เจ๊เกียวรับชักใย‘แผน’ร้อง อึ้ง!ใช้กระดาษ1แผ่นบี้DSI


เพิ่มเพื่อน    

แฟ้มภาพ นายฐนุกร หรือแผน เหลืองใหม่เอี่ยม

 เจ๊เกียวเปิดหน้าชนเต็มตัว รับมีทีมงานชักใย "แผน" ตระเวนร้องเรียน แย้มมีเซอร์ไพรส์อีก "ฐนุกร" สับขาหลอก ก่อนใช้กระดาษแผ่นเดียวฟ้อง ยธ. อ้างถูกคุกคามขอเป็นคดีพิเศษ นักวิชาการเผยคนซื้อหวยบนดินมากกว่าใต้ดิน เหตุเพราะกองสลากปั๊มไม่หยุด รองอธิบดีอัยการฯ ชี้ศึกชิงหวย 30 ล้าน สะท้อนประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรม หากไม่โปร่งใสก็พังทั้งระบบ

    เมื่อวันศุกร์ นางปณัญชยา สุขผล หรือเจ๊เกียว หนึ่งในพยานฝ่ายนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ได้เปิดแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) ต.บ้านใต้ เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ตามปกติ ขณะเดียวกันก็เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวกรณีนายฐนุกร หรือแผน เหลืองใหม่เอี่ยม พยานครูปรีชา จะไปร้องเรียนยังกระทรวงยุติธรรม ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ รับคดีหวย 30 ล้านบาท เป็นคดีพิเศษว่า ทราบเรื่องนี้แล้ว และยังจะมีการเดินหน้าร้องเรียนหน่วยงานอื่นอีก แต่ไม่บอกว่าจะไปที่ไหน จะมีเซอร์ไพรส์แน่นอน เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้พยาน
    เจ๊เกียวกล่าวว่า ในเมื่อพยานจะกลายเป็นผู้ต้องหา เดือดร้อนกันหมด ก็พร้อมเปิดหน้าชนเต็มที่ ไม่กังวล หรือเกรงกลัวอิทธิพลใดๆ แต่เจ้าหน้าที่จะทำอย่างไรก็ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน ไม่อยากยุ่งตรงนี้ ยังเคารพการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกส่วน
    ผู้สื่อข่าวถามว่า เจ๊เกียวอยู่เบื้องหลังนายแผนคนเดียวจริงๆ หรือ เพราะการเดินหน้าต่อสู้ครั้งนี้ มีแต่ไปร้องเรียนหน่วยงานใหญ่ๆ ทั้งนั้น เจ๊เกียวกล่าวยอมรับว่ามีคนช่วยหลายคน เพราะมีหมู่ มีพวก แต่มาจากเจ๊เกียวติดต่อเองทั้งหมด เพราะอยากเห็นความยุติธรรม อยากให้ความจริงประจักษ์ ซึ่งมีหลายระดับ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ที่ได้รับคำแนะนำ ก็ทำตามทั้งหมด
    สุดท้ายเจ๊เกียวบอกว่า วันนี้จะเดินทางไปพูดคุยกับครูปรีชา โดยต้องคุยกันอย่างเป็นทางการแล้ว จากเดิมที่พูดคุยทางโทรศัพท์ จะขอไปเจอตัวต่อตัว เพื่อถามความคืบหน้าของแต่ละคน การสอบสวน สำนวนเป็นอย่างไร จำเป็นต้องมาคุยร่วมกันแล้ว เพราะอยู่ในคดีเดียวกันแล้ว
    ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านพักของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล คู่กรณี พบว่าปิดบ้านเงียบ ไม่มีรถจอดอยู่ในบ้าน โดยติดประกาศหน้าบ้านว่า วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม ถึงวันจันทร์ที่ 19 มีนาคมนี้ ติดธุระ จึงไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ คาดว่าวันที่ 20 มีนาคมนี้ ถึงจะออกมาให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าต่างๆ ทางคดีอีกครั้ง
