รถเมล์ใหม่แล้ว


เพิ่มเพื่อน    

    ถือเป็นเรื่องราวดีๆ หลังจากโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) 489 คัน วงเงิน 4,020 ล้านบาท ที่ขณะนี้พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์แล้ว จากที่ก่อนหน้านี้โครงการดังกล่าวพบเจออุปสรรคนานัปการกว่าที่จะได้ใช้รถเมล์ใหม่ แต่มาวันนี้ได้ยลโฉมรถเมล์ใหม่ถือเป็นความโชคดีของผู้ใช้บริการของใหม่แกะกล่อง แต่จะดีหรือไม่ดีว่ากันอีกเรื่อง
    ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ทางด้านของบริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) ได้เชิญนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เดินทางไปตรวจติดตามความก้าวหน้าแผนการประกอบติดตั้งรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) 489 คัน ที่ศูนย์บริการซ่อมรถบรรทุก "10 ล้อ 24" พร้อมเยี่ยมชมการประกอบติดตั้งรถเมล์เอ็นจีวีรุ่นใหม่ (ชานต่ำ) ขนาด 35 ที่นั่ง ที่ออกแบบสำหรับผู้โดยสารทุกกลุ่มเป็น universal design (การออกแบบเพื่อคนทั้งมวล) โดยภายในมีพื้นที่สำหรับผู้สูงอายุและคนพิการอย่างเหมาะสม ที่นั่งสำรองคนพิการ มีความสะอาด กว้างขวาง ติดตั้งกล้องซีซีทีวี เป็นต้น
    สำหรับโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) 489 คัน ระหว่าง ขสมก. กับ บรษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) ในส่วนของการส่งมอบรถเป็น แบ่งเป็น 4 ครั้ง ในเดือนมีนาคม 100 คัน, เมษายน 100 คัน, พฤษภาคม 100 คัน และมิถุนายน 189 คัน กำหนดส่งมอบรถให้ ขสมก.ครบ 489 คัน ภายในเดือนมิถุนายน 2561
    ส่วนความคืบหน้าขณะนี้นั้น กลุ่ม ช.ทวี ได้นำเข้าตัวถัง เครื่องยนต์ แอร์ปรับอากาศ ชุดเกียร์ แบตเตอรี่ และถังก๊าซ โดยมีทีมวิศวกรไทย-จีน เป็นผู้ประกอบติดตั้งอุปกรณ์ ทดสอบมาตรฐานต่างๆ ที่แหลมฉบัง ที่สามารถผลิต-ประกอบรถได้ 100-150 คันต่อเดือน ขณะนี้ได้ประกอบติดตั้งแล้วเสร็จ จำนวน 52 คัน ตรงตามแผนงานที่กำหนดไว้
    โดยขณะนี้มีการได้สุ่มนำรถบางส่วนทดลองวิ่งให้บริการประชาชน ในเส้นทาง สาย 138 พระประแดง-หมอชิต สาย 140 แสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อประเมินสมรรถนะของรถ ทั้งนี้ หลังรับมอบรถครบ 489 คันแล้ว ขสมก.จะทยอยนำรถออกให้บริการประชาชนในเส้นทางที่ได้กำหนดไว้ 25 เส้นทาง
    จะว่าไปแล้วกว่าจะมาถึงจุดที่คนไทยได้นั่งรถเมล์ใหม่ นับว่ากินเวลามานานกันเลยทีเดียว ถ้านับดูดีๆ ก็กินเวลามาเกือบตลอด 12-13 ปี นับแต่ปี 2549 ที่เริ่มอนุมัติโครงการครั้งแรกและมีแนวคิดจัดซื้อโครงการดังกล่าว แต่ที่ผ่านมาก็ไม่สำเร็จ ก็ถูกตรวจสอบและทักท้วงความผิดปกติมาโดยตลอด ส่งผลให้จนถึงวันนี้ผ่านมา 6 รัฐบาล มารัฐบาลชุดปัจจุบัน คนไทยจึงได้นั่งรถเมล์ใหม่
    ต่อจากนี้ไปในเร็วๆ นี้ ก็จะได้เห็นรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ วิ่งให้บริการตามเส้นทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไม่ต้องทนนั่งรถเก่าที่บางคันมีสภาพเหมือนเศษเหล็กวิ่งได้ นี่ก็คือภาพที่เห็นกันจนชินตาตามท้องถนนในขณะนี้
    สำหรับรถเมล์ 489 คัน บริษัทนำเข้าตัวถังรถจากจีน และมาประกอบบางส่วนในประเทศไทย อาทิ เครื่องยนต์ เกียร์ แอร์ ซึ่งใช้โรงงานที่ขอนแก่นและพัทยา ส่วนการประกอบถังก๊าซเป็นความชำนาญของบริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ส่วนเรื่องความปลอดภัย ทั้ง ช.ทวี และสแกน อินเตอร์ เขาเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ไม่ทำอะไรที่สร้างความเสียหายแก่ ขสมก. แก่ประเทศไทย และตัวถังรถหรือชิ้นส่วนต่างๆ ที่นำเข้ามา ยืนยันว่าจ่ายภาษีถูกต้องทุกอย่าง และมีใบรับรอง
    โดยโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศเชื้อเพลิง NGV 489 คัน มีมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 4,261 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) แบ่งเป็น มูลค่ารถโดยสาร 1,891 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และค่าว่าจ้างซ่อมแซมและบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 10 ปี 2,370 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
    ถือว่าปิดจ๊อบสำหรับโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี ที่กว่าจะสำเร็จก็ล้มลุกคลุกคลานไม่เป็นท่า เปิดประมูลใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า จนนับไม่ถ้วนกันเลยทีเดียว มาวันนี้เรียกได้ว่าเหมือนฝันจริงๆ สำหรับคนที่รอคอยรถใหม่ ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็โดนด่าโดนว่าแบบเช็ดเม็ดว่าไม่เร่งดำเนินการ ชักช้าอืดอาด มาวันนี้ก็แสดงให้เห็นว่าทุกฝ่ายตั้งใจทำจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงคมนาคม, ขสมก, หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย ภาครัฐและเอกชน มาวันนี้สมกับคำว่ารอคอย.

กัลยา ยืนยง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"