'สมชัย' ยก 2 ปัจจัยคว่ำ 7 กกต.-รู้แล้วใครคือต้นเหตุ!


เพิ่มเพื่อน    

แฟ้มภาพ

23 ก.พ. 61- ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)​นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.  กล่าวกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติไม่เห็นชอบบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกกต.ทั้ง 7 คนว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่ามีใบสั่งอย่างที่ปรากฎทางสื่อ  เพราะถ้าดูจากคะแนนที่ผู้ได้รับการเสนอชื่อได้รับทั้งสูงสุดและต่ำสุด ค่อนข้างธรรมชาติมาก ถ้ามีใบสั่งคะแนนที่ได้จะต้องเกาะกลุ่มกันมากกว่า  แต่ก็อาจเป็นเพราะเป็นการลงคะแนนลับด้วยทำให้ สนช. มีเสรีภาพไม่ต้องคำนึงว่าใครจะรู่ว่าตนเองลงคะแนนให้ใคร ส่วนสาเหตุที่ประชุมสนช.ไม่รับทั้งหมด คิดว่าประธานสนช.คงจะพูดชี้แจงแทนสมาชิกทุกคนไม่ได้ เพราะเป็นการลงคะแนนลับ ไม่รู้ว่าสมาชิกแต่ละคนคิดอย่างไร แต่สมควรที่ประธานสนช.จะต้องวิเคราะห์ให้ได้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการไม่รับรองในรอบใหม่ 

ตนวิเคราะห์ว่า 1. เป็นปัญหาในกระบวนการสรรหาตามกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้การลงคะแนนทั้งของคณะกรรมการสรรหา และที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาต้องทำโดยเปิดเผย ซึ่งเมื่อได้ตรวจสอบจากรายงานการประชุมของคณะกรรมการรสรรหายังพบว่าขาดความสมบูรณ์ว่ากรรมการสรรหาแต่ละคนลงมติเลือกใคร ส่วนของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาการใช้บัตรลงคะแนนโดยไม่รู้เป็นบัตรของใครถือว่าทั้ง 2 ส่วนยังไม่ได้ใช้วิธีการลงคะแนนโดยเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนด    ซึ่งคิดว่าคณะกรรมการทั้ง 2 ส่วนควรจะต้องใช้บทเรียนนี้ในการพิจารณาทบทวน  เพราะเชื่อว่าเป็นส่วนที่สนช.มองว่าเป็นปัญหาจนไม่อาจลงมติรับรองได้ หากไม่ทบทวนก็จะทำให้การเสนอชื่อครั้งต่อไปถูกคว่ำ ซึ่งก็จะเสียของไปเรื่อยๆ 

นายสมชัย กล่าวว่า 2.เป็นปัญหาของผู้เขียนกฎกติกาที่มุ่งหมายให้ดีเลิศจนเกินความเป็นจริง เพราะถ้ามองว่าผู้ได้รับการเสนอชื่อมีปัญหาเรื่องความรู้ ความสามารถ  มือไม่ถึง ที่จะมารับผิดชอบงานเลือกตั้ง ปัญหานี้จะไปโทษผู้ได้รับเสนอชื่อทั้ง 7 คนไม่ได้ เพราะผ่านการสรรหามา  หรือจะโทษคณะกรรมการสรรหาว่าสรรหาอย่างไรจึงได้คนที่มือไม่ถึง ก็ไม่ควรเพราะคณะกรรมการสรรหาทำภายใต้กรอบกติกาที่มี ดังนั้นถ้าจะโทษต้องโทษผู้เขียนกติกา

