‘2ป.’ลุยนํ้าท่วม พท.ผวาเสียงวูบ ชงสภากทม.ช่วย

"บิ๊กป้อม" สั่งทุกหน่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม ปฏิบัติตาม 13 มาตรการของ สทนช. พร้อมลงพื้นที่มีนบุรี-หนองจอก "รมว.ทส." สนับสนุนเครื่องสูบน้ำกทม. 6 เครื่อง แจงน้ำทำท่วมกรุงคือน้ำจากฝนโดยตรงไม่ใช่น้ำเหนือ "ชัชชาติ"  ยอมรับลาดกระบังยังน่าเป็นห่วง ชี้เส้นเลือดใหญ่-เส้นเลือดฝอยต้องไปด้วยกัน  "อุ๊งอิ๊ง" นำทีม กทม.บรรจุสิ่งของช่วยปชช.ถูกน้ำท่วม "ส.ส.ลาดกระบัง พท." โวยอีก ความช่วยเหลือล่าช้า เลขาฯพรรคกล้ายื่นผู้ว่าฯ สตง. สอบการโยกงบเพิ่มโครงการสัมมนากว่า 111 ล้าน

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 13 กันยายน  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้ว่า ในเรื่องดังกล่าวได้มีการสั่งการไปแล้วทั้งหมด ว่าให้ทุกหน่วยงานของทางราชการ โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย เข้าไปช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประวิตร รักษาราชการแทนนายกฯ ได้สั่งการเรื่องแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจและให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร็ว รวมทั้งเน้นย้ำให้หน่วยงานปฏิบัติตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) อย่างเคร่งครัด และกำชับให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในพื้นที่ กทม.และในพื้นที่ต่างจังหวัด เร่งระดมสรรพกำลัง เครื่องมือ และยานพาหนะ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ได้อย่างทันท่วงที 

ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจ พล.อ.ประวิตร เวลา 14.00 น. วันที่ 14 ก.ย. มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมน้ำท่วมเขตมีนบุรีและหนองจอก โดยจุดแรกจะเดินทางไปยังประตูระบายน้ำคลองแสนแสบ เขตมีนบุรี จากนั้นไปประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำหนองจอก เขตหนองจอก ติดตามการระบายน้ำในพื้นที่ และเดินทางไปยังวัดวิบูลย์ธรรมาราม เขตหนองจอก เพื่อมอบถุงยังชีพให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

ขณะเดียวกัน ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย จะตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยและผู้ปฏิบัติงานที่เขตลาดกระบัง ในเวลา 10.00 น.

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อช่วงสายวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้โทรศัพท์หาตนเพื่อขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากกรมทรัพยากรน้ำ จึงได้สั่งการไปยังกรมทรัพยากรน้ำ โดยมีการนัดหมายส่งมอบเครื่องสูบน้ำขนาด 30 นิ้ว จำนวน 6 เครื่อง เบื้องต้นจัดส่งให้ก่อน 4 เครื่อง ที่สถานีสูบน้ำพระโขนง ในเวลา 15.00 น. วันเดียวกันนี้ ซึ่งจะติดตั้งได้ทันที ส่วนอีกเครื่องหนึ่งจะมาส่งในวันที่ 19 ก.ย. ขณะที่อีกหนึ่งเครื่องขณะนี้ติดตั้งอยู่ที่ศรีนครินทร์ บางนา คาดว่าจะเดินเครื่องได้ในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ซึ่งเครื่องสูบน้ำขนาด 30 นิ้วนี้ ถือเป็นเครื่องขนาดใหญ่ หากเดินเครื่องเต็มที่จะทำให้น้ำลดลงได้อย่างมีนัยสำคัญ สถานการณ์น้ำท่วมกทม.ในขณะนี้มาจากน้ำฝน ต่างจากปี 2554 ที่เป็นน้ำมาจากภาคเหนือ ส่วนน้ำเหนือจะอยู่บริเวณ จ.นครพระศรีอยุธยา อ่างทอง สุพรรณบุรี และปริมณฑล ซึ่งกำลังพยายามพร่องน้ำระบายลงสู่อ่าวไทยไม่ให้เข้า กทม. ย้ำว่าน้ำใน กทม.ขณะนี้คือน้ำจากฝนที่ตกใน กทม.โดยตรง

