ใต้ระอุ!เผานราธิวาสป่วนปัตตานี


เพิ่มเพื่อน    

  ก่อเหตุวางระเบิดเพลิง 2 จุด ห้างใหญ่กลางเมืองนราธิวาสโดนเผาซ้ำ อีกจุดรอดระเบิดไม่ทำงาน วงจรไม่สมบูรณ์ เสียหายวอดนับสิบล้าน ส่วนปัตตานีถูกก่อการร้ายรวดเดียว 7 จุด หน่วยงานด้านความมั่นคงเชื่อก่อเหตุโชว์คณะผู้แทนจาก OIC ลงพื้นที่สิ้นเดือนนี้ 

     เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 24 ก.พ.61 พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ 2 จุด จุดแรกที่บริเวณร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูก ไม่มีเลขที่ ซึ่งตั้งอยู่ ถ.ระแงะมรรคา, จุดที่ 2 บริเวณห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ เลขที่ 24/2 ถ.จำรูญนรา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานไปยังหน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองนราธิวาสและพื้นที่ใกล้เคียง จำนวนกว่า 20 คัน เพื่อสนับสนุนในการแยกย้ายฉีดน้ำสกัดเพลิงทั้ง 2 จุด พร้อมระดมเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อทำการปิดกั้นการจราจรและอำนวยความสะดวกรถดับเพลิงเข้าฉีดน้ำดับไฟ
     โดยจุดแรกต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูกไม่มีชื่อและเลขที่ ซึ่งปลูกสร้างในลักษณะใช้สังกะสีมุงหลังคาและกั้นเป็นฝาผนัง ซึ่งเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อยู่ที่จุดวางสินค้าประเภทพลาสติกซึ่งตั้งอยู่กลางร้าน และได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็วที่ร้านจำหน่ายปลาสวยงามที่อยู่ติดกัน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการฉีดน้ำสกัดกั้นต้นเพลิงนานเกือบ 2 ชั่วโมงจึงสงบลง และพบว่าร้านค้าถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายจำนวน 2 คูหา
    ส่วนจุดที่ 2 ซึ่งเป็นห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ที่ใหญ่ที่สุดของ จ.นราธิวาส และเคยถูกคนร้ายลอบวางเพลิงได้รับความเสียหายมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณล็อกวางสินค้าประเภทไวไฟที่บรรจุไว้ในกระป๋อง และขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังฉีดน้ำสกัดกั้นต้นเพลิงก็ได้ยินเสียงระเบิดเกิดขึ้นเป็นระยะๆ 
    จนกระทั่งไฟได้ลุกลามไปยังที่วางสินค้าส่วนต่างๆของห้างซึ่งเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี โดยที่เจ้าหน้าที่กระทำได้เพียงฉีดน้ำดับไฟเพื่อไม่ให้ต้นเพลิงลุกลามไปไหม้บ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่บริเวณด้านข้างของห้าง จนเวลาผ่านไปนานประมาณ 4 ชั่วโมง เพลิงจึงได้สงบลง ทำให้ห้างซูเปอร์ดีพาร์ตเมนต์สโตร์ได้รับความเสียหายทั้งหมด เบื้องต้นความเสียหายคาดรวมประมาณ 15 ล้านบาท
ตรวจสอบเหตุไฟไหม้
    ต่อมาเวลา 07.30 น. พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส พร้อมด้วย น.อ.เลอศักดิ์ คชนันทน์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ กองทัพเรือ ค่ายจุฬาภรณ์, พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส, นายยะห์ยา ปะนาฆอ นายอำเภอเมืองนราธิวาส, น.ต.พลพิพัฒน์ เศวตวงศ์ รองผบ.ฉก.นราธิวาส 33, ร.ต.อ.พลวัฒน์ เทพษร รองสารวัตรชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส และชุดพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นราธิวาส เดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ทั้ง 2 จุด
