ดูด...ใครคิดว่าไม่สำคัญ!!!


เพิ่มเพื่อน    

 

      ช่วงระหว่างนี้...คงต้องยอมรับว่า ออกไปทางจ๊วบๆ จ๊าบๆ ซะเหลือเกิน สำหรับแวดวงการเมือง คือ ดูด กันชนิดสนั่นลั่นโลก ต่อท่อ ต่อสาย เล่นเอาพนักงานประจำ รถสูบส้วม ทั้งหลาย แทบไม่ได้หลับ ได้นอน เอาเลยถึงขั้นนั้น เพิ่งดูด ฉลามชล ซะจนหมดเมือกเมื่อไม่กี่วันมานี้ เห็นว่า...วัน-สองวันที่ผ่านมา ไป ดูด เอากลุ่มระยองของประชาธิกัดเขา ชนิดขนเงาะ หนามทุเรียน หลุดร่วงไปเป็นแถบๆ...

                                                               --------------------------------------------

      เฮ้ออ์อ์อ์...ก็เอาเถอะ ถ้ามองกันจาก ข้อเท็จจริงทางการเมือง มันคงต้องถือเป็นเรื่อง ปกติ สำหรับการเมืองไทย ที่มันดูดกันไป-ดูดกันมา อย่างเป็นกิจวัตรมาโดยตลอด ชนิด ส.ส. ในแต่ละราย ต่างเปลี่ยนพรรค ย้ายพรรค จนตัวเองอาจจำไม่ได้แล้ว ว่าเคยอยู่พรรคไหนมามั่ง เพราะเรื่องอุดมการณ์ อุดมคตินั้น มันเป็นแค่ ความฝัน ของพวกเด็กๆ เขา แต่สำหรับผู้ผ่านประสบการณ์มาในระดับเกล็ดแตกลายงา ปีกงอก แถมพ่นไฟได้ด้วย เรื่องของ หัวคะแนน นั่นแหละสำคัญกว่า ถือเป็นของจริงของแท้ ถ้าสามารถดูดเอาอดีต ส.ส. ผู้ซึ่งมีหัวคะแนนไว้ในมือครบหมด อะไรที่เป็นอุดมการณ์ อุดมคติ ก็ค่อยปรับ ค่อยเปลี่ยน ให้มันเป็นอะไรต่อมิอะไรก็ย่อมได้...

                                                                 -----------------------------------------------

      ดังนั้น...การที่ ป๋าดัน สมคิด ท่านหยิบเอา เศรษฐศาสตร์แห่งการดูด มาปรับใช้กับการเมืองในอนาคตข้างหน้า มอบหมายให้รัฐมนตรีอุตสาหกรรม รัฐมนตรีพาณิชย์ เปลี่ยนไลน์ไปเป็น พนักงานสูบส้วม ในช่วงนี้ มันคงไม่ถึงกับผิดกฎ ผิดกติกา อะไรกันมากมาย ส่วนจะผิดหลักทางจริยธรรมหรือไม่ ประการใด อันนั้น...คงต้องถามกลับไปว่า คำว่า จริยธรรม มันยังคงมีอยู่ในพจนานุกรมทางการเมืองจริงๆ หรือ? หรือเป็นแค่คำศัพท์ คำแสลง ที่เอาไว้พูดๆ กันไปแบบเรื่อยๆ เจื้อยๆ ในเมื่อช่วงที่ท่านโตๆ ขึ้นมา ก็โตมาจากการ ดูด นี่แหละ ในฐานะ มือขวา ของ ทักษิณ ที่ไม่ใช่ดูดใครเป็นคนๆ แต่ดูดพรรคทั้งพรรค ระดับแม้แต่พรรค ความหวังใหม่ ของ อดีตทหาร อย่างพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ยังถูกสูบจากบ่อเกรอะทั้งบ่อ ต้องยอมรับสภาพการเป็น ความหวังหมด หรือต้องแปรสภาพมาเป็นส่วนหนึ่งของพรรคเผาไทยไปจนได้...

                                                                ----------------------------------------------------

      ในเมื่อโตมาในแนวนี้...ก็จึงไม่แปลกที่ท่านจะเดินไปในแนวเดิมๆ เพราะถ้าหากดูดใครต่อใครได้จริง ดังที่เป็นข่าวคราวกันไปแล้ว ไม่ว่ากลุ่มปลาไหลใส่สเกต กลุ่มสุโขทัยเรียงหิน กลุ่มซุ้มมือปืนนครปฐม กลุ่มบ้านริมน้ำ กลุ่มฉลามชล ไล่มาถึงกลุ่มเงาะโรงเรียนเมืองระยอง ฯลฯ เฉพาะแค่เทียบบัญญัติไตรยางศ์ 70,000 เสียง ต่อ 1 เก้าอี้ในสภา โอกาสที่จะรวบรวมเสียงให้ได้ประมาณ 300 กว่าๆ โดยมีเสียงวุฒิสมาชิกลากตั้งตุนเอาไว้แล้วถึง 250 เพียงเท่านี้... แผ่นดินอันงดงอม ก็น่าจะกลับคืนมารองเท้า รองตีน ของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ เผลอๆ อาจง่ายซะยิ่งกว่า แจ็ก หม่า กว้านซื้อทุเรียนหมอนทองในเมืองไทย รวดเดียว 80,000 ลูกเอาเลยก็ไม่แน่ เศรษฐศาสตร์แห่งการดูด มันเลยอาจก่อให้เกิด EEC ทางการเมือง ได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์...

