ล้วงลับ 'พงศ์พร' เขย่า 'ผ้าเหลือง'!


เพิ่มเพื่อน    

        กลับมาครึกโครมอีกครั้ง หลัง “พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์” ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร้องทุกข์กล่าวโทษคดีเงินทอนวัดล็อตที่ 3 ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ป.) เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา

        ปรากฏชื่อ 'พระผู้ใหญ่' ในมหาเถรสมาคม (มส.) 3 รูป ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตงบการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา แผนกธรรม และแผนกบาลี และงบเผยแผ่ศาสนา ประกอบด้วย 1.พระพรหมดิลก หรือ “เจ้าคุณเอื้อน” เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร 2.พระพรหมเมธี หรือ “เจ้าคุณจำนงค์” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 4-7 และ 3.พระพรหมสิทธิ หรือ “เจ้าคุณธงชัย” เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 10

        เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดกรณีทุจริตเงินทอนวัดที่มีผู้ถูกกล่าวหาเป็น “พระผู้ใหญ่” ใน มส. โดยก่อนหน้านี้มีเพียงพระราชาคณะเท่านั้นที่ถูก ป.ป.ป.แจ้งข้อกล่าวหาในคดีเงินทอนวัด

        ประกอบด้วย “พระครูกิตติพัชรคุณ” เจ้าอาวาสวัดลาดแค จังหวัดเพชรบูรณ์ “พระราชรัตนมุณี” เลขานุการสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะหนกลาง วัดพิชยญาติการาม “พระเทพเสนาบดี” เจ้าอาวาสวัดกวิศราราม ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี และเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี และ “พระครูวิสุทธิวัฒนกิจ” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชสิทธาราม ย่านบางกอกใหญ่

        การแตะต้องกรรมการ มส.ถือว่าสร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างมากในวงการพระพุทธศาสนา และเป็นอีกครั้งที่มีปฏิกิริยาไม่พอใจต่อการกระทำของ “พ.ต.ท.พงศ์พร”

       ทันทีที่ปรากฏข่าวสาร แม้จะไม่มีการออกมาตอบโต้หรือโจมตี “พ.ต.ท.พงศ์พร” เหมือนที่แล้วมา แต่พบความเคลื่อนไหวหลายอย่างเกิดขึ้นในหมู่พระสงฆ์และฆราวาส “บางสาย” ต่อเรื่องนี้

        โดยเฉพาะสายที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ ‘พระผู้ใหญ่” ที่ถูกกล่าวหา ตามรายงานว่า ในช่วงเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมาพบเห็น “ดร.” รายหนึ่ง ที่คลุกคลีอยู่กับพระสายนี้ เดินทางเข้าวัดสระเกศฯ หลังจากนั้นไม่นานปรากฏบทความปลุกกระแสต้าน “พ.ต.ท.พงศ์พร” ในโซเชียลมีเดียอีกครั้ง

        ขณะที่ช่วงเย็นวันพุธมีรายงานว่า มีพระผู้ใหญ่ ใน จ.สมุทรปราการ เตรียมจะรวบรวมพระสงฆ์ไปต่อต้าน “พ.ต.ท.พงศ์พร” ในวันที่ 19 เม.ย. เพื่อคัดค้านการแจ้งข้อกล่าวหากับพระผู้ใหญ่ใน มส.

       ต่อเนื่องมาถึงช่วงเช้าวันพฤหัสบดีมีการประชุมประจำปีที่วัดสามพระยา มีกระแสว่า “เจ้าคุณเอื้อน” ในฐานะเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ได้มีการหารือกับพระสังฆาธิการทุกวัดใน กทม.ต่อประเด็นดังกล่าวด้วย

       นอกจากนี้ คืนก่อนวันประชุมประจำปี เฟซบุ๊กของวัดสามพระยายังโพสต์สเตตัสธรรมะ และกลอนดังของ “ศรีปราชญ์” ที่ดูจะสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ระบุ

       “ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน เราก็ศิษย์มีอาจารย์ หนึ่งบ้าง เราผิดท่านประหาร เราชอบ เราบ่ผิดท่านมล้าง ดาบนี้คืนสนอง”     