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันว่า ตอนนี้หนักอยู่จุดเดียวคือลาดกระบัง ซึ่งเราก็ลุยอย่างเต็มที่ โดยปัจจุบันเมื่อเช้าน้ำได้ลดลงไปประมาณเกือบ 10 เซนติเมตร ในขณะเดียวกันกรมชลประทานคอยสูบออกฝั่งคลองพระองค์เจ้าฯ อยู่ตลอด ส่วนอีก 2 ฝั่งที่คลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร ตอนนี้ดีขึ้นมาก ทั้งนี้ เมื่อเช้ามีการประชุมเรื่องการเยียวยาค่าเสียหายต่างๆ และเชื่อว่าถ้ายังไม่มีฝนเติมมา น้ำก็จะทยอยลดอย่างเห็นผล ทุกคนเต็มที่ และวันนี้จะไปรับเครื่องสูบน้ำจากนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรฯ เพิ่มอีก 6 เครื่อง และกรมชลประทาน ติดตั้งที่พระโขนงเพิ่ม มีการร่วมมือกันทุกหน่วยงาน ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ได้มีการแสดงความคิดเห็นว่าตอนนี้เส้นเลือดใหญ่ของ กทม. การระบายน้ำค่อนข้างอัมพาต แล้วเส้นเลือดฝอยจะเป็นอัมพาตด้วยหรือไม่ นายชัชชาติกล่าวว่า เส้นเลือดใหญ่ยังไปได้ แต่สุดท้ายต้องดูทั้งภาพรวม หากเส้นเลือดใหญ่ดี แต่เส้นเลือดฝอยไปไม่ถึงก็ทำให้น้ำไม่ถึงอุโมงค์ อย่างที่เราพยายามลอกท่อ ลอกคูคลอง เพราะเชื่อว่าหากต่อให้อุโมงค์ดีแค่ไหน แต่น้ำไปไม่ถึงก็ไม่มีประโยชน์ ทั้ง 2 ระบบต้องไปด้วยกัน หลักคือต้องทำให้สมดุลกัน เรื่องการทำวอเตอร์แบงก์ตนว่ายาก แต่อาจจะเป็นไปได้ ถ้าเรารู้จุดว่าจะท่วมตรงไหนแบบเป๊ะๆ ถ้าเป็นแก้มลิงธรรมชาติหรือขุดลอกคลองดีกว่า เพราะสามารถรับน้ำได้มากกว่า

สำหรับเรื่องการเยียวยา นายชัชชาติ กล่าวว่า คงต้องดูความเสียหายของบ้านเรือน และใช้ตามหลัก มี 2 ส่วนคือกทม.เยียวยาเอง หรือหากประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ ก็มีส่วนกลางเข้ามาช่วย

ทางด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร, นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม., น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. เขตลาดกระบัง และโฆษก พท., นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม.เขตบึงกุ่ม คันนายาว พรรคพท. และกรรมการบริหารพรรค พท., น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรค รวมทั้งทีม ส.ก. และอดีตผู้สมัคร ส.ก. พรรค พท. พร้อมด้วยสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย ร่วมกันบรรจุถุงยังชีพ ครอบครัวเพื่อไทยร่วมใจช่วยน้ำท่วม ซึ่งบรรจุของใช้จำเป็นสำหรับการอุปโภค บริโภค เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวสาร ขนม ยารักษาโรค น้ำเปล่า รวมกว่า 1,000 ชุด พร้อมทั้งสุขาลอย เพื่อนำไปมอบให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมขัง ผ่านตัวแทน ส.ส.กทม., ส.ก. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในเขตที่ประสบภัยน้ำท่วม

