31 ก.ค. 2563 นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ในปี 2563-2564 กรมฯจะเดินหน้ามอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุโครงการธนารักษ์ประชารัฐจำนวนกว่า 1 ล้านไร่ เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่ทำกินให้กับชาวบ้านได้กว่า 1 แสนครัวเรือน โดยเริ่มนำร่องแจกสัญญาเช่าช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.นี้ ได้ก่อน ประมาณ 20,000 ครัวเรือน ใน 15 จังหวัด คิดเป็นพื้นที่ราชพัสดุกว่า 1 แสนไร่ และส่วนที่เหลือจะแจกได้ในปี 64 เพื่อช่วยให้ชาวบ้านเป็นเจ้าของที่ดินได้ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งในส่วนที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน

“โครงการธนารักษ์ประชารัฐ มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุ ด้วยการรับรองสิทธิจัดสัญญาให้เช่าที่ราชพัสดุราคาถูก เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีที่ทางทำมากินได้อย่างถูกต้อง โดยหากเป็นการเช่าสำหรับใช้อยู่อาศัย คิดค่าเช่าเริ่มต้นเพียงตารางวาละ1 สลึง หรือ 0.25 บาทต่อปี และหากอยู่ในพื้นที่ใกล้ชุมชนเมืองคิดค่าเช่าสูงสุดไม่เกินตารางวาละ 2 บาทต่อปี แต่ถ้าเป็นการเช่าที่เพื่อทำการเกษตรจะคิดค่าเช่าเริ่มต้นไร่ละ 50 บาทต่อปี สูงสุดไม่เกิน 200 บาท”  นายยุทธนา กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อประชาชนได้รับมอบสัญญาเช่าแล้ว สามารถนำที่ราชพัสดุไปใช้ประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัย ทำการเกษตรกรรม หรือประกอบกิจการต่างๆ ในที่ดินของรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถนำสิทธิการเช่าไปใช้ประกอบในการขอสินเชื่อ หรือเข้าถึงแหล่งเงินทุนต่างๆได้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสามารถแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ได้ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการคลัง

นายยุทธนากล่าวต่อว่า แผนการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุใน 15 จังหวัดในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.2563 ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์  ณ บริเวณชุมชนบ้านเขาดิน อำเภอท่าตะโก จังหวัดกาฬสินธุ์ ณ เขื่อนลำปาว จังหวัดเชียงใหม่ ณ เทศบาลตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดนครราชสีมา ณ ศาลาประชาคมอำเภอปากช่อง จังหวัดขอนแก่น ณ ศาลาราชประชาสมาสัย อำเภอบ้านแฮด ส่วนวันที่ 3 ส.ค. 2563 จะมอบสัญญาเช่าจังหวัดชลบุรี ณ วัดช่องแสมสาร  อำเภอสัตหีบ จังหวัดจันทบุรี  ณ นิคมแพร่งขาหยั่ง อำเภอท่าใหม่  

ส่วนจังหวัดมหาสารคาม ณ วัดบ้านวังไผ่ อำเภอเมือง วันที่ 10 ส.ค. จังหวัดบึงกาฬ  ณ องค์การบริหารส่วนตำบลบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ วันที่ 13 ส.ค. จังหวัดสุราษฎร์ธานี ณ องค์การบริหารส่วนตำบลเคียนซา อำเภอเคียนซา วันที่ 21 ส.ค.2563 จังหวัดบุรีรัมย์  ณ เทศบาลเมืองนางรอง วันที่ 25 ส.ค. จังหวัดสุรินทร์  ณ หอประชุมจังหวัดสุรินทร์ (หลังเก่า) อำเภอเมืองสุรินทร์ วันที่ 25 ส.ค.2563 จังหวัดเชียงราย ณ ที่ทำการนิคมแม่ลาว วันที่ 28 ส.ค. 2563 จังหวัดราชบุรี ณ ที่ว่าการอำเภอสวนผึ้ง วันที่ 8 ก.ย.2563 และจังหวัดกาญจนบุรี ณ ชุมชนบ้านพุน้ำร้อน อำเภอเมือง วันที่ 8 ก.ย.2563

นอกจากนี้ระหว่างการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ กรมฯจะดำเนินการเปิดตลาดชุมชนในพื้นที่แต่ละจังหวัดไปพร้อมกันด้วย โดยเป็นการจัดหาพื้นที่จำหน่ายสินค้า สร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยมีรูปแบบเป็นที่ประชุมอเนกประสงค์ และเป็นพื้นที่จัดตลาดชุมชน เพื่อช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจฐานรากมีการใช้จ่ายหมุนเวียน และฟื้นฟูรายได้ให้ผู้ประกอบการในชุมชนได้มียอดขายสินค้าเพิ่มขึ้นด้วย