       โดยจุดแรก ร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูกประเภทเครื่องครัวและที่นอนหมอนมุ้ง ตั้งอยู่ปากซอยสันติโชติ ถ.ระแงะมรรคา ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส ใกล้กับวิทยาลัยเทคนิคนราธิวาส ซึ่งเป็นร้านต้นเพลิง ปลูกสร้างด้วยสังกะสีทั้งหลัง และมี น.ส.นิรมนตร์ สังข์สุวรรณ อายุ 42 ปี เป็นเจ้าของ โดยเพลิงได้ลุกไหม้บริเวณขั้นวางสินค้าพลาสติกก่อนที่จะลามไปยังสินค้าประเภทหมอน ผ้าปูที่นอน และอื่นๆ ทั่วร้าน แม้ว่ารถดับเพลิงจะระดมกำลังฉีดน้ำเพื่อสกัดเปลวเพลิงตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสินค้าต่างๆ ล้วนเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เปลวเพลิงลามไปทั่วจนร้านค้าได้รับความเสียหายทั้งหลัง
       รวมทั้งร้านนราอควาเรียม ที่จำหน่ายปลาตู้ที่ตั้งอยู่ติดกัน ซึ่งมีนายชูชาติ ศิลามาศ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 ถ.ระแงะมรรคา ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส เป็นเจ้าของ ถูกเปลวเพลิงเผาวอดเสียหายทั้งคูหาเช่นกัน โดยจุดแรกนี้มีร้านค้าได้รับความเสียหายจำนวน 2 คูหาและจากการประเมินเบื้องต้นจากเจ้าของร้าน มีความเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท ส่วนร้านจำหน่ายปลาตู้ ประมาณ 500,000 บาท
         และจุดที่สอง ภายในห้างซุปเปอร์ 4 นราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 24/2 ถ.จำรูญนรา ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส มี ดร.วชิรวิทย์ ศิริชัย ทันตแพทย์ของ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ เป็นเจ้าของ ซึ่งต้นเพลิงเกิดจากบริเวณอาคารชั้นเดียวด้านขวามือซึ่งจำหน่ายสินค้าประเภทกิฟต์ช็อป และเป็นจุดตอกบัตรของพนักงานห้างดังกล่าว โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังสกัดเปลวเพลิงไว้ แต่เปลวเพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารและสินค้าข้างในได้รับความเสียหายทั้งหมดเช่นกัน
         เบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สำหรับห้างซุปเปอร์ 4 แห่งนี้ เป็นห้างดังตั้งอยู่ใจกลางเมืองนราฯ และเคยถูกลอบวางระเบิดเพลิงมาแล้วเมื่อ ก.ย.ปี 55 ทั้งนี้ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบเศษชิ้นส่วนของนาฬิกาข้อมือ ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวจุดชนวนในการตั้งเวลาไว้พร้อมกันทั้งสองจุด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าต่อในการที่จะควานหาหลักฐานอย่างละเอียด
ยังไม่ฟันธง
        พล.ต.ต.มนัสเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่อยากให้สื่อฟันธงว่าเกิดจากฝีมือของกลุ่มโจรใต้อย่างเดียว ถึงแม้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะพร้อมๆ กันทั้ง 2 ที่ ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์ให้แน่ชัดก่อน
         ด้าน พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามเสาไฟฟ้า จุดเกิดเหตุทั้ง 2 จุด เพื่อติดตามพฤติกรรมของกลุ่มคนร้าย ซึ่งคาดว่าอย่างน้อยน่าจะมีจำนวน 2 ชุด คือชุดที่ 1 ลอบก่อเหตุที่ร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูก และชุดที่ 2 ลอบก่อเหตุที่ห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบหลักฐานเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปตรวจสอบจุดที่ 2 ที่ห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ต่อไป
        เวลา 10.30 น. พล.ต.ต.มนัส  และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้รับแจ้งจากนายคำ โรจน์แก้ว เจ้าของร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูก ซึ่งตั้งอยู่ข้างหอนาฬิกา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดที่ตั้งซุกไว้บริเวณกองหมอนและผ้าห่ม ซึ่งอยู่ด้านขวามือของร้าน มีเสียงดังขึ้น 1 ครั้ง จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบ และพบว่าวัตถุต้องสงสัยดังกล่าวเป็นระเบิดกระเป๋า ซึ่งใช้กระเป๋าหนังของสุภาพบุรุษในการซุกระเบิด ซึ่งภายในมีนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอลได้ต่อพ่วงกับวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ที่ต่อพ่วงอีกชั้นหนึ่งกับไม้ขีดไฟและแอลกอฮอล์แห้ง ซึ่งระเบิดกระเป๋าใบดังกล่าวได้ทำงานแล้ว แต่วงจรไม่สมบูรณ์ เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เชือกดึงออกมาจากร้าน และได้ทำการเก็บกู้บนถนนหน้าร้าน 