"ไปเขียนกติกาว่าต้องลงคะแนนสรรหาโดยเปิดเผยทำให้เกิดปัญหาว่าเลือกได้กกต. 2 คน แต่ทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่ผู้พิพากษา หรือเขียนว่ากกต.ต้องมีคุณสมบัติขั้นเทพ ต้องเคยดำรงตำแหน่งเทียบเท่ากับหัวหน้าส่วนราชการและเป็นไม่น้อยกว่า5 ปี ผลที่เกิดใต้กติกาทำให้ผู้มีคุณสมบัติในการทำงานตกสเปค รองปลัดกระทรวงสมัครก็ถูกคัดออก เพราะหัวหน้าส่วนราชการถูกตีความว่าต้องเป็นปลัดกระทรวง เป็นผบ.ทบ. หรือ ผบ.ตร. และยังต้องเป็นมาแล้ว 5 ปี ถามว่าในประเทศไทยนี้จะมีใครบ้างที่เป็นตำแหน่งเหล่านี้นาน 5 ปี  แล้วยังไปเปิดให้กลุ่มครู ข้าราชการอื่นๆ ถ้ามีใบประกอบวิชาชีพทำงานมา 20 ปี ก็ถือว่าเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติจึงได้คนเป็นครู เป็นอธิการบดี เข้ามา แต่การกำหนดกติกาเช่นนี้ทำให้คนที่ดีคนที่ทำงานได้ถูกกรองออกไป" นายสมชัย กล่าวและว่าอย่างไรก็ตาม ในการสรรหารอบใหม่คณะกรรมการสรรหาก็ควรที่จะยึดมติการตีความหัวหน้าส่วนราชการว่าผู้สมัครที่เป็นทหาร ตำรวจจะต้องเป็นผบ.ทบ. ผบ.ตร. และดำรงตำแหน่งมาไม่น้อยกว่า 5 ปีไว้ ไม่เปลี่ยนบรรทัดฐาน  

นอกจากนี้ ยังเขียนกติกาการได้มาซึ่งคณะกรรมการสรรหาอึดอัดกว่า เพราะไม่เพียงคุณสมบัติต้องเหมือนกกต. แต่ต้องเหนือกว่า เพราะต้องไม่ทำงาน  หรือรับตำแหน่งใดในขณะสรรหาถือเป็นมหาเทพ เราจึงได้คนที่เกษียณอายุราชการเท่านั้น และยังต้องไม่เกี่ยวข้องหรือเคยทำงานกับองค์กรอิสระใดๆ คือไม่เป็นที่ปรึกษาหรืออนุกรรมการ จึงได้อดีตข้าราชการจากกระทรวงที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการบริหารบ้านเมือง การเลือกตั้งเลย เช่นอธิบดีกรมหม่อนไหม อธิบดีกรมข้าว เมื่อผู้สมัครไปแสดงวิศัยทัศน์ คณะกรรมการสรรหาก็อาจมีขีดจำกัดในการวิเคราะห์ ว่าความคิดของผู้สมัครสามารถนำมาใช้งานได้จริงหรือไม่

"ถ้าไปอ่านในรายงานของคณะกรรมการสรรหาที่เสนอต่อ สนช. ในส่วนการสัมภาษณ์ ผู้ผ่านการคัดเลือก จะเห็นว่าถามอย่างหนึ่ง ก็ตอบอย่างหนึ่ง  และถ้าคนที่รู้เรื่องการเมืองการเลือกตั้ง ก็จะพูดได้การตอบแบบนี้ไม่ตรงประเด็น ดังนั้นจะไปโทษผู้สมัคร หรือกรรมการสรรหาไม่ได้ ต้องโทษคนเขียนกติกาที่คาดหวังความดีเลิศมากเกินไปหรือไม่  แต่ ณ วันนี้ ทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะต้องไปแก้ไขกฎหมาย ดังนั้นโจทย์ใหญ่คือทำอย่างไรจะประคับประคองสถานการณ์ให้การสรรหา ได้คนพอใช้ได้หรือดีระดับหนึ่ง ต้องทำให้คนยอมรับได้  ซึ่งเป็นโจทย์ที่กรรมการสรรหาชุดปัจจุบันต้องทำ จึงไม่ควรที่สังคมจะไปโทษคณะกรรมการสวรรหา อย่าไปทำให้เขาน้อยใจจนลาออก เดือดร้อนต้องมาหากรรมการสรรหา ซึ่งก็หาได้ยากมาก และเดิมมีกรรมการสรรหา 6 คน จาก 7 คน  แต่วันนี้ก็เหลือแค่ 5 คนแล้ว เพราะมีคนหนึ่งไปเป็นรองธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งก็ทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นคณะกรรมการสรรหา"นายสมชัยกล่าว

