จากจันทบุรีถึงขอนแก่น บทเรียนผิดพลาดซ้ำซาก


เพิ่มเพื่อน    

      ต้องรีบออกมาขอโทษและเคลียร์ตัวเองทันที สำหรับ สุชัย บุตรสาระ รอง ผวจ.ขอนแก่น ที่ออกจดหมายเชิญหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ร่วมประชุมเตรียมการต้อนรับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดขอนแก่น แล้วปรากฏข้อความในจดหมายว่า

        "ทำอย่างไรให้ประชาชนหายโง่"

      จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แม้จะมีการออกจดหมายใหม่เพื่อยกเลิกฉบับเดิมและแก้ไขใหม่ไปแล้วหลายวัน

      โดยหนังสือดังกล่าวออกโดยสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดขอนแก่น เลขที่  ขก.0023.1/7063 เรื่องขอเชิญประชุมเพื่อเตรียมการต้อนรับนายกรัฐมนตรี ลงนามโดยสุชัย บุตรสาระ  รอง ผวจ.ขอนแก่น ปฏิบัติราชการแทน ผวจ.ขอนแก่น ลงนามเมื่อวันที่ 9 มี.ค.61 โดยเนื้อหาในหนังสือดังกล่าวมีข้อความส่วนหนึ่งระบุว่าร่วมกันดำเนินการในภารกิจ ทำอย่างไรให้ประชาชนหายโง่

      คำชี้แจงจากรอง ผวจ.ขอนแก่นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 มี.ค.ยอมรับว่าหนังสือดังกล่าวเป็นของจริง  และได้ทำการแก้ไขแล้ว  

        "ต้องขออภัยประชาชนทุกคนที่ทำให้เข้าใจผิด เนื่องจากวันที่รับหนังสือและลงนามในช่วงบ่าย วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2561 เมื่อรับหนังสือจากท้องถิ่นจังหวัดขอนแก่นซึ่งเป็นต้นเรื่อง และเป็นผู้รับหนังสือมาตามลำดับ ก็ลงนามทันทีโดยไม่ได้ตรวจสอบ เพราะเห็นว่าเป็นหนังสือเรียกประชุมต่อเนื่องจากครั้งที่ 1 ซึ่งการประชุมต่อเนื่องครั้งที่ 2 จะเป็นวันอังคารที่ 13 มี.ค.61 เท่ากับว่าจังหวัดขอนแก่นมีเวลาเพียงวันเดียวในการประสานงาน และส่งหนังสือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุม

        แต่ก่อนถึงวันประชุมก็มีผู้มาทักท้วงเรื่องข้อความในหนังสือดังกล่าวไม่เหมาะสม จึงรีบแก้ไขและทำหนังสือฉบับใหม่ขึ้นมาแทน และส่งไปตามหน่วยงานต่างๆ เช่นเดิม ซึ่งกระบวนการแก้ไขหนังสือฉบับเดิมเป็นฉบับใหม่เสร็จสิ้นก่อนที่จะมีการเผยแพร่หนังสือฉบับเดิมในโลกออนไลน์ จนเป็นประเด็นขึ้นมา"

      รอง ผวจ.ขอนแก่นระบุว่า "ต้องขอโทษประชาชนทุกคน หากข้อความดังกล่าวทำให้เกิดความไม่สบายใจ ขอยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น โดยส่วนตัวไม่มีเจตนาที่จะคิดไม่ดี หรือทำสิ่งไม่ดีกับประชาชน ผมเองเป็นคนขอนแก่น เป็นคนอีสาน ไม่มีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อคนขอนแก่นและชาวไทยทุกคน ไม่มีเจตนาจะดูหมิ่นดูแคลนประชาชนคนไทยใดๆ ทั้งสิ้น เรื่องนี้ ผวจ.ขอนแก่นได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว"

