ผอ.เขตประเวศเรียกประชุม 5 ตลาด แจ้งข้อหาสั่งปิด 3 แห่งสิ้นเดือนนี้ ส่วนที่เหลือต้องแก้ไขให้ถูกต้อง ผู้ว่าฯ กทม.เซ็นคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ปล่อยตลาดเถื่อนผุดขึ้นได้ยังไง พร้อมสั่งเช็กบิลตลาดทั่ว กทม. รวมทั้งไนต์มาร์เก็ต พบมีราวพันแห่ง แต่ถูกกฎหมายแค่ 364 แห่งเท่านั้น
    ที่สำนักงานเขตประเวศ เวลา 09.00 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ นายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการเขตประเวศ ได้เรียกประชุมเจ้าของตลาด 5 แห่ง ประกอบด้วย ตลาดสวนหลวง 1 ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต ตลาดยิ่งนรา ตลาดรุ่งวาณิชย์ และตลาดร่มเหลือง และซูเปอร์มาร์เก็ต อินฟินิตี้ มอลล์ ซึ่งตั้งรายล้อมบ้านเลขที่ 37/208 ของ น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ ในซอยศรีนครินทร์ 55 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ซึ่งล่าสุดมีผู้จอดรถขวางทางเข้า-ออกจนคนในบ้านออกมาใช้ขวานและเสียม ทุบรถ กลายเป็นคดีความในขณะนี้
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงเวลามีเพียงเจ้าของตลาด 4 แห่งเข้าร่วมประชุม โดยเจ้าของตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต และเจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ต อินฟินิตี้ มอลล์ มิได้เข้าร่วมประชุม ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน 
    นายธนะสิทธิ์กล่าวว่า ทางเขตได้เชิญเจ้าของตลาดทั้ง 5 แห่ง และร้านซูเปอร์มาร์เก็ตอีก 1 แห่งที่อยู่ในพื้นที่มาประชุม เพื่อแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดตามกฎหมายทุกราย ซึ่งมีบางรายจำเป็นต้องแก้ไขให้ถูกต้อง โดยเขตประเวศได้ชี้แจงว่าเจ้าของตลาดกระทำความผิดใดบ้าง ดังนี้ 1.ตลาดสวนหลวง 1 ได้ขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคารถูกต้องตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 แต่ไม่มีใบอนุญาตจัดตั้งตลาดตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 2.ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต มีใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเพื่อใช้เชิงพาณิชย์ แต่ไม่ได้จำหน่ายสินค้าถูกต้องตามที่ขอใบอนุญาต 3.ตลาดยิ่งนรา มีใบอนุญาตขอก่อสร้างอาคารเพื่อใช้เชิงพาณิชย์และจำหน่ายสินค้าถูกต้องตามกฎหมาย แต่โครงสร้างของอาคารไม่มีที่จอดรถ 4.ตลาดรุ่งวาณิชย์ และ 5.ตลาดร่มเหลือง ไม่มีใบอนุญาตก่อสร้างอาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ และใบอนุญาตจัดตั้งตลาดตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุขฯ 
    นายธนะสิทธิ์กล่าวว่า กลุ่มผู้ค้ายังสามารถขายของได้ภายใน 7 วันตั้งแต่วันที่ 22-28 กุมภาพันธ์ เพื่อระบายสินค้า ก่อนทางเขตจะสั่งการให้ยุติการค้าขายโดยสิ้นเชิงในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ รวม 3 ตลาด ประกอบด้วย ตลาดสวนหลวง 1 ตลาดรุ่งวาณิชย์ และตลาดร่มเหลือง โดยให้ปิดตลาดหรือห้ามขายของจนกว่าจะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ส่วนอีก 2 ตลาด ได้แก่ ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต และตลาดยิ่งนรา ซึ่งได้ขออนุญาตก่อสร้างอาคารเชิงพาณิชย์ จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามที่ได้ขออนุญาต โดยตลาดเปิ้ลมาร์เก็ตสามารถขายสินค้าทุกอย่างได้ เช่น สมุด ดินสอ เสื้อผ้า ก๋วยเตี๋ยว ยกเว้นของสดที่ระบุไว้ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุขฯ ส่วนตลาดยิ่งนราต้องหาพื้นที่จอดรถให้ได้ ซึ่งกฎหมายกำหนดต้องมีพื้นที่จอดรถจำนวน 14 คัน ทั้งนี้ ตลาดทั้ง 2 แห่งนี้จะต้องแก้ไขตามข้อบัญญัติกฎหมายภายใน 7 วัน หรือก่อนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ แต่ถ้าถึงวันที่ 28 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบยังไม่ได้แก้ไข ต้องหยุดกิจการและสั่งปิดกิจการเช่นเดียวกัน