กกต.ผู้นี้   กล่าวว่า ในส่วนของ กกต.ก็ยืนยันว่าเราจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ สิ่งที่คิดว่าจะรอชุดใหม่มาดำเนินการ ก็คงรอไม่ได้ เพราะกระบวนการสรรหาชุดใหม่น่าจะใช้เวลาประมาณ  6 เดือนเต็ม   ฉะนั้นคาดว่าจะมีชื่อ กกต. ชุดใหม่เดือนสิงหาคม  กกต.ชุดปัจจุบันก็จะทำงานต่อไป  ไม่มีผลกระทบใดๆกับการเลือกตั้งทุกประเภท  โดยในประชุมกกต.วันที่ 27 ก.พ. คงจะต้องหารือกำหนดท่าทีในเรื่อง การคัดเลือกเลขาฯ กกต.  การออกระเบียบสรรหาผู้ตรวจการเลือกตั้ง และการคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง   จะดำเนินการไปเลยหรือไม่    คิดว่าเราควรมีหัวหน้าหน่วยงานมาทำงานเต็มที่ เพื่อเตรียมการในการเลือกตั้ง และการเลือกตั้งท้องถิ่นที่อาจจะมีขึ้น ซึ่งจะควบคุมได้ยากกว่าการเลือกตั้งทั่วไป เพราะมีเรื่องของการซื้อเสียง  ก็จำเป็นที่ กกต.จะต้องคัดสรรผู้ตรวจการเลือกตั้งมาไว้ให้เพียงพอ เพื่อเข้าไปช่วยดูแล ส่วนในเรื่องร้องเรียนต่างๆ เราก็จะเร่งรัด อย่างเรื่องหุ้นรัฐมนตรี ก็คิดว่าภายใน 2 เดือนนี้จะได้เห็นและ กกต.ชุดนี้จะวินิจฉัยว่าจะส่งศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ 
  
"สิ่งที่กังวล  คือชุดใหม่มาช้าเท่าไหร่  เวลาที่จะเหลือจาการเตรียมการเลือกตั้งก็จะน้อยลง   รากเหง้าของปัญหาคือ ไม่ควรเซตซีโร่ กกต.ชุดนี้   ถ้าคุณไม่เซตซีโร่แต่แรก  ปัญหาวันนี้ก็คงไม่เกิด  จะไม่มีปัญหาเรื่องการเปลี่ยนผ่าน    จะด้วยปัญหาไม่อยากได้ปลาสองน้ำ ณ วันนี้ ได้ปลาสองน้ำแบบที่ตั้งใจหรือไม่   เมื่อเซตซีโร่แล้วก็ต้องรับสภาพกับปัญหาที่เกิด  เราก็รับสภาพ  เราเก็บของเตรียมส่งมอบงาน  แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะส่งมอบได้เมื่อไหร่  เมื่อส่งไม่ได้แล้วใกล้เลือกตั้ง  การได้มือใหม่ในช่วงใกล้เลือกตั้งมากเท่าไร่ก็จะยิ่งเป็นปัญหา  ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับว่าเราจะช่วยกันดูสถานการณ์อย่างไรให้เป็นการลงอย่างซอฟแลนดิ้ง  ทำอย่างไรไม่ให้เกิดผลกระทบ " นายสมชัย กล่าว

เมื่อถามว่า เลขาฯ วุฒิระบุว่าการสรรหา กกต.ใหม่ กฎหมายไม่ได้กำหนดเรื่องกรอบเวลาไว้  นายสมชัยกล่าวว่า ตามบทเฉพาะกาลของ พ.ร.ป. กกต. จะเขียนถึงการสรรหาครั้งแรกไว้ ว่าให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน  ซึ่งก็คิดว่าน่าจะเทียบเคียงจากตรงนี้ได้ และขณะนี้มีคณะกรรมการสรรหาอยู่แล้ว จึงน่จะตัดขั้นตอนของการสรรหาคณะกรรมการสรรหา 20 วันออก กระบวนการ 90 วันน่าจะเริ่มนับเมื่อประธานศาลฎีกาได้รับจดหมายแจ้งจากประธาน สนช. ให้ดำเนินการสรรหา.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"