เปรมชัย:ผมบริสุทธิ์ ไม่ได้ฆ่าเสือดำปฏิเสธ3ข้อหา/ปูห่วงตร.โดนเอาคืน


เพิ่มเพื่อน    

    "เปรมชัย" รับทราบ 3 ข้อกล่าวหา ก่อนตำรวจหิ้วไปขอฝากขัง ศาลให้ประกันตัว ห้ามเดินทางไปต่างประเทศ เจ้าตัวลั่น ผมบริสุทธิ์! เปล่าฆ่าเสือดำ   บ่นรู้สึกอึดอัดกระทบต่อจิตใจมาก จากสังคม จากสิ่งแวดล้อมที่ต้องเจอ แต่ต้องจุกเมื่อถูกกลุ่มมวลชนถาม เป็นไง เนื้อเสือดำอร่อยไหม? "ศรีวราห์" พูดแปลกไม่สนโซเชียล แต่ห่วงทั่นประธานนักล่าจะฟ้องกลับพนักงานสอบสวนมากกว่า
    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 มี.ค. นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เดินทางไปกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยในส่วน ปทส.มีจำนวน 2 ข้อหา ประกอบด้วย ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (งาช้างแอฟริกา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 19 ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายเปรมชัยเดินทางถึง ได้ลงจากรถแล้วได้เดินขึ้นทางด้านหลังตึกเพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ห้องประชุมชั้น 3 บก.ปทส. จากนั้นประมาณ 10 นาที เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายเปรมชัยลงมาที่ห้อง ศปก.บก.ปทส.ชั้น 2 เพื่อให้ทาง พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. และพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ทำการสอบสวนในคดีพยายามติดสินบนเจ้าพนักงาน
    ต่อมาเวลา 12.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เป็นประธานการชี้แจงผลการสอบสวนในคดี โดยมี พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส. ได้เดินทางมายัง บก.ปทส., พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป., นายนุวรรต ลีลาพตะ รองหัวหน้าชุดเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติฯ และนายสมชาย ณ นครพนม นักโบราณคดีศิลปากร ร่วมชี้แจง
    พล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยว่า คดีการให้สินบนได้สั่งการให้ทำการสอบพยานเพิ่มเติมว่ามีใครเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ และเป็นบุคคลใด เบื้องต้นในชั้นพนักงานสอบสวนนายเปรมชัยในการปฏิเสธ ส่วนในรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานในการเอาผิดอย่างแน่นอน ในส่วนของอาวุธปืน หากเข้าข่ายวัตถุโบราณ ก็จะมีการดำเนินคดีเพื่มอีก 1 ข้อหา และสำนวนคดีอาวุธปืนจะเร่งให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 มีนาคม 
    สำหรับประเด็นเรื่องงาช้าง เมื่อไม่ใช่งาช้างไทยก็ต้องดูว่าอำนาจจะเป็นทางตำรวจหรือเป็นของดีเอสไอในการจัดการ ทั้งนี้ จะทำหนังสือไปยังกรมศุลกากรเพื่อสอบถามว่านายเปรมชัยและพวกเคยของอนุญาตนำเข้างาช้างหรือไม่ และในเมื่อเป็นของต่างประเทศก็ต้องตรวจสอบด้วยว่ามีการลักขโมยมาหรือรับของโจรด้วยหรือไม่ สำหรับพยานหลักฐานทั้ง 3 คดีนี้มีความแน่นอน และสมบรูณ์
    พล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยอีกว่า สำหรับนางคณิตา ภรรยานายเปรมชัย และ น.ส.วันดี ผู้เซ็นรับรองงาช้าง ที่ไม่ได้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ โดยนางคณิตาให้เหตุผลว่าติดอบรมที่ศาล ส่วนนางวันดีเพิ่งได้รับหมายเมื่อวานนี้ (13 มี.ค.) จึงให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกใหม่เป็นครั้งที่ 2 ไปแล้ว โดยให้มาพบพนักงานสอบสวน บก.ปทส.ภายในวันที่ 20 มีนาคม 
