ปชช.กำหนดลุงตู่ลุยการเมือง


เพิ่มเพื่อน    

    "บิ๊กตู่" บอกไม่มีอะไร เพื่อไทยตีกอล์ฟกับ "สะสมทรัพย์" แค่เรื่องปกติ ยันไม่ได้เล่นการเมือง ถ้าเล่นต้องลงเลือกตั้ง แต่อนาคตเป็นเรื่องที่ประชาชนกำหนด ให้รอเดือนมิถุนายนทุกอย่างชัดเจน
"มาร์ค" เตือนอย่าสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ดี ใช้อำนาจรัฐเพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมือง 
    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แกนนำพรรคเพื่อไทยไปตีกอล์ฟและพบปะกับตระกูลสะสมทรัพย์ว่า ไม่มีนัยอะไร เป็นการตีกอล์ฟกันตามปกติ 
    "ก็เหมือนกับที่ผมเคยไป เมื่อเขาไปก็มีคนมาต้อนรับ ตอนผมไปก็มีคนมารับ ก็เป็นธรรมดา แต่ความจริงเขาไม่ได้มารับผม เพราะเขาคุยกันอยู่แล้วทุกอาทิตย์ เขาอยู่กันครอบครัวถ้วนหน้า ก็อาจเป็นจังหวะที่ไปเจอกันพอดี แต่เมื่อวานนี้ (18 เม.ย.) เห็นว่าไปกันไม่ครบ เพราะว่าไม่สบายบ้างอะไรบ้าง อย่าไปมองอะไรว่าเป็นนัยทางการเมืองเลย" 
    ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่มีการมองว่าเป็นการดึงคนตระกูลสะสมทรัพย์มาพรรคเพื่อไทย นายกฯ ตอบว่า "อย่าไปมองเลย และผมก็ไม่ได้ไปถึงพวกเขา ใครดึงใครล่ะ ผมไม่เห็นมีใครเลย" 
    ถามถึงกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้นายกฯ แสดงความชัดเจนทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนถามว่าชัดเจนเรื่องอะไร จะให้เปิดอย่างไร 
    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ให้แสดงความชัดเจนถึงการประกาศเล่นการเมือง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "พอแล้วๆ ผมไม่ได้เล่นการเมือง ถ้าเล่นการเมืองผมก็ต้องไปเลือกตั้ง เป็น ส.ส. แล้วมันจะเป็นได้หรือไม่เล่า เป็นไปไม่ได้" 
    ซักว่าอยากจะลงเข้าไปอยู่ในลักษณะรูปแบบนักเมืองหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า "อย่าถามว่าอยากหรือไม่อยาก แต่ถ้าถามว่าอยากไหม ก็ต้องตอบว่าไม่อยาก แต่ถามว่ามันมีความจำเป็นอะไรหรือไม่ มันก็เป็นเรื่องของอนาคต เป็นเรื่องของประชาชนกำหนด ไม่ใช่ว่าอะไรก็นักการเมืองคิดกันเอง ผมไม่เคยมองว่าตัวเองสำคัญกว่าใคร หรือเก่งกว่าใคร ไม่เคยคิดอย่างนั้น แต่เป็นเรื่องของประชาชนจะว่าอย่างไรก็ว่ามา ว่าเขาต้องการอะไร" 
    ถามว่าสถานการณ์วันนี้นายกฯ มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ต่อหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า "ไม่รู้ยังตอบไม่ได้ ต้องไปรอเดือนมิถุนา.ไปแล้วโน่น ไป จบรอเดือนมิถุนา.ก็แล้วกันจ้ะ" 
    ทั้งนี้ ภายหลังการให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ จะร่วมกิจกรรมพบปะสื่อมวลชนหรือไม่ นายกฯ บอกว่า ตนเองมีภารกิจ และขอให้สื่อทานข้าวอย่างมีความสุข พร้อมทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูให้กับสื่อมวลชนก่อนที่จะขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า
    ด้าน พล.อ.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคเพื่อไทยนัดตีกอล์ฟกับตระกูลสะสมทรัพย์ ที่จังหวัดนครปฐม เมื่อวันพุธที่ผ่านมา 
    พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เขาคงไปออกกำลังกายกันมั้ง สนามเขาก็ดีใช้ได้นะ "แล้วแต่คนมอง ถ้าคนมองว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไร ถ้ามองว่ามีประเด็นปัญหาก็มองได้ สำหรับผมก็ไม่เห็นมีอะไรแปลก” 
    เมื่อถามว่า อยากจะไปตีกอล์ฟร่วมกับกลุ่มสะสมทรัพย์อีกหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ปกติถ้าจะไปก็ไปกับนายกรัฐมนตรี แต่โอกาสน้อยมากที่จะได้ไป 
    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองประสานขอพูดคุยกับ คสช.ก่อนเดือน มิ.ย.ว่า การพูดคุยในเดือน มิ.ย.นั้นมีแน่ แต่มีการประสานมาพูดคุยก่อนเพื่อสอบถามอะไรบางอย่าง ตนแจ้งเลขาธิการ คสช.ไปแล้ว หากเป็นการขอพบเพื่อสอบถามบางเรื่อง ก็ไม่จำเป็นต้องพบ คสช. 