    ขณะที่นายฐนุกร หรือแผน เหลืองใหม่เอี่ยม ยังคงเคลื่อนไหวต่อเนื่อง โดยในช่วงเช้าวันเดียวกัน สื่อมวลชนได้รับแจ้งว่านายแผนจะเดินทางไปที่ดีเอสไอในเวลา 13.00 น. เพื่อยื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ขอให้รับคดีหวย 30 ล้าน เป็นคดีพิเศษ แต่ต่อมามีข่าวว่านายแผนได้เปลี่ยนใจจะเดินทางไปที่กระทรวงยุติธรรมแทน เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.ยุติธรรม แต่ที่สุดก็ยกเลิกหมายเช่นกัน โดยแจ้งว่าจะเลื่อนไปเป็นวันจันทร์ที่ 19 มี.ค.แทน เพราะวันศุกร์ รมว.ยุติธรรมติดภารกิจ
    ต่อมาในเวลา 15.10 น. นายฐนุกรพร้อม น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือฟ้า พยานฝ่ายนายปรีชาได้ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พล.อ.อ.ประจิน โดยนายฐนุกรระบุเพียงสั้นๆ ว่าเป็นการนำเอกสารมาให้เจ้าหน้าที่     เมื่อถามถึงกรณีที่กองบังคับการปราบปรามจะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้เข้าพบ นายฐนุกรยืนยันว่ายังไม่ได้รับหมายดังกล่าว แต่หากมีหมายเรียก ก็พร้อมเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะเข้าไปพบพนักงานสอบสวนได้เมื่อใด 
    ทั้งนี้ นายฐนุกรยอมรับว่าเคยเดินทางพร้อมกับพนักงานธนาคารเพื่อไปพบกับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ที่บ้านพัก แต่เป็นการไปตามหน้าที่ ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว
    มีรายงานว่า การเข้ายื่นหนังสือครั้งนี้ นายฐนุกร ต้องการให้กระทรวงยุติธรรมสั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับสอบสวนคดีหวย 30 ล้านบาทที่ตัวเองและ น.ส.กนกพรรณเข้าไปเกี่ยวข้องในฐานะพยานเป็นคดีพิเศษ โดยอ้างเรื่องความปลอดภัยที่ไปเป็นพยานให้กับครูปรีชา เนื่องจากล่าสุดถูกเจ้าหน้าที่แต่งกายคล้ายตำรวจคอมมานโดมาคอยติดตามความเคลื่อนไหว โดยเอกสารที่ทั้งสองคนนำมายื่นมีเพียงคำร้องแผ่นเดียว ไม่มีหลักฐานอื่นประกอบ ยธ.จึงให้กลับไปรวบรวมเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง เช่นกรณีที่อ้างว่ามีตำรวจคอมมานโดสะกดรอยตาม ก็ขอให้มีหลักฐานประกอบการยื่นคำร้องด้วย  
     พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวว่า ไม่หนักใจที่นายแผนเดินทางไปยื่นร้องเรียนต่อหน่วยงานต่างๆ เพราะตำรวจกองปราบฯ ไม่ใช่คู่กรณี และเป็นสิทธิที่เขาจะทำได้ ส่วนที่นายแผนยื่นฟ้องตนเอง และ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ต่อศาลทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 นั้น ยืนยันว่าไม่กังวล เนื่องจากทำตามขั้นตอนของกฎหมาย 
    ผบก.ป.กล่าวด้วยว่า คดีหวยในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และ สน.ประเวศนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมายให้กองปราบฯ รับผิดชอบคดี ซึ่งเบื้องต้นได้เรียก ร.ต.ท.สมประสงค์ ปสาทรัตน์ สารวัตรสอบสวน สน.ประเวศ มาสอบปากคำแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด และเตรียมออกหมายจับผู้กระทำผิดภายในสิ้นเดือนนี้