    เขาบอกว่า จะควบคุมตัวนายเปรมชัยไปฝากขังต่อศาลในคดี พ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งในชั้นสอบสวนไม่ได้คัดค้านการประกันตัว ไม่มีเหตุที่จะต้องคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเอง ในส่วนจะได้ประกันในชั้นศาลหรือไม่นั้น สุดแล้วแต่ดุลพินิจของศาล
    "กับคุณเปรมชัย ผมจะมีการซักถามบ้าง แต่คงไม่ถอดหมวก ผมไม่ได้เป็นห่วงว่าโซเซียลจะว่าอย่างไร แต่เป็นห่วงว่าทางฝั่งเปรมชัยจะฟ้องกลับพนักงานสอบสวนอย่างไรมากกว่า"
    พล.ต.ต.กมลชี้แจงในส่วนการสอบสวนคดีติดสินบนเจ้าพนักงานว่า ในส่วนของ บก.ปปป. ขณะนี้ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว ส่วนการดำเนินการต่อไปก็คงต้องมีการสอบสวนนายวิเชียรเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งจะเร่งให้เสร็จภายใน 90 วัน
    ด้านนายสมชายกล่าวว่า จากการตรวจสอบลักษณะของปืนคาบศิลาและลวดลายต่างๆ สันนิษฐานได้ว่าเป็นปืนสมัยปลายรัชกาลที่ 5 ซึ่งถือว่าเป็นโบราณวัตถุตามพระราชบัญญัติโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และดูจากรูปแบบลักษณะแล้วน่าจะมาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งอาจจะนำเข้ามาเมื่อครั้งปลายสมัย ในส่วนนี้ประชาชนก็สามารถครอบครองได้โดยไม่ผิดกฎหมาย เนื่องจากกรมศิลปากรยังไม่มีประกาศไว้ 
    อย่างไรก็ตาม หากไม่มีหลักฐานการได้มาซึ่งทรัพย์ดังกล่าว ทรัพย์นั้นต้องตกเป็นของแผ่นดิน สำหรับราคาตามท้องตลาดอาจจะไม่ชัดเจน ราคาอยู่ประมาณ 20,000 บาทขึ้นไปต่อกระบอก แต่ถ้ามีการทำลวดลายเพิ่มอีก ก็อาจจะราคา 50,000 ขึ้นไป แต่กระบอกดังกล่าวไม่มีลวดลายขนาดนั้น 
    เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่ามีความวิตกหรือไม่กับกระแสข่าวที่ว่าผู้ต้องหาเป็นคนร่ำรวย อาจจะหลุดคดีได้  พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวทิ้งท้ายว่า ในกฎหมายไม่มีรวยหรือจน มีแต่ผู้ที่กระทำผิดหรือไม่กระทำผิด ตราบใดที่ตนยังอยู่ตรงนี้ ก็จะทำงานทำตัวบทกฎหมายที่มีอยู่ อย่างตรงไปตรงมา คนไทยมีกว่า 60 ล้านคน โลกโซเชียลมีไม่ถึงล้านคน มีเพียงไม่ถึงล้านหรือสองล้านคนที่คิดแบบนั้น
    ทั้งนี้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายเปรมชัย ไปยังศาลอาญารัชดาฯ เพื่อยื่นฝากขังใน 3 ข้อหา
นายเปรมชัยได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ผมปฏิเสธทั้ง 3 ข้อหาในวันนี้นะครับ"
      ผู้สื่อข่าวถามว่า มีสิ่งใดจะพูดกับสังคมหรือไม่ เขาตอบว่า "ผมเสียใจนะครับ ที่ทุกคนมีความรู้สึกแบบนี้ กับเรื่องนี้ กับเรื่องของผม แต่ผมก็คิดว่าความจริงทุกอย่างจะปรากฏในศาล"
         ถามว่า ณ เวลานี้ยังยืนยันว่าไม่ได้ฆ่าเสือดำใช่หรือไม่ นายเปรมชัยตอบว่า "ไม่ครับ"
    ต่อมาเวลา 14.45 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ร.ต.อ.ธีรภัทร ธรรมมีชูพงศ์ พนักงานสอบสวน กก.1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ได้ควบคุมตัวนายเปรมชัยยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 14- 25 มี.ค. เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานอีก 7 ปาก และรอผลการตรวจสอบประวัติลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหา โดยพนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาในชั้นฝากขังนี้แต่อย่างใด
    ทั้งนี้ เมื่อศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้