    ผอ.เขตประเวศกล่าวว่า การปิด 3 ตลาดคือ ตลาดสวนหลวง 1 ตลาดรุ่งวาณิชย์ ตลาดร่มเหลือง ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ค้าประมาณ 300 ราย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. จึงได้ให้ทางเขตจัดหาพื้นที่รองรับผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบ แต่กลุ่มผู้ค้าแจ้งความประสงค์ว่าจะหาพื้นที่ขายใหม่เอง เนื่องจากกลุ่มผู้ค้าทั้งหมดมีพื้นที่ขายในวันเสาร์-อาทิตย์เป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนวันธรรมดาทำการค้าน้อยมาก ในส่วนของอินฟินิตี้ มอลล์ ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตตั้งอยู่ตรงข้ามบ้าน น.ส.บุญศรีนั้น ต้องแยกอีกกรณีหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ทางเขตอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเจ้าซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้มีความผิดใดบ้าง 
    “ผมเชื่อว่าคุณป้าบุญศรีน่าจะสบายใจกับการแก้ปัญหาของ กทม. เรื่องที่ผ่านมาผมบอกแล้วว่าผมไม่รู้ ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.อัศวินได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมมอบหมายให้นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัด กทม. ลงนามคำสั่งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาและตรวจสอบข้อเท็จจริงในระยะที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นผมอยู่ตรงนี้ ผมจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องและตรวจสอบภายในเขตทั้งหมด ส่วนเขตอื่นอีก 49 เขต ผู้ว่าฯ กทม.จะออกคำสั่งให้ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาในลักษณะเดียวกัน” นายธนะสิทธิ์กล่าว 
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ ผอ.เขตทราบหรือไม่ว่าตลาดไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างอาคารอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นายธนะสิทธิ์กล่าวว่า ส่วนนี้ พล.ต.อ.อัศวินได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งตนไม่ขอตอบเพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และขอยืนยันว่าในยุคตนไม่มีกรณีลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นเด็ดขาด ไม่มีกลุ่มอิทธิพลใดๆ ทั้งสิ้น ทุกคนถือเป็นกลุ่มค้าเหมือนกัน เพราะฉะนั้นจึงขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีกลุ่มอิทธิพลมาเกี่ยวข้อง 
    นายธนะสิทธิ์กล่าวว่า หากศาลปกครองมีคำสั่งให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เพื่ออยู่อาศัย อาคารตลาดทั้งหมดต้องรื้อถอน แม้ตลาด 2 แห่งที่ขอใบอนุญาตอาคารใช้เชิงพาณิชย์ คือ ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต และตลาดยิ่งนรา ก็ต้องรื้อถอนเช่นกัน 
    วันเดียวกัน พล.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการประกอบกิจการตลาดบริเวณซอยศรีนครินทร์ 55 ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ อาทิ รองประธานสภา กทม. อธิบดีศาลฎีกา อธิบดีอัยการ เป็นต้น ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัด กทม. ออกคำสั่งให้ทั้ง 50 สำนักงานเขต ออกสำรวจตลาดที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย พร้อมรายงานผลมายังผู้บริหาร กทม.รับทราบ
    จากการสำรวจในเบื้องต้นพบว่า ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีตลาดราว 1,000 แห่ง แต่มีเพียง 364 แห่งเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตจัดตั้งตลาดถูกต้องตามกฎหมาย ปัญหาของทางออกคือ 1.ทำให้ถูกต้อง และ 2.ยกเลิกตลาด ฉะนั้น อะไรที่ผิดต้องทำให้ถูก รวมถึงตลาดกลางคืนที่มีข้อร้องเรียนก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญ กทม.จะออกสำรวจด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ จะไม่สั่งปิดตลาดทันที เพราะต้องเข้าใจหัวอกผู้ค้าเช่นกัน ไม่ใช่ผลักไสไล่ส่ง 
    วันเดียวกัน นายภัทรุตม์ได้ออกบันทึกหนังสือ ที่ กท.0907/178 ถึงผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต ให้สำรวจและตรวจสอบอาคารประเภทตลาด ระบุว่า ด้วยปรากฏว่ามีการประกอบกิจการประเภทตลาดในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวนมาก ดังนั้นเพื่อให้การประกอบกิจการประเภทตลาดเป็นไปตามกฎหมาย มีความปลอดภัย ถูกต้องตามหลักสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม จึงให้สำนักงานเขตทุกเขตดำเนินการตามนี้ 1.สำรวจตรวจสอบ การดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขของการประกอบกิจการประเภทตลาดในพื้นที่รับผิดชอบ 2.กรณีที่การประกอบกิจการประเภทตลาดเป็นอาคาร ให้ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร และ 3.ให้รายงายผลการตรวจสอบและส่งให้สำนักการโยธา ภายในวันที่ 5 มีนาคม 2561 เพื่อรวบรวมสรุปผลนำเสนอผู้ว่าฯ กทม.ต่อไป เบื้องต้นการตรวจสอบอาคารตลาดแต่ละประเภทว่าได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายควบคุมอาคารหรือไม่ 
    ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบบริเวณตลาด 3 แห่งที่ กทม.มีคำสั่งปิดดำเนินการ คือ ตลาดสวนหลวง 1 ตลาดรุ่งวาณิชย์ และตลาดร่มเหลือง พบว่าที่ตลาดสวนหลวง 1 ยังมีการค้าขายอยู่ แต่ผู้ค้าก็บางตา ส่วนตลาดอีก 2 แห่งไม่พบผู้ค้า ทราบว่าส่วนใหญ่จะเปิดขายวันเสาร์-อาทิตย์ และเป็นที่สังเกตว่ามีตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่เทศกิจคอยอำนวยความสะดวกเรื่องการจราจร โดยเฉพาะที่หน้าบ้าน น.ส.บุญศรี
    สำนักข่าวอิศราระบุว่า ตลาดยิ่งนรา 1 ใน 5 ตลาดที่อยู่ใกล้บ้าน น.ส.บุญศรีนั้น เป็นของบริษัท ยิ่งนรา จำกัด ซึ่งมีนางสาวพัชรี เจียรวนนท์ เป็นกรรมการอยู่ด้วย นำส่งข้อมูลงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 แจ้งว่ามีรายได้รวม 18.05 บาท รายจ่ายรวม 8,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 7,981.95 บาท
    นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ปกติสรรพากรมีการตรวจสอบการเสียภาษีของเจ้าของตลาด และผู้ค้าในแผงตลาดทั่วประเทศให้เสียภาษีอย่างถูกต้องอยู่แล้ว โดยไม่เคยมีการละเว้นปฏิบัติไม่ว่าตลาดนั้นเป็นของใคร กรณีตลาดยิ่งนรามีผลประกอบการในปี 59 ขาดทุน และมีรายรับรายจ่ายน้อยนั้น เจ้าหน้าที่ได้รายงานว่าไม่พบความผิดปกติ เพราะตลาดยิ่งนราเพิ่งเป็นตลาดเปิดใหม่ ซึ่งปกติตลาดเปิดใหม่จะมีการทำโปรโมชั่นให้พ่อค้าแม่ค้าเข้ามาขายฟรีก่อนในช่วงแรก ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของพ่อค้าแม่ค้าในแผงตลาด ที่บอกว่าช่วงปีแรกเข้ามาขายฟรี ไม่เสียค่าเช่า อย่างไรก็ตาม ได้ให้เจ้าหน้าที่ติดตามการยื่นภาษีในรอบปี 60 ซึ่งกำหนดให้ยื่นเสียภาษีช่วงกลางปีต่อไป โดยยืนยันสรรพากรไม่มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เด็ดขาด.