                แม้ไม่ได้มีการตอบโต้ หรือคำอธิบายว่า เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินทอนวัดที่เกิดขึ้น แต่การเคลื่อนไหวต่างๆ ในช่วงนี้ของพระสงฆ์ในข่ายของพระชั้นผู้ใหญ่บางรูปใน มส.ส่งสัญญาณให้เห็นถึงการ “ไม่ยอม” ต่อการกระทำของ “พ.ต.ท.พงศ์พร”

                ย้อนกลับไปก่อนที่ “พ.ต.ท.พงศ์พร” จะถูกเด้งให้ไปเป็นผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้เมื่อครั้งเดินหน้าตรวจสอบคดีทุจริตเงินทอนวัดใหม่ๆ โดยตอนนั้นมีข่าวว่า “เจ้าคุณเอื้อน” เคยฝากเจ้าหน้าที่ พศ.มาตำหนิ “พ.ต.ท.พงศ์พร” ในลักษณะว่า ทำลายศาสนา

       อีกทั้งเวลา “พ.ต.ท.พงศ์พร” เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ตามวัดใหญ่ต่างๆ ในฐานะผู้อำนวยการ พศ. ยังเจอการต่อว่าต่อขานอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะต่อว่าโดยตรง ใบปลิว เรื่อยไปจนถึง “คว่ำบาตร” ไม่เชิญไปปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่เป็นหน้าที่ของผู้อำนวยการ พศ.

        การเคลื่อนไหวต่อต้าน “พ.ต.ท.พงศ์พร” ในครั้งนั้นหนักหน่วงถึงขั้นรัฐบาลต้องหลีกเลี่ยงการปะทะกับ “พระคุณเจ้า” ด้วยการเด้งพ้นเก้าอี้ผู้อำนวยการ พศ.

                มาครั้งนี้ ท่ามกลางความเงียบเชียบพักใหญ่นับตั้งแต่คัมแบ็กตำแหน่งเดิม “พ.ต.ท.พงศ์พร” กลับเลือกแจ้งความ “พระผู้ใหญ่” ใน มส.ที่แต่ละรูปมีขุมข่ายกว้างขวางมาอย่างยาวนานตั้งแต่พระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ “สมเด็จช่วง” เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ รักษาการสมเด็จพระสังฆราช

       ทั้งที่รู้ว่า จะถูกต่อต้านอย่างหนัก และเสี่ยงต่อเสถียรภาพเก้าอี้ แต่ “พงศ์พร” เลือกจะทำ

                นั่นแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจบางอย่างว่า เหตุการณ์จะไม่เดินไปสู่จุด “ซ้ำรอย” อย่างที่ตัวเองเคยพบเจอ ที่สำคัญ ต้องมั่นใจในพยานหลักฐานเอามากๆ ถึง

       “กล้า”!!!

        อย่างที่รับรู้กันมาโดยตลอด การกลับมาเป็นผู้อำนวยการ พศ.ในระยะเวลาไม่กี่วันหลังถูกเด้งไปเป็นผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และยังเดินหน้าตรวจสอบการทุจริตเงินทอนวัดแบบ “ใช้มือ ไม่ใช้ปาก” มันสะท้อนให้เห็นถึงความ “ไม่ปกติ”

       เรารับรู้กันแต่ว่า เขากลับมาเพื่อทำภารกิจบางอย่างที่สำคัญ แต่ไม่รู้แน่ชัดว่า มันคืออะไร

       จนวันนี้คำตอบมันค่อยๆ เฉลย “ความเงียบเชียบ” ที่เกิดขึ้นนั้นคือ “ความยะเยือก” ที่สั่นสะเทือนวงการ “ผ้าเหลือง”

       ความเคลื่อนไหวต่อต้าน “พงศ์พร” อาจดูน่ากลัว แต่สิ่งที่อย่าลืมคือ “พงศ์พร” วันนี้ กับ “พงศ์พร” เมื่อวันวาน มีภูมิต้านทานที่ต่างกันลิบลับ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"