    ด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า การที่นายแผนจะไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ รมว.ยุติธรรม แทนการยื่นต่อดีเอสไอ เข้าใจว่าการเดินสายช่วงนี้ก็แค่ถ่วงเวลาไปวันๆ เท่านั้น ซึ่งก็เป็นเรื่องดี จะได้มีการขุดคุ้ยข้อมูลออกมาทั้งหมด เพราะตนเชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการ และเจ้าหน้าที่เข้าคุกอีกหลายคนแน่นอน
    วันเดียวกัน ที่โรงแรมเอเชีย ในเวทีเสวนา “100 วันพันหวย 30 ล้าน สังคมไทยเรียนรู้อะไร” จัดโดยมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน และศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ผลสำรวจการเล่นพนันในครึ่งปี 60 ที่ผ่านมา พบว่า มีคนเล่นหรือซื้อลอตเตอรี่ของรัฐบาลมากเป็นอันดับหนึ่งแซงหวยใต้ดิน โดยคนซื้อลอตเตอรี่ของรัฐบาลมีกว่า 21 ล้านคน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้คนซื้อเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากจำนวนลอตเตอรี่ที่รัฐบาลเพิ่มปริมาณการผลิตออกมามากขึ้นเป็นเท่าตัว ทำให้การเข้าถึงได้ง่าย นอกจากนี้ยังพบว่าหวยใบเดียวคนส่วนใหญ่ซื้อได้ในราคา 80 บาท แต่พอรวมชุดแล้วจะมีราคาที่แพงขึ้น พอถูกรางวัลที่ 1 ก็กลายเป็นรางวัลใหญ่เงินจำนวนมาก สื่อมวลชนก็นำเสนอเรื่องนี้กลายเป็นข่าวหวือหวา ตรงนี้กลายเป็นการไปสร้างแรงกระตุ้นให้คนอยากซื้อเยอะๆ ซื้อเป็นชุด เป็นการสร้างแรงกระตุ้นโดยไม่ตั้งใจ
    “วันๆ เราดูแต่ข่าวปัญหาสลาก 30 ล้าน เจอข่าวนี้ทุกวัน ตอกย้ำเรื่องรางวัลมูลค่าสูง ย้ำเรื่องการเล่น สื่อนำเสนออย่างต่อเนื่อง ปรากฏการณ์นี้มันสะท้อนว่าสังคมป่วย เสพหวยเกินขนาด ยิ่งดรามายิ่งกระตุ้น ซึ่งการนำเสนอควรจะให้ข้อคิดด้วยว่าโอกาสที่จะถูก 30 ล้านบาทมันยากมาก การที่คนหนึ่งได้ 30 ล้านบาท นั่นหมายถึงว่าจะมีคนเสีย 30 ล้านบาทเช่นกัน เพราะเป็นการเล่น มีคนได้คนเสีย เงินรางวัลนี้ก็ไม่ใช่เงินที่มาจากรัฐบาล” รศ.ดร.นวลน้อยกล่าว
    นายปรเมศร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า หากมองปรากฏการณ์นี้ในมุมกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานหลายอย่าง มีการอ้างสิทธิและพยายามพิสูจน์ความจริง ทำให้เกิดเป็นจุดสนใจ สังคมอยากรู้ว่าใครโกหก ยิ่งมีกระบวนการยุติธรรมเข้าไปจัดฉาก พอเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ใครพวกมากบารมีมาก มีหน้าตาทางสังคม ก็ได้เปรียบ เพราะเป็นคนน่าเชื่อถือ ส่วนการบังคับใช้กฎหมายก็เพี้ยน มาตรฐานทางสังคมหายไปเพราะขาดการดึงความเป็นเหตุผลออกมา
    “ปรากฏการณ์หวย 30 ล้าน ทำให้เห็นว่าสังคมผิดปกติ มีการเอาชนะกัน เกิดการสร้างสถานการณ์หลายอย่าง และสังคมกำลังทดสอบประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรม หากไม่โปร่งใสก็พังทั้งระบบ” นายปรเมศร์ กล่าว.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"