                                                                -----------------------------------------------------

      แต่ก็นั่นแหละ...สิ่งที่น่าคิด น่าตั้งข้อสังเกต สำหรับใครก็ตามที่ยังรักบ้าน รักเมือง คงต้องเริ่มตั้ง คำถาม กันบ้างแล้วนั่นแหละว่า ไม่ว่าอะไรผิด-อะไรถูก อะไรเป็นไปตาม ข้อเท็จจริงทางการเมือง หรือไม่ เพียงใด ก็แล้วแต่ แต่ถ้าหากกระบวนการทางการเมืองมันยังคงเป็นไปในแนวเดิมๆ โอกาสที่มันจะนำมาซึ่ง ผลลัพธ์ ในแบบเดิมๆ จะมีความเป็นไปได้มากหรือน้อยขนาดไหน และถ้าหากวันใด-วันหนึ่ง มันเกิดนำมาซึ่ง ผลลัพธ์ทางการเมือง ในแบบเดิมๆ แบบที่กลับไปสู่ฉากเหตุการณ์แบบ 14 ตุลาฯ หรือ พฤษภาทมิฬ ก็แล้วแต่ จังหวะนั้นนั่นแหละ...ที่ยังจะมี อะไรใหม่ๆ เอาไว้รองรับเหตุการณ์ สถานการณ์ ไม่ให้มันลุกลาม บานปลาย ขยายตัว ขยายวง แบบเดิมๆ ได้อีกหรือไม่???

                                                                 -------------------------------------------------------

      เพราะคงต้องยอมรับนั่นแหละว่า...ภายใต้ ความเป็นไทย ที่ยังพอมี ความเป็นธรรม รองรับเอาไว้โดยตลอด ด้วย ภูมิปัญญาแห่งสังคมไทย หรือด้วย ธรรมะ ที่อยู่นอกเหนือไปจากแวดวงการเมืองก็แล้วแต่ ได้มีส่วนช่วยเอามากๆ ไม่ให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันพังครืนลงมา ในจังหวะที่พวกฝรั่งเขาเรียกว่า The Tipping Point หรือ จุดเปลี่ยน, จุดพลิกผัน อะไรประมาณนั้น แต่สำหรับฉากสถานการณ์ใหม่ๆ จะหาอะไรที่เอาไว้รองรับเหตุการณ์นั้นๆ ได้อย่างเป็นมรรค เป็นผล กันจริงๆ อันนี้นี่แหละ...ที่บรรดาผู้รักบ้าน รักเมืองทั้งหลาย คงต้อง คิด เอาไว้ซะก่อนแต่เนิ่นๆ ยิ่งถ้าหากสามารถ ลงมือปฏิบัติ ได้บ้างในบางด้าน บางส่วน ก็คงต้องทำให้การปฏิบัตินั้นๆ ก่อรูป ก่อร่าง พอให้เห็นภาพที่จะเป็นทางออก ทางไป ได้บ้าง...

                                                                  -------------------------------------------------------

      ส่วนในเรื่องใครจะดูดใคร หรือใครยอมให้ถูกดูด...คงต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามสภาพ ข้อเท็จจริงทางการเมือง ของมันนั่นแหละ อย่าถึงกับต้องไปตกอก ตกใจ วิตก ทุกข์ร้อน หรือต้องออกอาการ อ้วกแตก ไปซะก่อน ถือซะว่า... มันเป็นเช่นนั้นเอง, มันเป็นพรรค์นั้นแหละ เพราะเรื่องของบ้าน ของเมืองนั้น บรรดา นักการเมือง ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองแท้ๆ หรืออดีตทหารที่แปรสภาพมาเป็นนักการเมือง ล้วนแล้วเป็นแค่ องค์ประกอบ ไปด้วยกันทั้งสิ้น...นั่นแล...

                                                                  -----------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก George Santayana (อีกครั้ง)... Those who cannot remember the past are condemned to repeat it.-ผู้ที่ไม่จดจำอดีต...คือผู้มีกรรมที่จำต้องย้อนรอยอดีต...

                                                                  -----------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"