เบิกตัว'จตุพร-ขวัญชัย'จากเรือนจำ คดีนปช.ก่อการร้ายมาถึงครึ่งทาง


เพิ่มเพื่อน    

23 มี.ค. 61 - ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์ปากสุดท้ายในคดีก่อการร้าย หมายเลขดำที่ อ.2542/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กับพวกรวม 24 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย และข้อหาอื่นๆ กรณีกลุ่ม นปช.ชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2553 ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา

ในวันนี้ศาลได้เบิกตัวนายจตุพร ประธาน นปช.และนายขวัญชัย ไพรพนา จำเลยร่วม จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มาฟังการพิจารณาพร้อมกับจำเลยคนอื่นๆ โดยนายจตุพรที่มีร่างกายซูบผอมลง แต่มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โบกมือทักทายสื่อมวลชนและประชาชนที่เดินทางมารอให้กำลังใจ ขณะที่นายขวัญชัยก็ซูบผอมลงพร้อมถือไม้เท้าเดิน ส่วนนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช. จำเลยร่วมที่เพิ่งได้รับการประกันตัวระหว่างฎีกาในคดีบุกล้มการประชุมอาเซียนก็เดินทางมาศาล โดยดูซูบผอมลงเล็กน้อย

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายจตุพร เปิดเผยว่า วันนี้เป็นนัดสืบพยานโจทก์ปากสุดท้ายซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นที่น่าสังเกตว่า พยานโจทก์ปากดังกล่าวไม่ใช่พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีดังกล่าว แต่เป็นพยานที่ฝ่ายอัยการพยายามหาพนักงานที่อ้างว่าเป็นชุดสอบสวนด้วยนั้นมาเบิกความเพื่อรับรองพยานเอกสารบางอย่างที่มีการนำส่งต่อศาลมาทีหลัง จึงเป็นที่น่าสังเกตุว่าการที่นำพยานปากนี้มา เราก็จะพิสูจน์ให้เห็นหลายประการว่าการสอบสวนของดีเอสไอเเละมติของดีเอสไอสมัยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้อำนวยการ ศอฉ.นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย เราจึงจะนำมาซักค้านในวันนี้โดยหลังจากซักค้านในวันนี้เสร็จ ต่อไปก็จะเป็นขั้นตอนการสืบพยานจำเลยนัดเเรก

เมื่อถามถึงความมั่นใจนั้น นายวิญญัติ กล่าวว่า ตนมั่นใจในคดีนี้มาตั้งแรกอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นการตั้งข้อหาที่เกินกว่าเหตุซึ่งพฤติการณ์ ซึ่งการสืบพยานของโจทก์มาเราเห็นถึงข้อพิรุธหลายเรื่อง แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากคดีอยู่ในการพิจารณาของศาล ซึ่งฝ่ายจำเลยก็ไม่ได้หนักใจอะไรในข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง อาจจะมีเพียงเรื่องการขัดขืนหรือฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินในขณะนั้น เป็นอัตราโทษไม่ร้ายแรงมาก ซึ่งก็ต้องดูว่าศาลจะมองพฤติการณ์อย่างไร

ด้านนางธิดา ฐาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษา นปช. กล่าวว่า การซักค้านพยานโจทก์ในคดีนี้มาถึงครึ่งทางแล้วแต่ที่น่าสังเกตคือ ในกลุ่ม กปปส.มาความพยายามเรียกร้องให้แยกจำเลยโดยไม่นำมารวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน แต่ของ นปช.กลับมีการนำมารวมกันหมดเป็นคดีเดียวกัน ซึ่งบางครั้งจำเลยไม่รู้จักกัน เช่น คนที่ทำงานอยู่กับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง นั้น บางคนก็ไม่รู้จักกันส่วนตัว จึงตั้งข้อสังเกตว่าในคดีของ กปปส.นั้นจำเลยรู้จักกัน แต่ยังขอแยกไม่ให้นำมารวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"