อิสราเอลเพิ่งยอมรับ ส่งบินรบบอมบ์เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ซีเรียเมื่อปี 50


เพิ่มเพื่อน    

อิสราเอลเพิ่งยอมรับอย่างเปิดเผยครั้งแรกเมื่อวันพุธ ว่าเป็นผู้โจมตีทางอากาศแบบลับสุดยอด ทำลายเป้าหมายที่สงสัยว่าเป็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของซีเรีย เมื่อปี 2550 ขณะรัฐมนตรีข่าวกรองอิสราเอลระบุชัดว่าเป็นสัญญาณเตือนถึงอิหร่าน

ภาพถ่ายทางอากาศที่กองทัพอิสราเอลเผยแพร่เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2561 แสดงถึงสภาพก่อน (ซ้าย) และหลัง ของสิ่งที่เชื่อว่าเป็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของซีเรียที่โดนโจมตีทางอากาศ / AFP

    อิสราเอลตกเป็นผู้ต้องสงสัยมาช้านานว่าเป็นผู้โจมตีทางอากาศถล่มโรงงานอัลคีบาร์ ในจังหวัดเดอีร์เอสซอร์ของซีเรีย ห่างจากกรุงดามัสกัสทางตะวันออกเฉียงเหนือ 450 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 5-6 กันยายน 2550 แต่อิสราเอลไม่เคยยอมรับอย่างเป็นทางการมาก่อน
    เมื่อวันพุธที่ 21 มีนาคม 2561 กระทรวงกลาโหมของอิสราเอลยืนยันว่า เครื่องบินรบหลายลำของอิสราเอลเป็นผู้โจมตีทางอากาศครั้งนั้น โดยอิสราเอลเชื่อว่าโรงงานแห่งนี้เป็นโรงปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของซีเรีย ซึ่งก่อสร้างใกล้เสร็จแล้ว แม้ว่ารัฐบาลซีเรียจะยืนกรานปฏิเสธมาโดยตลอดว่าซีเรียไม่ได้สร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์
    "ในคืนคาบเกี่ยวระหว่างวันที่ 5 และ 6 กันยายน 2550 เครื่องบินขับไล่หลายลำของกองทัพอากาศอิสราเอลสามารถโจมตีและทำลายเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของซีเรียที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาได้สำเร็จ"  แถลงการณ์กล่าว และว่า เตาปฏิกรณ์นี้สร้างใกล้จะแล้วเสร็จ ปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้สามารถกำจัดภัยคุกคามจากขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ของซีเรีย ที่กำลังจะส่งผลต่ออิสราเอลและต่อภูมิภาคนี้โดยรวม
    การยอมรับอย่างเป็นทางการอิสราเอลครั้งนี้เกิดในช่วงเวลาที่รัฐบาลอิสราเอลของนายกฯ เบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวเตือนถึงภัยคุกคามจากอิหร่านที่พวกเขาถือเป็นศัตรูฉกาจ ว่ากำลังมีบทบาทอย่างมากในซีเรีย ประเทศเพื่อนบ้านของอิสราเอล
    เนทันยาฮูยังเรียกร้องอยู่หลายครั้งให้กลุ่มชาติมหาอำนาจเปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือยกเลิก ข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน ที่ลงนามกันไว้เมื่อปี 2558
    เนทันยาฮูเพิ่งเข้าพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐที่ทำเนียบขาวเดือนนี้ โดยทรัมป์กล่าวว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านต้อง "แก้ไข" ภายในวันที่ 12 พฤษภาคม มิเช่นนั้นสหรัฐจะถอนตัว

ภาพชุดเหตุการณ์การโจมตีโรงงานที่เชื่อว่าเป็นที่ตั้งเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของซีเรียเมื่อปี 2550 ที่กองทัพอิสราเอลเผยแพร่ / AFP

    วิกดอร์ ลีเบอร์แมน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า การยอมรับต่อสาธารณะภายหลังปิดเป็นความลับมานานกว่า 10 ปี เป็นการส่งสารถึงศัตรูของอิสราเอล
    "แรงจูงใจของข้าศึกศัตรูของเรามีเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ความแข็งแกร่งของกองทัพเรา กองทัพอากาศของเรา และขีดความสามารถด้านข่าวกรองของเรา ก็เพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับขีดความสามารถที่เรามีในปี 2550" ลีเบอร์แมนกล่าวในแถลงการณ์ และว่า ทุกคนในตะวันออกกลางควรใคร่เรื่องนี้
    ขณะที่ยิสราเอล คัตซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงข่าวกรอง กล่าวอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งกว่า ว่าการโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าอิสราเอลจะไม่ยอมให้ "ประเทศอย่างอิหร่าน ที่คุกคามการดำรงอยู่ของเรา" มีอาวุธนิวเคลียร์
    หลักฐานภาพถ่ายและเอกสารที่ยกเลิกชั้นความลับนั้น ยังรวมถึงภาพวิดีโอการโจมตี และภาพถ่ายเอกสารข่าวกรองทหารที่เป็นความลับเกี่ยวกับสถานที่ดังกล่าว
    ในการเปิดเผยครั้งนี้ อิสราเอลยอมรับด้วยว่า การปิดบังความลับเกี่ยวกับปฏิบัติการครั้งนั้นมีความจำเป็น เนื่องจากสถานการณ์ด้านความมั่นคงมีความอ่อนไหว และมีความเป็นไปได้ที่จะจุดชนวนสงคราม.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"