“หวยออนไลน์” มาแน่ ครม.บิ๊กตู่อนุมัติแก้ไข พ.ร.บ.สลากกินแบ่ง


เพิ่มเพื่อน    

“บิ๊กตู่” ปล่อยผีสลากฯ ไฟเขียวออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ชู “หวยออนไลน์” มาวิน พร้อมสั่งเพิ่มแจ็คพอต ขู่เข้มผู้ค้าขายเกินราคาติดคุกแน่ เล็งรวมชุดขายสำเร็จแน่ปลายปีนี้

พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี รองผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 ที่ปรับปรุงเพื่อให้สำนักงานสลากฯ ดำเนินกิจการเหมาะสมกับสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น รวมทั้งให้สอดคล้องกับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 11/2558 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากฯ เช่น การแก้ไขเพิ่มเติมบทกำหนดลงโทษสำหรับความผิดกรณีการขายสลากฯ เกินราคา จากเดิมระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท เป็นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ ยังเปิดทางให้สำนักงานสลากฯ สามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น หวยออนไลน์ หรือล็อตโต้ ที่มีรางวัลแจ๊คพอต เป็นต้น โดยได้แก้ไขสัดส่วนเงินรางวัลให้เป็นแบบสมทบ ที่ขึ้นอยู่กับการกำหนดวงเงินเพดานของรางวัลไว้ แต่จะแตกต่างจากผลิตภัณฑ์สลากฯ ชนิดใบในปัจจุบัน หากไม่มีผู้ที่ถูกรางวัลมารับเงินภายใน 2 ปี จะต้องส่งคืนเป็นรายได้ของรัฐ โดยเฉลี่ยจะมีเงินที่ไม่มีผู้มารับรางวัลประมาณงวดละ 100-200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24 งวด จะอยู่ที่ 2,400-4,800 ล้านบาท

“การแก้ไขกฎหมายดังกล่าว จะช่วยให้สำนักงานสลากฯ สามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมจากเดิม แต่คงต้องใช้เวลาศึกษารายละเอียด และผลกระทบจากผู้ได้และเสีย ก่อนนำเสนอให้รัฐบาลพิจารณาอีกครั้ง โดยปัจจุบันสำนักงานสลลากฯ จำหน่ายสลากฯ งวดละ 80 ล้านใบ แบ่งเป็น ตัวแทนรายย่อย มูลนิธิ องค์กร ที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ 30 ล้านใบ และผ่านช่องทางกรุงไทย 50 ล้านใบ” พ.ต.อ.บุญส่ง กล่าว

สำหรับสัดส่วนเงินรางวัล รายได้ส่งรัฐ และค่าบริหารจัดการสลากฯ โดยร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ ใหม่ ประกอบด้วย เงินรางวัล 60% คงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง, รายได้แผ่นดิน 22% จากเดิม 28%, ค่าบริหารจัดการและ ค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายสลาก 17% จากเดิม 12% ซึ่งการปรับเพิ่มในส่วนนี้ เพื่อนำมาเป็นส่วนลดสลากฯให้กับผู้ค้ารายย่อยและมูลนิธิ องค์กร ที่เกี่ยวข้องกับคนพิการที่เป็นผู้ค้าสลากฯ ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนที่เหลืออีก 1%  จะนำมาไว้ในกองทุนสลากฯ เพื่อพัฒนาสังคม ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.กำหนดให้มี แต่จะกำหนดจำนวนเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท และหากเงินกองทุนฯ มีจำนวนเกินกว่า 1,000 ล้านบาท ให้สำนักงานสลากฯ นำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน

นอกจากนี้ ยังกำหนดเพิ่มเติมความผิดกรณีการขายสลากฯ ในสถานศึกษาไม่ว่าจะมีรั้วล้อมหรือไม่ก็ตาม และผู้ใดขายสลากกินแบ่งรัฐบาลแก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่ความคืบหน้าการจัดทำสลากฯรวมชุด อยู่ระหว่างการเปิดรับฟัง โดยคณะกรรมการสลากฯ จะลงพื้นที่ในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.นี้ หากได้ข้อสรุปก็พร้อมที่จะดำเนินการทันที โดยคาดว่าจะเห็นผลได้ในช่วงปลายปีนี้ ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของประชาชนที่ต้องการซื้อสลากฯ เพราะได้รับรางวัลจำนวนมาก


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"