"หมอจรัส"ตั้งคำถามงบฯแก้เหลื่อมล้ำ ต้อง"หวังน้ำบ่อหน้า?"


เพิ่มเพื่อน    

“หมอจรัส” หวัง สนช. หยิบกรณี ครม. ตัดถ้อยคำสนับสนุนงบฯ 5%ของงบฯ  ในร่างพ.ร.บ.กองทุนเสมอภาคทางการศึกษามาพิจารณาอีกครั้ง เผยเข้าใจข้อจำกัดทางการเงิน  แต่การแก้ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำ   จะใช้วิธีแบบหวังน้ำบ่อหน้าหรือรอน้ำบ่ออื่นไม่ได้


ตามที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ.... โดยประเดิมเงินทุนในการดำเนินการให้ จำนวน 1,000 ล้านบาท แต่ตัดถ้อยคำเรื่องการสนับสนุนงบประมาณในส่วนที่เป็นเงินอุดหนุนที่รัฐบาลต้องจัดสรรให้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของเงินงบประมาณแผ่นดินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาก่อน ในวาระเริ่มแรกเป็นเวลา 5 ปี ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) ได้ปรับตามข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาออกนั้น


นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็คงต้องไปว่ากันต่อที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งคณะกรรมการอิสระฯ เข้าใจถึงข้อจำกัดทางฐานะการเงินของรัฐบาล แต่มองว่าการจะแก้ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษามีความจำเป็นที่ต้องมีการกำหนดวงเงินที่รัฐต้องจัดสรรให้  ส่วนที่จะให้ไปวางแผนการดำเนินงานในแต่ละปีนั้น  การให้ไปกำกับภายหลังตามกรอบความจำเป็น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่พิจารณากันค่อนข้างลำบาก เพราะถ้าพิจารณาแล้วเขาบอกว่าไม่จำเป็นก็ไม่ให้เงิน 


""อีกทั้งเหตุผลที่คณะกรรมการอิสระฯ เสนอไปโดยขอร้อยละ 5 เป็นเวลา 5 ปี เพราะรู้ถึงความจำเป็นและอยากให้กำกับไว้เลย เนื่องจากอยากได้น้ำบ่อนี้ ไม่อยากหวังน้ำบ่อหน้าหรือต้องไปรอบ่ออื่น เพราะเงินจำนวนดังกล่าวนอกจากจะใช้กับเด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์แล้ว ยังต้องใช้สนับสนุนการผลิตและพัฒนาครูด้วย การที่บอกว่าอาจทำให้การจัดสรรงบประมาณเป็นไปลำบาก นั่นคือ วิธีคิดของเขา เมื่อว่ามาอย่างนี้ก็คงต้องไปดูกันต่อไปว่าเรื่องนี้มีความจำเป็นในระดับไหนอย่างไร"นพ.จรัส กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"