      ทั้งนี้ หนังสือออกใหม่มีการแก้ไขจาก "ทำอย่างไรให้ประชาชนหายโง่" เป็น "ทำอย่างไรให้ประชาชนมีความรู้ความเท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลง" ในหนังสือแก้ไขใหม่ระบุว่า เนื่องจากหนังสือดังกล่าวมีถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม ทำให้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในสาระสำคัญ ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ จึงขอเชิญท่านหรือผู้สนใจร่วมประชุมเพื่อร่วมหารือแนวทางในการดำเนินการในภารกิจ "ทำอย่างไรให้ประชาชนมีความรู้ความเท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลง" ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น  

      เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หลายคนย้อนคิดไปถึงกรณี

        วิทูรัช ศรีนาม ผวจ.จันทบุรี ที่เคยทำหนังสือลงวันที่ 7 ก.พ. ถึงนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอลาออกจากราชการ จากกรณีผิดพลาดในการใช้ถ้อยคำในหนังสือ มอบหมายภารกิจการเตรียมการลงพื้นที่ตรวจราชการของนายกรัฐมนตรี และการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในการใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม ผวจ.จันทบุรีก็ได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการขอลาออกจากราชการ

      "เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศของวงศ์ตระกูล และตำแหน่งหน้าที่ที่รับผิดชอบ  ข้าพเจ้าจึงขอลาออกจากราชการตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.61 เป็นต้นไป"

      อย่างไรก็ตาม สุดท้ายหลังกระทรวงมหาดไทยตั้งกรรมการตรวจสอบก็ได้ข้อยุติ โดย ผวจ.จันทบุรียังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้สังคมชื่นชมสปริตของ วิทูรัช ศรีนาม ไม่ใช่น้อย

      กรณีที่เกิดขึ้นกับรอง ผวจ.ขอนแก่น ที่มีการตั้งกรรมการมาตรวจสอบและตัวรอง ผวจ.ก็ออกมาขอโทษประชาชนไปแล้ว

      อย่างไรก็ตาม ทัศนะของฝ่ายต่างๆ อย่าง พล.ท.ธรากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ 2 มองว่าคำดังกล่าวที่ปรากฏในเอกสารฉบับแรกไม่ดี เหมือนไปดูถูกคนในพื้นที่ และยอมรับอาจกระทบกับการลงพื้นที่ของนายกฯ บ้าง แต่เราสร้างความเข้าใจ ต้องดูที่เจตนาของผู้กระทำ ต้องไปตรวจสอบกันว่าใครเป็นคนพิมพ์เอกสาร ใครเป็นคนร่างเอกสาร ใครเป็นคนตรวจเอกสาร เพราะเอกสารออกมาทางนั้น ต้องดูคนเหล่านี้มีพฤติกรรมอย่างไร

      "เชื่อว่ามีคนวางยารองผู้ว่าฯ คนร่าง คนพิมพ์ คนตรวจเอกสาร น่าจะรู้ว่าคำว่าโง่ไม่เหมาะ ไม่ควร แล้วนำมาให้รองผู้ว่าฯ เซ็นซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเร่งด่วน เพราะเตรียมต้อนรับนายกฯ รองผู้ว่าฯ จึงไม่ได้ดูรายละเอียดเนื้อหา การใช้คำก่อนจะเซ็นลงนามไป คนที่พูดก็พูดไม่หมด ไม่บอกประโยคสำคัญนั้น หากบอกหรือสอบถามรองผู้ว่าฯ ว่าคำนี้เหมาะสมหรือไม่ เชื่อว่ารองผู้ว่าฯ  ต้องดูและแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้" พล.ท.ธรากรกล่าว

      ถือเป็นอีกบทเรียนของข้าราชการระดับสูง ที่คงต้องระมัดระวังการทำงานให้มากขึ้น ยิ่งปัจจุบันเป็นสังคมโซเชียลมีเดีย ทุกอย่างแพร่กระจายได้รวดเร็ว การผิดพลาดแม้ไม่ตั้งใจแต่ก็มีผลกระทบหลายฝ่าย แต่จะใช่การ "วางยา" อย่างที่แม่ทัพภาคที่ 2 ตั้งข้อสังเกตหรือไม่ งานนี้คนในศาลากลางจังหวัดขอนแก่นคงรู้แล้วว่าข้อผิดพลาดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"