21 เม.ย. 61- เวลา 06.20 น. ร.ต.อ.วรชัย แจ่มศรี ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรขลุง ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถยนต์ชนเสาไฟฟ้า บนถนนสุขุมวิทขาออก ตำบลวันยาว อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.วรชัย แพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพขลุงมูลนิธิ และเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลวันยาว ทีมงานการแพทย์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลขลุง เดินทางไปตรวจสอบ 

ที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงทราบชื่อ คือ นางสาวมยุรี ทักษิณ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นหญิงสาวร่างท้วมสวมเสื้อยืดสีแดง ท่าทางอิดโรย ติดอยู่ภายในรถยนต์ เจ้าหน้าที่กู้ชีพขลุงมูลนิธิ ต้องใช้เครื่องตัดถ่าง เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ อยู่ในสภาพถูกเสาไฟฟ้าทับหลังคารถยนต์ ที่นั่งมาอัดติดอยู่กับที่นั่งผู้โดยสาร โดยเจ้าหน้าที่กู้ชีพขลุงมูลนิธิ  ต้องใช้วิธีตัดประตู ตัวถังด้านข้าง ออกมาเป็นชิ้นๆ ทั้งตัดทั้งถ่าง ก่อนจะนำร่างผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่มีน้ำหนัก ประมาณ 90-100 กิโลกรัม ออกมาจากตัวรถได้ ก่อนส่งมอบให้ทีมการแพทย์ฉุกเฉิน ของโรงพยาบาลขลุง นำส่งโรงพยาบาลขลุง เพื่อให้แพทย์ทำการรักษา  

จากการตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์ กระบะดัดแปลง เป็นรถห้องเย็น สีขาว หมายเลขทะเบียน ผค 9345 นครปฐม ในสภาพพุ่งชนเสาไฟฟ้าจนล้ม ก่อนลงไปจอดขวางอยู่กลางร่อง โดยด้านหน้าของตัวรถ ข้ามไปอีกฝั่งของถนน สภาพห้องเครื่องยุบ กระจกหน้าหลังคายุบเข้ามา จนถึงห้องผู้โดยสาร ในที่เกิดเหตุพบนายบรรจบ ผลยิ่ง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 ตำบลคลองเป็ง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นคนขับ พร้อมเด็กหญิงวัย 6 ขวบลูกสาว อยู่ในที่เกิดเหตุ โดยคนขับได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก ส่วนลูกสาวมีเพียงแผลถลอก 

นายบรรจบ คนขับรถยนต์คันดังกล่าว เล่าว่า ตนขับรถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกสินค้าประเภทอาหารสดเพื่อไปส่งยังร้าน มินิมาร์ท ในตำบลเกาะช้าง อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีรถยนต์เก๋งแซงตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ทำให้ตนต้องหักหลบก่อนเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า จนรถยนต์ได้รับความเสียหาย และเป็นเหตุให้ครอบครัวของตนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการบันทึกภาพ พร้อมรวบรวมหลักฐาน ในที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว โดยผู้เสียหายวอนหากใครที่มีกล้องหน้ารถที่สามารถบันทึกภาพ ในขณะเกิดเหตุได้ขอความกรุณา ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อติดตามรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมาดำเนินคดี ในลำดับต่อไป.