เฮ้ออ์อ์อ์...เหนื่อยกับเหนื่อย!!!


เพิ่มเพื่อน    

        หลังๆ มานี้...คงต้องยอมรับว่า ข่าวคราวเรื่องการเมือง หรือเรื่องบ้านเรื่องเมือง มันออกจะเป็นอะไรที่ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศอยู่ตามสมควร อ่านยาก เข้าใจยาก หาอะไรชัดๆ แบบขาวๆ-ดำๆ แทบไม่ได้ ส่วนใหญ่ออกไปทางเทาๆ ไม่ว่าเทาอ่อน เทาเข้ม ซะเป็นหลัก ใครต่อใครเขาเลยอาจเบื่อๆ หันไปสนใจเรื่องอื่นๆ ซะเป็นส่วนใหญ่...

                                 ------------------------------------------------

        ด้วยเหตุนี้...จึงไม่น่าแปลกใจซักเท่าไหร่นัก ที่เรื่องประเภทเสือดำ เสือโคร่ง เรื่องหวยครูปรีชา หรือหวยหมวดจรูญ ไปจนกระทั่งเรื่องล่าสุด คือเรื่อง คุณป้าทุบรถ เลยกลายเป็นข่าวใหญ่ ข่าวดัง ครอบครองพื้นที่ข่าวไปทั่วทั้งโซเชียล มีเดีย ทั่วทั้งโลกเสมือนจริง ก่อนลุกลามเข้ามาช่วงชิงพื้นที่โลกแห่งความเป็นจริง ไม่ว่าวิทยุ ทีวี หนังสือพิมพ์ ชนิดเกลี้ยงไปเป็นแผงๆ แบ่งพื้นที่ระหว่างฝ่ายถูก-ฝ่ายผิด ฝ่ายที่ถูกรุมกระทืบกับฝ่ายที่ควรแหกทวารดม ชัดเจน-แจ่มแจ้ง ไม่ต้องเสียเวลาอธิบาย แปลความ ตีความ อะไรให้เมื่อย...

                               --------------------------------------------------

        ต่างไปจากเรื่องการเมือง หรือเรื่องบ้านเรื่องเมือง ที่นับวันจะเต็มไปด้วยความซับซ้อน ซ่อนเงื่อน จนต้องหาทางแปลความ อธิบายความชนิดแทบปากฉีก ปากแทบไม่เหลือหูรูด แต่ก็ยังยากซ์ซ์ซ์ที่จะทำความเข้าใจกันให้ชัดๆ ให้เห็นผิด-เห็นถูก แบบเห็นขาว-เห็นดำ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปแยกพื้นที่เทาๆ ที่มันมักจะปนมากับความขาว-ความดำ จนกลายเป็นโทนเดียวกันไปซะแทบทั้งหมด ยิ่งการหาทางทำสิ่งที่ผิดให้เป็นถูก หรือถูกให้เป็นผิดก็แล้วแต่ หลังๆ นี้...ดูจะหันไปนิยมกรรมวิธีแบบ ลับ-ลวง-ครางง์ง์ง์ ซะเป็นหลัก แต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง มันเลยยิ่งชักคล้ายๆ มายากล เข้าไปทุกที...

                               ----------------------------------------------------

        ประเภทกระชากกระต่ายออกมาจากหมวก หรือจับคนมายัดเอาไว้ในตู้ แล้วตัดหัว ตัดกลาง ตัดขา แบบชนิดน่าหวาดเสียวเอามากๆ แต่เดี๋ยวเดียวก็สามารถต่อหัว ต่อเอว ต่อขา ให้คนเหล่านั้นโผล่จากตู้ออกมาเดินโชว์ตัว เดินช็อปปิ้งได้ซะอีกต่างหาก จนไปๆ-มาๆ...ผู้ซึ่งต้องตกเป็นฝ่าย ครางง์ง์ง์ ซะเป็นหลักใหญ่ ก็คือบรรดาปุถุชนคนธรรมดา ราษฎรเดินดินกินข้าวแกงทั้งหลาย ที่มีแต่ต้องครางไปครางมา ระหว่างที่ผู้มีอำนาจ ผู้มีเงิน มีทอง ร่วม เล่นกล ให้ดูกันทีละฉากสองฉาก ส่วนจะครางง์ง์ง์แบบฮือๆ ฮาๆ หรือแบบเจ็บปวด รวดร้าว ทรมาน ทรกรรม ก็คงขึ้นอยู่กับ รสนิยม ของใคร-ของมัน แล้วแต่จะว่ากันไป...

