีรายงานว่า ในวันที่ 21 ก.พ. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก. เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนกองปราบปรามที่ลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี  เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีหวย 30 ล้านบาท ที่กองบังคับการกองปราบปราม
    วันเดียวกัน ร.ต.ท.จรูญกล่าวถึงกรณีมีชื่อเจ๊ดำเป็นแม่ค้าที่รับไปขายต่อว่า ตนเองไม่รู้จักเจ๊ดำเป็นใครไม่เคยรู้ ส่วนตัวจำไม่ได้ว่าซื้อจากแผงตรงไหน แต่ระบุสถานที่ได้ ส่วนเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ไปออกทีวีแล้วร้องไห้ออกมา ก็เพราะรู้สึกซาบซึ้งประชาชนที่เข้าใจตนเองจำนวนมาก ทำให้ตื้นตันใจเลยร้องไห้ออกมา
    ถามว่า หากตำรวจกองปราบฯ สรุปหวยเป็นของครูปรีชาจะรู้สึกอย่างไร ร.ต.ท.จรูญกล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ ตนเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ เชื่อมั่นว่าลอตเตอรี่เป็นของตนเอง ถ้าหากตนเองได้เงินคืนมา ตั้งใจว่าจะพาครอบครัวไปบวชชีพราหมณ์ ส่วนเรื่องทำบุญก็ทำกับครอบครัวอยู่แล้ว 
    "จนถึงวันนี้ก็มั่นใจว่าจะชนะ และมั่นใจการทำงานของตำรวจ เชื่อว่ารอบนี้ตำรวจจะแถลงว่าลอตเตอรี่เป็นของตนเอง เพราะซื้อมากับมือ และหากตำรวจจะเรียกไปสอบปากคำอีกก็ยินดี เพราะอยู่บ้านตลอดทุกวัน" ร.ต.ท.จรูญกล่าว
    ส่วนครูปรีชา กล่าวถึงเจ๊ดำแม่ค้าลอตเตอรี่ที่รับไปขายต่อว่า ไม่เคยรู้จักหรือได้ยินชื่อแม่ค้าคนนี้มาก่อน ตนขอฝากถึงผู้ที่ติดตามข่าวเรื่องนี้ ขอให้ใจเย็นๆ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีเวลาทำงานเพื่อสืบหาข้อเท็จจริง ซึ่งตนมั่นใจว่าสุดท้ายความจริงก็คือความจริงและสังคมจะต้องได้รับรู้ความจริง
    ครูปรีชากล่าวว่า หลังจากได้ฟังตำรวจกองปราบฯ แถลงข่าวเกี่ยวกับคดีหวย 30 ล้านแล้ว โดยส่วนตัวไม่ได้หนักใจเกี่ยวกับการตัดพยานกว่า 40 ปาก เหลือเพียง 7 ปาก เพราะคิดว่าแม้พยานจะลดจำนวนลง แต่พยานที่เหลือล้วนเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เป็นผู้เห็นเหตุการณ์วันซื้อขายจริง และพูดความจริงโดยตลอด การลดพยานลงจึงไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง 
    "ที่ผมสงสัยคือเรื่องของคลิปเสียงที่มีการปล่อยออกมา เพราะตั้งแต่ในตอนที่ตำรวจภูธรภาค 7 ทำคดี ได้มีการนำคลิปเสียงที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีที่ได้จากการกู้ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือมาให้ผมฟัง ซึ่งก็มีเพียงแค่ 4 คลิปเท่านั้น และแต่ละคลิปก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการสั่งซื้อลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัล และเป็นคลิปสั้นๆ ไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องของการแบ่งเงินใดๆ ผมจึงข้องใจว่าคลิปที่ปล่อยออกมาจำนวน 2 คลิป และที่ตำรวจกองปราบฯ บอกว่ามีอีกกว่า 4,000 คลิปนั้นมาจากไหน" ครูปรีชากล่าว
    ถามว่า มีข่าวกองปราบฯ จะออกหมายจับบุคคลจำนวน 2 คน ครูปรีชากล่าวว่า ได้ทราบข่าว แต่ก็ไม่ได้หนักใจอะไร เพราะเรื่องที่พูดเป็นเรื่องจริง เป็นคนซื้อลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลจริง จึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร อีกทั้งช่วงที่ผ่านมาหลังมีการเชิญตัวเจ๊บ้าบิ่นและเจ๊พัชไปให้ข้อมูลแล้วนั้น ตำรวจกองปราบฯ ก็ยังไม่เคยติดต่อให้ตนเข้าให้ปากคำหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด ซึ่งหากมีการติดต่อเข้ามาก็พร้อมเดินทางไปให้ข้อมูล. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"