ชูหลักฐานมัด'เปรี้ยวหั่นศพ' ซื้อถุงดำรัดคอ'แอ๋ม'/ไม่หวั่นจำเลยกลับคำในชั้นศาล


เพิ่มเพื่อน    

   "เปรี้ยว" มาตามนัด ขึ้นศาลขอนแก่นวันที่ 2 พร้อมทีมสวยหั่นศพ ทนายฝ่ายโจทก์งัดหลักฐานเด็ด ซื้อถุงดำรัดคอน้องแอ๋มขาดใจตาย เอาผิดเปรี้ยวยกทีมแม้จะให้การปฏิเสธและกลับคำให้การในชั้นศาล
    เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดขอนแก่นทำการเบิกตัว น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว พร้อมพวก ประกอบด้วย น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น, น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ จากเรือนจำกลางขอนแก่น, นายวศิน นามพรม จากทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น และ น.ส.จิดารัตน์ พรมคุณ หรือเบนซ์ ซึ่งอยู่ในระหว่างการประกันตัวในกองทุนยุติธรรมมาขึ้นศาล เพื่อสอบคำให้การในการสอบพยานฝ่ายโจทก์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ในความผิดในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากการร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม โดยมีทนายความและคนในครอบครัวฝ่ายจำเลยเดินทางมาตามการนัดหมายของศาล โดยที่ยังคงไม่เห็นคนในครอบครัวของ น.ส.เปรี้ยว ผู้ต้องหารายสำคัญของคดีดังกล่าว มาร่วมสังเกตการณ์หรือให้กำลังใจผู้ต้องหาแต่อย่างใด
    ขณะที่ฝ่ายโจทก์มีการเบิกตัว พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ขึ้นให้การแบบต่อเนื่องต่อจากเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา และยังคงเบิกตัวพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก รวมคงค้างอีก 2 ปาก รวมการสอบคำให้การพยานฝ่ายโจทก์รวมทั้งหมด 6 ปาก
    นายนพดล สีดาทัน ทนายความฝ่ายโจทก์ กล่าวว่า การสอบคำให้การฝ่ายโจทก์ต่อเนื่องในวันที่ 2 ช่วงเช้ายังคงเป็นการสอบคำให้การพยานปากสำคัญคือ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง โดยผู้พิพากษาและอัยการลงเต็มคณะเช่นเดิม สำหรับการที่จำเลยขอสู้ในประเด็นคดีแพ่งที่ฝ่ายโจทก์เรียกร้องค่าเสียหายรวม 10,300,000 บาทนั้น ในประเด็นนี้ฝ่ายโจทก์มีเอกสารหลักทางคดีที่พร้อมแถลงต่อศาลเช่นกัน โดยในส่วนของข้อมูลและรายละเอียดนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้มากกว่านี้ เพราะจะกระทบกับรูปคดี
    ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่ศาล จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์คณะผู้พิพากษาเบิกพยานเพื่อสอบคำให้การต่อเนื่อง โดยนายนพดลกล่าวว่า ฝ่ายโจทก์จะขอเบิกตัวนางพิชชาภา คำเพิงใจ แม่ของน้องแอ๋ม ขึ้นให้การตามข้อกล่าวหาที่พนักงานอัยการได้ตั้งไว้ เพื่อเอาผิดกับผู้ต้องหาตามมาตรา 289 ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งมีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต
    "แม้จำเลยทั้งหมดจะให้การปฏิเสธ โดยเฉพาะ น.ส.เปรี้ยว ที่ให้การว่า เป็นการพลั้งมือจากการปิดปาก แต่มือไปปิดจมูกน้องแอ๋มจนขาดอากาศหายใจ ในฐานะทนายความฝ่ายโจทก์ ไม่มีความหนักใจในเรื่องที่ฝ่ายจำเลยให้การปฏิเสธในข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรอง เพราะการสืบสวนเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพยานต่างๆ และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยัน จึงมีความชัดเจนว่าเป็นการไตร่ตรองก่อน
    ฝ่ายโจทก์มีหลักฐานเด็ดที่ชี้ชัดว่าน้องแอ๋มตายหลังจากขึ้นรถแล้ว รวมถึงคำให้การของจำเลยบางคนที่ยืนยันว่าน้องแอ๋มถูกล่อลวงมาขึ้นรถ และแยกที่นั่งกัน โดย น.ส.เปรี้ยวไปหลบซ่อนที่ด้านหลังรถในจุดที่เป็นที่เก็บของ เมื่อน้องแอ๋มขึ้นรถมาก็มีการรุมทำร้ายและใช้ถุงดำรัดคอจนสิ้นใจ ในจุดนี้จึงไม่ใช่การพลั้งมือ แต่เป็นการวางแผนมาเป็นอย่างดี”
    นายนพดลกล่าวต่ออีกว่า คดีนี้จำเลยกลับคำให้การในชั้นศาลแทบทั้งหมด เช่น การตาย ในช่วงการถูกจับกุม จำเลยบอกว่า ตบตีกัน บีบคอจนน้องแอ๋มสิ้นใจ จึงไปซื้ออุปกรณ์ที่ใช้หั่นศพบรรจุศพ แต่ในวันนี้จำเลยกลับบอกว่า ขึ้นรถแล้วรุมทำร้ายกันในรถ แต่แอ๋มยังไม่เสียชีวิต จึงขับรถวนไปมาหลายกิโลเมตร น้องแอ๋มก็ยังมีชีวิตอยู่ จึงได้พากันไปร้านสะดวกซื้อที่บ้านโนนทันเพื่อซื้อถุงดำ เมื่อได้ถุงดำมา น.ส.เปรี้ยวจึงใช้ถุงดำรัดคอน้องแอ๋มจนสิ้นใจ และมีเสียงตะโกนบอกกันว่า ตายแล้ว จึงได้ไปที่รีสอร์ตสถานที่หั่นศพ แยกร่างเป็น 4 ชิ้น อีกทั้งมีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว จำเลยได้กราบเท้าแม่คนตายพร้อมกับสารภาพผิดที่ได้ฆ่าน้องแอ๋ม
    อย่างไรก็ตาม ฝ่ายโจทก์ไม่มีความวิตกกังวลในเรื่องที่จำเลยปฏิเสธ รวมถึงจำเลยขอสู้ในคดีแพ่งที่ฝ่ายโจทก์เรียกร้องค่าเสียหายรวม 10,300,000 บาท เนื่องจากผู้ตายทำงานมีรายได้เดือนละ 100,000 บาท ส่งให้แม่เดือนละ 30,000 บาท การที่เรียกร้องจำนวนนี้ก็เป็นเรื่องที่ฝ่ายจำเลยต้องจ่าย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"