        โดย ร.ต.อ.พลวัฒน์เปิดเผยถึงการทำงานของระเบิดกระเป๋าที่ได้มีการวิวัฒนาการเพื่อนำมาอำพรางก่อเหตุในการตบตาเจ้าหน้าที่ และง่ายต่อการเล็ดลอดเข้าไปก่อเหตุในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งระเบิดกระเป๋าทำงานแบบง่ายดาย คือตั้งเวลาปลุกจากนาฬิกาดิจิตอลเพื่อให้วงจรทำงานจนเกิดความร้อน และจากความเร็วดังกล่าวจะเป็นตัวจุดหัวไม้ขีดให้เกิดเปลวไฟ แล้วไปทำให้แอลกอฮอล์แห้งเกิดลุกไหม้ ซึ่งเป้าหมายของกลุ่มคนร้ายมักจะแฝงตัวไปวางไว้บริเวณที่มีสินค้าไวไฟ ก็จะทำให้เกิดไฟไหม้อย่างรวดเร็ว
ก่อเหตุโชว์ OIC
        แหล่งข่าวความมั่นคงทางทหารรายหนึ่งเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกว่า คาดว่าเหตุที่เกิดขึ้น กลุ่มก่อเหตุน่าจะรวมตัวมาจาก อ.บาเจาะ และ อ.ยี่งอ โดยมีนายอับดุลเลาะ อูแล มือเชี่ยวชาญประกอบระเบิดและมีหมายจับ ป.วิอาญาหลายคดีเป็นแกนนำ ซึ่งอาจจะหวังสร้างสถานการณ์เพื่อยกระดับ เนื่องจากช่วงปลายเดือนนี้คณะผู้แทนจากองค์การความร่วมมืออิสลาม หรือ OIC จำนวน 10 คน จะเดินทางเยือนพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนเหตุจะเชื่อมโยงกับกรณีปอเนาะที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานีหรือไม่นั้น ต้องใช้เวลาในการรวบรวมหลักฐานเพื่อความชัดเจน จึงจะสรุปได้ว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดจากสาเหตุใดกันแน่ต่อไป
         ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) เปิดเผยถึงกรณีการก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดปัตตานี 7 จุด เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 23 ก.พ.61 ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เน้นย้ำในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม โดยเน้นไปที่การป้องกันการเกิดอาชญากรรมเป็นหลัก หากเกิดเหตุแล้วต้องสามารถจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยว และนักลงทุนในพื้นที่ 
    พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดการตรวจตราสถานที่ต่างๆ รวมถึงจุดตรวจจุดสกัดในการตรวจค้นรถทุกชนิดและบุคคลเป้าหมาย ตามเส้นทางหลักและเส้นทางรอง จัดชุดลาดตระเวนในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจและชุมชน
         สำหรับพื้นที่ที่คนร้ายสร้างสถานการณ์ทั้ง 7 จุด ประกอบด้วย เวลา 19.35 น. เกิดเหตุคนร้ายเผายางรถยนต์บริเวณหน้าปั๊ม ปตท. บ้านปาลัส ฝั่ง อ.มายอ, เวลา 19.40 น. เกิดเหตุยิงก่อกวนฐาน อส.ตะโละไกรทอง อ.ไม้แก่น ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ, เวลา 19.40 น. เกิดเหตุยิงใส่จุดตรวจกะลาพอ อ.สายบุรี เป็นลักษณะยิงก่อกวน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไม่มีทรัพย์สินเสียหาย
        เวลา 19.40 น. เกิดเหตุยิงใส่จุดตรวจมะนังดาลำ อ.สายบุรี เป็นลักษณะยิงก่อกวนไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไม่มีทรัพย์สินเสียหาย, เวลา 20.10 น. เกิดเหตุยิงใส่จุดตรวจทหารบริเวณบ้านดี อ.เมืองฯ เป็นลักษณะยิงก่อกวน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไม่มีทรัพย์สินเสียหาย, เวลา 20.25 น. พบวัตถุต้องสงสัย ถ.ปากน้ำ ซอย 2 (แวมิง) ถ.ปากน้ำปัตตานี ใกล้โกดังเก็บของ และเวลา 20.30 น. มีเสียงดังคล้ายระเบิดในพื้นที่เมืองปัตตานี.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"