กำลังเป็นกระแสที่หลายคนจับตามอง สำหรับเรื่องของบริษัทเครื่องสำอางค์-อาหารเสริม "เมจิกสกิน" ที่ทำเอาดารา-เน็ตไอดอล หลายคนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวไปสอบปากคำ เหตุเพราะเป็นพรีเซ็นเตอร์หรือมีการรับรีวิวผลิตภันฑ์ที่ติดเครื่องหมายการค้าผิดประเภท ล่าสุด ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์ ก็ได้เผยถึงกรณีดังกล่าว เพราะมีชื่อตนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

          "มาถึงเราแล้ว ก็อย่างที่ทุกคนเห็นในข่าว ของปันเกิดขึ้นโดยที่เขาติดต่อมาทางผู้จัดการให้เราลงรูปและรีวิวปกติเลย เรารับงานแล้วก็ถ่ายรูปลงปกติตามสัญญาที่บอกคือ 15 วันลบค่ะ แค่นั้นเลย คือด้วยที่สินค้าตัวนี้เขาแจ้งว่าเป็นสินค้าที่อยู่ในตลาดมาค่อนข้างสักพักแล้ว เราเห็นกล่อง อย. เห็นเลขหมายข้างหลัง ด้วยความที่เราเป็นผู้บริโภคปกติ เราก็ไม่ได้มีความรู้ว่าเลข อย. อันนี้ถูกต้องยังไง เราก็ไม่รู้ใช่ไหมคะ คือรับปกติเลย
          ก็ตกใจ เราเชื่อว่าไอจีเรามีอิมแพ็คเยอะ มีคนตามค่อนข้างเยอะ ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะสำหรับการไม่ไตร่ตรองสินค้าที่โฆษณาออกไปให้ดี อาจจะมีคนเกิดอะไรขึ้นมากมาย ผิดที่ทางเราเองค่ะที่ไม่ดูให้ดีค่ะ ถ้าถูกเรียกก็พร้อมเข้าไปเลยค่ะ ยินดีให้สอบปากคำทุกอย่าง ยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง อย่างที่บอกว่าเราทราบแต่เขาติดต่อมาให้เราลงรูป และเราลงรูปตามที่เขาบอกเท่านั้นเลยค่ะ ตอนนี้ทีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาทางผู้จัดการนะคะ แต่ทางตำรวจยังไม่ได้เรียกเข้าไปค่ะ

          รับรีวิวสินค้ากับบริษัทนี้ก็น่าจะสองตัวนะคะ ปันว่าดาราทุกคนที่ได้รับติดต่อมา จากนี้คงต้องขอเอกสารรับรองให้ได้ว่ามี อย.เรียบร้อย สินค้าเป็นยังไง ส่วนผสมเป็นยังไง มีเอกสารมาให้หมดเลย แม่ค้าออนไลน์ทุกคนคงระแวงในจุดนี้ คงทำทุกอย่างให้ถูกต้อง

 

 

          ส่วนแบรนด์ของตัวเราเอง สินค้าของปันมี อย.ถูกต้องทุกอย่างตามกฎหมายนะคะ ไม่ได้มีการสวมรอยอะไรทั้งสิ้น ปันว่าสองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แยกกันค่ะ อันนี้เป็นสิ่งที่เราทำเอง และเขาจ้างกันมันคนละเรื่องกันค่ะ คือเลิกรับอาจจะไม่ ปกติก็ไม่ได้รับทุกอย่าง มีติดต่อมาเยอะมาก ก็ต้องเลือกมากขึ้น ต้องมีเอกสารทุกอย่าง เราก็รู้สึกแย่ เพราะมีคนอิมแพ็คเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะ สินค้าไม่มี อย. อาจจะเกิดผลอะไรมากมาย ก็รู้สึกไม่ค่อยดีเหมือนกัน เราพลาดเองที่ไม่ได้ดูให้ดี เขาไม่ได้จ้างเราคนเดียว เขาจ้างทุกคน เราก็เห็นว่ามีสินค้าอยู่ในตลาดมาต่อนข้างจะนานแล้ มีตัวแทนเยอะไปหมด เราไม่รู้จริงๆ เราคิดว่าทุกอย่างถูกต้องแล้ว
    กลัวจะมีดราม่าเราไม่ได้ใช้สินค้าจริงไหมเหรอ ถ้ามันจะเป็นดราม่ามันก็คือความจริงที่เป็นแบบนั้น มีสคริป มีอะไรมาให้ค่ะ ผลกระทบมีอยู่แล้วแน่นอน ปันไม่อยากจะพูดถึงสินค้าปันตอนนี้ ก็เป็นขอบที่เราทำกับครอบครัวทำทุกอย่างถูกต้องตามกฏหมายค่ะ

 

     ฝากถึงผู้ผลิต จริงๆเข้าใจนะคะว่าการทำธุรกิจคือการที่เราอยากจะหาเงิน แต่สุดท้ายแล้วจรรยาบรรณอยู่ที่ตัวเรา กฎแห่งกรรมก็อยู่ที่ตัวเรา ถ้าสมมุติคุณทำอะไรออกไปแล้วส่งผลกระทบให้กับคนอื่น สุดท้ายมันก็จะวนเข้าหาตัวคุณเอง ในอนาคตทำอะไรก็ไตร่ตรองให้ดีนะคะ นึกถึงคนอื่นด้วย อย่านึกถึงแค่ตัวเอง ผลกระทบมันอาจจะมีจริงๆ มันไม่ดีจริงๆ ตระหนักถึงจุดนี้นิดนึงนะคะ”

 

ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต