จ่อฟันตร.เอี่ยวหวย30ล.อีกหลายนาย


เพิ่มเพื่อน    

จเรตำรวจฯ แจงเหตุย้ายผู้การเมืองกาญจน์เข้ากรุเพราะหวยล้วนๆ ไม่มีเรื่องอื่นปน ยังมีตำรวจเอี่ยวอีกหลายนาย ถ้าพบผิดว่าไปตามกระบวนการ ระดับ พ.ต.ท.ส่ง ป.ป.ท. ส่วนสูงกว่านั้นให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ  ขณะที่ "ปรีชา" ไม่อยากจะเชื่อ พล.ต.ต.สุทธิโดนย้าย ยังขาสั่นสู้ ระบุมีคนติดคุกแน่แต่ไม่ใช่ตนเอง 

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ   เปิดเผยถึงการมีคำสั่งย้าย พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี มาประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ว่าสาเหตุที่ย้ายเนื่องจากผลการสืบสวนสอบสวนของคณะทำงานพบว่า พล.ต.ต.สุทธิอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีหวย 30 ล้าน เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างเป็นธรรม และไม่ให้เข้าไปยุ่งเหยิงกระบวนการรวบรวมวัตถุพยานหรือพยานบุคคล จำเป็นที่จะต้องออกคำสั่งให้มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อน เพื่อให้คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนได้สอบสวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้สื่อข่าวถามว่า โดยพฤติการณ์ของ พล.ต.ต.สุทธิ เป็นไปตามเอกสารคำสั่งย้ายที่หลุดออกมาหรือไม่ จเรตำรวจฯ ตอบว่า เรื่องเอกสารคำสั่งที่หลุดออกมา ขอความกรุณาให้สื่อใช้ดุลพินิจนิดหนึ่งว่าเอกสารใดที่เป็นเอกสารของราชการหรือเอกสารลับ ขอให้ตระหนักในเรื่องการเผยแพร่ เพราะอาจจะเข้าข่ายความผิดทางอาญาได้ ขออย่าเผยแพร่เลยดีกว่า  

ถามต่อว่า ได้มีการพูดคุยกับทาง ผบก.กาญจนบุรีแล้วหรือยัง พล.ต.อ.สุชาติเผยว่า ก็มีการพูดคุยกันบ้างแล้ว พล.ต.ต.สุทธิขอเลื่อนการเข้ารายงานตัว ให้เหตุผลว่าอยู่ระหว่างปฏิบัติราชการและอบรมหลักสูตรการบริหารการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมภาครัฐร่วมเอกชน หรือ บรอ. ไม่เกิน 2 วันจะกลับมารายงานตัว

ซักว่าเหตุผลในการย้าย พล.ต.ต.สุทธิในครั้งนี้เหตุผลชัดเจนแค่ไหน จเรตำรวจแห่งชาติตอบว่า จะชัดเจนหรือไม่ชัดเจนมันอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนที่จะต้องทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและมีความเห็น ในระหว่างนี้อย่างที่บอกตอนต้นแล้วว่าเพื่อให้คณะกรรมการสอบสวนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและให้เกิดความเป็นธรรม จะต้องเอาตัว ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ออกจากพื้นที่ก่อน และการสอบสวนถ้าผลสอบไม่พบความผิด ก็สามารถกลับไปดำรงตำแหน่งเดิมได้ แต่ถ้าผลการสอบพบว่ามีความผิด ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ

เขาบอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่คาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องอีกหลายนาย ต้องรอผลจากคณะกรรมการของกองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) ก่อนว่าใครบ้างมีความผิด มีความผิดชั้นไหน และหากมีความผิดแล้ว ในส่วนที่มีความผิดจะดำเนินการทางวินัยอย่างไร ส่วนใครที่เข้าข่ายความผิดทางอาญา ก็ต้องว่าไปตามนั้น กระบวนการ หลังจากนั้นอาจส่งให้พนักงานสอบสวนกองปราบฯ หรือส่งให้ ปปป.รับคำร้องทุกข์ดำเนินคดี แล้วส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่นระดับ พ.ต.ท.ลงมา ส่งให้ ป.ป.ท. ถ้าสูงขึ้นไปกว่านั้นอาจจะส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น

เรื่องหวยล้วนๆ

พล.ต.อ.สุชาติเปิดเผยต่อว่า การออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดี ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องรอผลการสอบสวนจากคณะกรรมการจากกองบัญชาการสอบสวนกลางสรุปมาก่อน แต่คาดว่าสามารถจะสรุปได้ภายในสัปดาห์นี้ ยืนยันว่าเหตุผลในการย้าย พล.ต.ต.สุทธิ ครั้งนี้ มีเหตุผลเดียวเฉพาะเรื่องหวย ไม่มีเรื่องอื่นเกี่ยวข้อง

ขณะที่ในส่วนของ พล.ต.ต.สุทธิ หลังถูกคำสั่งย้ายนั้น พบว่าไม่ได้เดินทางมาปฏิบัติราชการที่ห้องทำงาน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีแต่อย่างใด ขณะที่บริเวณบ้านพักภายในสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรียังคงปิดเงียบ มีเพียงรถตู้จอดอยู่ภายในบริเวณบ้านพักเท่านั้น 

เมื่อสอบถามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ทราบเพียงว่าผู้การเดินทางไปดูงานตามวงรอบ และยังไม่ได้พูดถึงคำสั่งย้ายแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.สุทธิให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า พร้อมปฏิบัติคำสั่งของผู้บังคับบัญชา แต่วันนี้ยังติดราชการ จึงจะทำเรื่องและประสานขอเข้ารายงานตัวในวันอื่นแทน และหลังจากมีคำสั่ง ก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยจะรายงานเรื่องทั้งหมดให้ทราบในวันที่เข้ารายงานตัว    

เขาบอกว่า การดำเนินคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ยืนยันว่าดำเนินการไปพยานหลักฐาน ทำตามระเบียบขั้นตอนกฎหมาย โดยข่าวที่ออกมายังไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. เดินทางไปสอบสวนคดีนี้ด้วยตัวเองที่จังหวัดกาญจนบุรี และนำไปสู่คำพูดประโยคที่ว่า ให้บุคคลที่ถูกสอบกลับตัวกลับใจ ไม่เช่นนั้นต้องรับกับผลทางกฎหมายที่จะตามมา

สำหรับเอกสารที่มีการเผยแพร่ระบุเป็นเอกสารบันทึกข้อความลับของ บช.ก. เรื่องขอให้พิจารณาสั่งให้ พล.ต.ต.สุทธิมาปฏิบัติราชการที่ ตร. ถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 มีใจความสำคัญว่า พฤติกรรมเชื่อมโยงของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำให้การนั้น ได้แก่ พล.ต.ต.สุทธิ และ พ.ต.ท.ชูวิทย์ เจริญนาค รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาของ ร.ต.อ.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้มีการตรวจสำนวนและควบคุมนั่งการให้ ร.ต.อ.จิรยุทธ์ ทำการเปลี่ยนแปลงคำให้การของนายปรีชา, น.ส.รัตนาพร และ น.ส.พัชริดา ให้มีความสมบูรณ์เหมือนว่ามีการสอบสวนข้อเท็จจริงเหล่านี้มาตั้งแต่การสอบสวนครั้งแรก 

ใช้อำนาจไม่สุจริต

โดยเพิ่มข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพยานบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ลงไป โดยมี ร.ต.อ.จิรยุทธ์เป็นผู้แก้ไขเปลี่ยนแปลงคำให้การ ซึ่งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก เพราะทำให้พยานหลักฐานของฝ่ายนายปรีชามีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ส่งผลต่อการมีความเห็นทางคดีของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ และอาจส่งผลต่อการพิจารณาคดีชั้นศาลได้ ซึ่งการกระทำของ พล.ต.ต.สุทธิ, พ.ต.ท.ชูวิทย์ และ ร.ต.อ.จิรยุทธ์ ทำให้ ร.ต.ท.จรูญต้องร้องขอความเป็นธรรมต่อ ผบช.ก. เพื่อขอให้โอนสำนวนการสอบสวนให้ บก.ป.ทำการสอบสวน

พฤติการณ์ของ พล.ต.ต.สุทธิ ที่ปรากฏข้อเท็จจริงจากการสืบสวนสอบสวนข้างต้น เห็นว่าเป็นการใช้อำนาจในฐานะที่ตนเองเป็นทั้งผู้บังคับบัญชาและหัวหน้าพนักงานสอบสวนใน จ.กาญจนบุรี สั่งการให้ พนักงานสอบสวนผู้ใต้บังคับบัญชาสอบสวนโดยไม่สุจริต เป็นธรรม และมีอคติเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากพล.ต.ต.สุทธิยังคงปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ในระหว่างการสอบสวนคดีนี้ อาจจะเป็นที่ไม่ไว้วางใจของคู่กรณีและประชาชนที่ติดตามข่าวสารในการดำเนินคดี ตลอดจนอาจใช้อำนาจหน้าที่เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อันส่งผลให้พยานบุคคลเกิดความหวาดกลัว เห็นควรมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุทธิมาปฏิบัติราชการที่ ตร. โดยขาดจากตำแหน่งเดิม จนกว่าการสอบสวนคดีนี้จะแล้วเสร็จ โดยทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ดำเนินการตามเสนอ ผบช.ก. และให้ จตช./ผอ.ศปกตร.ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังห้องทำงานที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ของ ร.ต.อ.จิรยุทธ์ ก็พบว่าถูกปิด เมื่อเดินขึ้นไปชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องของ พ.ต.ท.ชูวิทย์ ก็ไม่พบตัว ผู้สื่อข่าวได้ถามตำรวจในโรงพักก็ได้คำตอบว่า ตั้งแต่ท่านทั้ง สองได้ถูกทางตำรวจกองปราบฯ เชิญไปสอบสวนตั้งแต่วันก่อน ถึงวันนี้ก็ยังไม่กลับมาเลย

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ออกเดินทางไปที่วัดใต้เพื่อไปหาเจ๊เกียว เมื่อมาถึงวัดใต้เจอเจ๊เกียวกำลังยืนขายลอตเตอรี่อยู่ เจ๊เกียวบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ปกติทุกอย่าง  ความจริงก็คือความจริง ไม่วิตกอะไร เรื่องการย้ายของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รู้สึกอย่างไร เป็นเรื่องปกติของแต่ละที่ พอดีมีคดีดังก็สั่งย้าย เป็นเรื่องปกติ อย่าง 5 เสือยังถูกสั่งย้าย เช่น คดีหวย บ่อน ซ่อง ก็ถูกสั่งย้าย เป็นเรื่องธรรมดาของวงการตำรวจ 

ครูปรีชามั่นใจมีคนติดคุก

นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา เผยว่า เห็นข่าวแล้ว แต่ยังไม่อยากเชื่อ ขอเวลาตรวจสอบให้แน่ใจอีกครั้งก่อนจะแสดงความคิดเห็นใดๆ แต่ยืนยันไม่เครียดเรื่องคดีหวย 30 ล้าน เพราะมีการเตรียมความพร้อมในการต่อสู้คดีไว้หมดแล้ว โดยขอให้นักข่าวและสังคมเข้าใจใหม่ว่าแม้ผลสรุปคดีของกองปราบฯ จะออกมาว่าอย่างไร แต่คดีนี้ก็ยังต้องไปสู้ต่อในชั้นศาล 

"ผมมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานที่สามารถใช้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผมได้ ยืนยันเมื่อคดีนี้ถึงที่สุดต้องมีคนที่ติดคุก แต่มั่นใจว่าไม่ใช่ผมอย่างแน่นอน" นายปรีชากล่าว

ขณะที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ในคดีหวย 30 ล้าน ได้เดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม เพื่อมาพบ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที

นายษิทราเปิดเผยว่า ขณะนี้จากการสืบสวนสอบสวนของคณะทำงานของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เชื่อว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนสามารถหาผู้ที่กระทำความผิดในการอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลมูลค่า 30 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน

ก่อนหน้านี้ ที่ตนประกาศว่ามีพยานหลักฐานใหม่นั้น เบื้องต้นนำส่งพยานหลักฐานดังกล่าวให้กับชุดสืบสวนสอบสวนแล้ว ส่วนกระแสข่าวลือว่า 'เจ๊เกียวและเจ๊กุ้ง' หนึ่งในพยานที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวจะเดินทางเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กองบังคับการปราบปรามนั้น ก็ฝากเตือนไปยังทั้งสองคนว่า ให้ระมัดระวัง เพราะเดี๋ยวไลน์ปลอมที่มีอยู่จะหลุดออกมาจนทำให้มีผลต่อรูปคดี

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าก่อนที่จะมีการขึ้นศาลแพ่ง ไม่ได้มีการนัดคุยไกล่เกลี่ยแต่อย่างใดกับครูปรีชา ใคร่ครวญ คู่กรณีอย่างที่เป็นกระแสข่าวแต่อย่างใด เคยเจอเพียงครั้งเดียวที่โรงเรียน และตามรายการต่างๆ ซึ่งในส่วนของความชัดเจน ขอให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นคนแถลงในวันที่ 28 ก.พ.นี้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"