    "ต้องดูว่าคำถามคืออะไร อาจเชิญ กกต. เลขาฯ คสช. หรือผมมาตอบก็ได้ แต่ถ้าต้องการส่งข้อความไปถึง คสช. อาจจำเป็นต้องพูดกับ คสช.เอง และนายกฯก็ยินดี แต่เมื่อมีข่าวออกไปแล้วบางพรรคไม่มาก็อาจล้มเลิกก็ได้ เพราะถึงอย่างไรก็มีการประชุมในเดือน มิ.ย. โดยพรรคที่ประสานขอพูดคุยก่อนนั้นมีทั้งพรรคเก่าและใหม่" รองนายกฯ กล่าว
    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแต่งตั้งตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ว่า ไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะมีข่าวที่ได้มาตั้งแต่วันที่มีนักการเมือง 3 คนไปพบนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ที่ทำเนียบฯ ว่าอาจจะมีเรื่องนี้เกิดขึ้น ก็เลยไม่ได้แปลกใจอะไร และเป็นเรื่องนายกฯ คงจะพยายามสร้างฐานทางการเมือง ท่านคงไม่ปิดทางตัวเองในเรื่องของการที่จะเข้ามาสู่ตำแหน่งหลังจากการเลือกตั้ง ซึ่งทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นในฐานะคนนอก หรืออีกทางคือการมีพรรคการเมือง หรือนักการเมืองที่พร้อมที่จะสนับสนุนท่าน คงมองเห็นเป็นอย่างอื่นได้ยาก งานนี้เป็นเรื่องการเมืองมากกว่า 
    แต่อยากจะเตือนว่า อย่าทำอะไรที่จะไปเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ดี เช่น การใช้อำนาจรัฐเพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมือง ต้องย้ำว่าเพราะเป้าหมายของ คสช.ในวันที่เข้ามา พูดถึงการที่จะวางรากฐานของการเมืองที่ดีต่อไป การเมืองที่ดีนั้นเมื่อเป็นประชาธิปไตย มันต้องเริ่มต้นจากการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็ใช้คำว่า Free & Fair เพราะฉะนั้นก็ควรจะเป็นแบบอย่างว่าการจัดการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรมนี้จะต้องเป็นอย่างไร
        "ผมเข้าใจว่าตอนที่เขียนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผู้เขียนเข้าใจว่าคนที่เป็นรัฐบาลขณะนี้จะไม่ไปมีส่วนได้เสียเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ที่คิดเช่นนี้เพราะว่ามีบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหลายมาตรา เช่น ในบทเฉพาะกาลที่บอกว่า ใครเป็น สนช. ใครเป็นรัฐมนตรี ไปลงเลือกตั้ง ต้องลาออกจากตำแหน่งก่อน ไม่ใช่แค่ก่อนเลือกตั้ง 90 วัน แต่เป็น 90 วัน หลังจากรัฐธรรมนูญใช้บังคับ จุดนี้ค่อนข้างชัดว่าเขาคิดว่าคนที่มีอำนาจจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง แล้วบทบัญญัติเดียวกันนี้ยังบอกว่ารัฐบาลที่ยังดำรงตำแหน่งต่อไป หลังจากยุบสภา หรือสภาจะครบวาระ ห้ามทำอะไรบ้าง ยกเว้นว่าจะได้รับความเห็นชอบจาก กกต. บทบัญญัตินี้ บทเฉพาะกาลเขาก็ไม่เอามาใช้บังคับ เพราะเขาไม่คิดว่ามันจะมาเกี่ยวข้องกับรัฐบาลชุดนี้ แต่วันนี้เมื่อรัฐบาลและคนในรัฐบาลนี้ตัดสินใจว่าจะขอมาเป็นผู้เล่นด้วยในการเลือกตั้ง โดยทำไม่ให้ขัดกับตัวอักษรในรัฐธรรมนูญ แต่เจตนารมณ์คงจะต้องดูว่าขัดหรือไม่ขัด หรืออย่าไปสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ดี เพราะไม่เช่นนั้นเราก็จะเดินหน้าปฏิรูปการเมืองไม่ได้" 
        นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ตนไม่ได้ขัดข้องว่านายกฯ อยากจะเอานักการเมืองคนไหนไปสนับสนุนท่าน หรือจะไปทำงาน หรืออะไรก็ตาม แต่ย้ำว่าขออย่าให้ไปสร้างบรรทัดฐานเกี่ยวกับการเลือกตั้งและการใช้อำนาจรัฐ เท่านั้นเอง และตนไม่คิดว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นการประชามติเกี่ยวกับตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา การเลือกตั้งครั้งหน้าควรจะเป็นโอกาสให้คนไทยได้เลือกว่าเราอยากจะได้อนาคตประเทศไทยแบบไหน และตัว พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าจะลงหรือไม่ลงเลือกตั้ง ก็มีสิทธิ์ที่จะนำเสนอว่าอนาคตประเทศไทยที่อยากจะเห็น และพรรคประชาธิปัตย์จะเสนอว่า อนาคตของประเทศไทยที่พรรคประชาธิปัตย์อยากจะทำนี้เป็นอย่างไร พรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองอื่นๆ ก็เสนอมาแล้วแข่งขันกัน มันน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า
    นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปรากฏการณ์ทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นการกระทำที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่นายกรัฐมนตรีและคนในรัฐบาลเคยเรียกร้องอยากเห็นการเมืองใหม่ การเมืองที่มีธรรมาภิบาล อยากเห็นพรรคการเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วม พรรคการเมืองที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง แต่สิ่งที่คนในรัฐบาลกำลังทำการเมืองอยู่ขณะนี้ ไม่ใช่การเมือง 4.0 แต่เป็นการเมือง 0.4 ที่ย้อนยุคไปสู่การเมืองน้ำเน่าแบบเก่า ที่มุ่งหวังเพียงใช้ประชาธิปไตย และการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือในการเข้าสู่อำนาจ และสืบทอดอำนาจเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"