                                ------------------------------------------------------

        การที่ผู้คนหันไปสนใจเรื่องอื่นๆ แทนที่จะสนใจเรื่องการเมือง หรือเรื่องบ้านเรื่องเมืองนั้น จะเหมาะ-ไม่เหมาะ ควร-ไม่ควร หรือไม่ อย่างไร ก็ยากที่จะสรุปได้ชัดๆ เพราะการอาศัยมาตรฐานในเรื่องเสือดำ เสือโคร่ง เรื่องหวยครูปรีชา-หมวดจรูญ เรื่องป้าทุบรถ ฯลฯ มาใช้เป็นแนวทางในการแยกแยะว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรดี อะไรชั่ว ในเรื่องที่มันออกจะซับซ้อนยิ่งไปกว่านั้นหลายต่อหลายเท่า อย่างเช่น เรื่อง เอาบิ๊กตู่-แต่ไม่เอาบิ๊กป้อม หรือ ไม่เอาทั้งบิ๊กป้อมและบิ๊กตู่ แต่ยังเอาลุงกำนัน ไปจนถึง ไม่เอาแล้วลุงกำนัน...แต่ก็ไม่อาจเอาประชาธิปัตย์จับมือกับเผาไทย ฯลฯลฯลฯ

                                -----------------------------------------------------

        อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่แหละ...ที่มันคงต้องอาศัยมาตรฐานการแยกแยะถูก-ผิด แยกจริง-แยกเท็จ ที่ค่อนข้างจะละเอียดลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปกว่านั้น และคงอีกไม่นานนับจากนี้ หรือนับจากต้องเลือกตั้งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ที่ถึงเวลาต้องแยกกันให้ชัดๆ ว่าจะเอาใคร-ไม่เอาใคร หรือจะเอาแบบไหน-ไม่เอาแบบไหน ในขณะที่แต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง มันดูจะออกไปทาง เทาๆ ไปด้วยกันทั้งสิ้น หาอะไรที่ขาวผ่อง บริสุทธิ์ สะอาด แทบไม่มี หนักไปทางดำมาก ดำน้อย ไปจนถึงดำมิดหมี ไม่ได้ออกไปทาง อภิชาติ ดำดี แต่ออกไปทาง ดำดูด ด้วยกันทั้งนั้น...

                                ------------------------------------------------------

        อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยน่าห่วง น่ากังวล อยู่บ้างนิดๆ ว่าผู้คนที่เคยคุ้นชินกับประสบการณ์ในเรื่องคุณป้าทุบรถ เรื่องหวยครูปรีชา-หมวดจรูญ หรือเรื่องเสือดำ เสือโคร่ง ฯลฯ เมื่อต้องมาเจอกับเรื่องการเมือง เรื่องบ้านเรื่องเมือง ที่นับวันมีแต่จะสลับซับซ้อนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ชนิดแทบไม่รู้ว่าไผเป็นไผ ฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน ไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายทุบรถ ไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายจอดขวางหน้าบ้านกันแน่ รู้แต่ว่า...คงต้อง เหนื่อยย์ย์ย์ กันอีกซักพักใหญ่ๆ นั่นแหละ กว่าที่ แผ่นดินอันงดงาม จะหวนคืนกลับมาได้แบบจริงๆ จังๆ...

                             ---------------------------------------------------------

        ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Los Angeles Times Syndicate... “An optimist thinks the glass is half full; a pessimist thinks the glass is half empty. A realist thinks that if he sticks around, he’s eventually going to have to wash the glass.- ผู้มองโลกแง่ดีคิดว่าแก้วน้ำเต็มครึ่งหนึ่ง ผู้มองโลกแง่ร้ายคิดว่าแก้วน้ำว่างครึ่งหนึ่ง ส่วนผู้มองโลกตามความเป็นจริงคิดว่า...ถ้าหากไม่ไปไหน เอาแต่วนไป-วนมาอยู่ใกล้ๆ สุดท้าย...เขาเองนั่นแหละ อาจต้องกลายเป็นผู้ล้างแก้วใบนั้น...”

                            ------------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"