    ขณะที่ทนายความของนายเปรมชัยก็ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขัง โดยตัวของนายเปรมชัยอยู่ในห้องควบคุมที่ห้องเวรชี้ บริเวณชั้น 1 (ใต้ถุน) ศาลอาญา 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายเปรมชัยเข้าทางด้านหน้าศาลอาญา โดยระหว่างเดินลงมาชั้นล่างอาคารเพื่อเข้าห้องเวรชี้ มีประชาชนที่เห็นเหตุการณ์คุมตัวตะโกนถามนายเปรมชัยว่า “เป็นไง เนื้อเสือดำอร่อยไหม?” แต่นายเปรมชัยได้แต่เดินก้มหน้าก้มตาไม่ตอบโต้ ก่อนถูกคุมตัวเข้าไปฝากขังและรอผลปล่อยชั่วคราว 
    ขณะเดียวกัน มีกลุ่มต่อต้านกรณีล่าสัตว์ป่าของนายเปรมชัยชูป้ายประท้วงเชิงสัญลักษณ์ระบุข้อความว่า “SAVE WILD LIFE” มีภาพเสือดำประกอบ มายื่นรอดูนายเปรมชัยถูกควบคุมตัวมาฝากขังด้วย
    ต่อมาเวลาประมาณ 16.30 น. ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้นายเปรมชัยมีประกันตัวไปด้วยหลักทรัพย์ 3 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
    หลังจากได้รับการประกันตัว นายเปรมชัยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอีกครั้ง โดยสื่อถามว่าเหตุการณ์คดีครอบครองซากเสือดำนี้ ส่งผลกระทบกับชีวิตอย่างไรบ้าง นายเปรมชัยตอบว่า รู้สึกอึดอัดกระทบต่อจิตใจมาก จากสังคม จากสิ่งแวดล้อมที่ต้องเจอ
    ถามว่า สังคมจับจ้องเรื่องจากทำคดีของพนักงานสอบสวน ยืนยันหรือไม่ว่าไม่ได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ทางธุรกิจเพื่อให้ได้ความช่วยเหลือจากทางฝ่ายการเมือง เขายืนยันว่า "เรื่องนี้ไม่มีครับ"
    เมื่อถามถึงแนวทางการต่อสู้คดี เพื่อพิสูจน์ความจริงในชั้นศาล นายเปรมชัยตอบว่า "เรื่องการต่อสู้คดีต้องถามทนายความ แต่ยืนยันว่าตัวผมบริสุทธิ์" 
    ทั้งนี้ นายเปรมชัยได้ปฏิเสธตอบอีกหลายคำถามพร้อมบอกว่า วันนี้เพลียมาทั้งวัน
    ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก พร้อมด้วย นายศุภกิจ พรหมมี และนายจิตติ สวัสดิ์สาย พนักงานพิทักษ์ป่าฯ และนายดำรง มูลสาร นิติกรชำนาญการพิเศษ สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมคดีนายเปรมชัยติดสินบนเจ้าหน้าที่ โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ร่วมสอบด้วย
    จากนั้น เวลา 18.00 น. ภายหลังจากการสอบปากคำนายวิเชียรและผู้ที่เกี่ยวข้องประมาณ 4 ชั่วโมง นายวิเชียรเปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า ไม่หนักใจที่ถูกเรียกมาสอบหลายรอบ เพราะเกี่ยวข้องกับคดี ตนยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับคดีที่อยู่ในสำนวนไม่ขอเปิดเผย ทราบเพียงว่าหลังจากนี้จะมีการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาสอบเพิ่มเติมอีก 1 คน รายละเอียดให้สอบถามกับตำรวจ
    ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า นายวิเชียรให้การเป็นประโยชน์กับคดี ซึ่งเป็นเรื่องในสำนวน ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ในการเรียกมาถามให้ละเอียด ซึ่งจะมีการดำเนินคดีกับบุคคลเพิ่มเติมอีก 1 คน ในข้อหาร่วมกันติดสินบนเจ้าพนักงาน ซึ่งยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเพราะอยู่ในสำนวน
    "กรณีบุคคลภายนอกตั้งคำถามว่าผมมีอำนาจในการร่วมสอบสวนคดีนี้ด้วยหรือไม่นั้น ให้กลับไปเปิดคำสั่ง ตร.ที่ 599/2560 และคำสั่ง คสช.ที่ 13/2559 หรือไปสัมภาษณ์ ผบ.ตร.ก็ได้ อย่ามาก้าวล่วงหน่วยงานตำรวจ คุณอยู่หน่วยไหนก็เป็นเรื่องของหน่วยคุณ" พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"