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่มาโดยตลอด รู้สึกเป็นห่วงพี่น้องประชาชนชาว กทม.และทั่วประเทศที่ต้องประสบภาวะยากลำบาก พรรคเพื่อไทยขอส่งความห่วงใยไปถึงคนไทยทุกคน ขอเป็นส่วนเล็กๆ ที่ช่วยแบ่งเบาความทุกข์ 

 น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า น้ำท่วมในพื้นที่ลาดกระบังในขณะนี้สถานการณ์ค่อนข้างหนัก เนื่องจากในพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ การระบายน้ำจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายเพื่อหาทางระบายน้ำออกสู่ประตูระบายน้ำ ที่ผ่านมาได้ขอความร่วมมือไปยังหลายหน่วยงานในการผลักดันน้ำออกจากพื้นที่ โดยได้ส่งหนังสือขอความร่วมมือตามระเบียบของทางราชการ ซึ่งยอมรับว่าล่าช้าไม่ทันท่วงทีกับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

นอกจากนี้ น.ส.ธีรรัตน์ได้โพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์อย่างต่อเนื่องว่า  ประชาชนบอกว่า น้ำท่วมลาดกระบังไม่แปลกหรอก แต่ที่แปลกคือมันท่วมนานเกินไป ทำไมการจัดการถึงล่าช้า ทำไมถึงเอาน้ำมาขังไว้ที่นี่ที่เดียว ไม่คิดถึงจิตใจคนลาดกระบังบ้างหรือ

   นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ส.ก.เขตมีนบุรี พรรคเพื่อไทย และประธานสภา กทม. กล่าวว่า ในวันที่ 14 ก.ย.จะมีเปิดประชุมสภา กทม.สมัยวิสามัญ โดยจะมีการเปิดญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องการบริหารจัดการน้ำท่วมในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่ง ส.ก.ทุกเขตของเพื่อไทยจะมีการอภิปรายถึงปัญหาที่เกิดขึ้น สำหรับพี่น้องประชาชนชาว กทม.ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งเหตุมาได้ที่ที่ทำการของ ส.ก.แต่ละเขตของพรรคเพื่อไทยได้ทันที

วันเดียวกัน นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า พร้อมทีมงาน ยื่นหลักฐานต่อนายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบการแปรญัตติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ของกรุงเทพมหานคร พร้อมหลักฐานเอกสารคำแปรญัตติ เปลี่ยนแปลงงบประมาณ 4,803,793,728 ล้านบาท โดยสภากรุงเทพมหานคร ได้เห็นชอบงบประมาณรายจ่ายที่ผู้บริหารเสนอแปรญัตติเพิ่มเท่ากับจำนวนที่ปรับลด พบว่ามีการเพิ่มงบโครงการสัมมนาพาคนไปเที่ยวในหลายสำนักงานเขตของ กทม.ซึ่งการตรวจสอบเบื้องต้นมีจำนวนถึง 72 โครงการ ใน 26 เขต รวมวงเงินสูงถึง 111,064,450 บาท ซึ่งเป็นรายการที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้ งบในลักษณะที่กระจายตามเขตต่างๆ เพื่อพาประชาชนไปเที่ยวนั้น หลังจากปี 2557 ไม่ปรากฏว่ามีการกระทำดังกล่าว

นายอรรถวิชช์กล่าวว่า ในกรณี กทม.นั้น ถ้าไม่รีบแก้ไขวิธีการงบประมาณ ก็จะเกิดอาการ “เงินชอร์ต” ไม่พอใช้กับการรับวิกฤตใหม่ๆ ทั้งโรคระบาดและน้ำท่วม การที่มายื่นเรื่องให้ สตง. ก็เพื่อให้ตรวจสอบและได้มีคำแนะนำการใช้เงินแผ่นดินที่ถูกต้องกับ กทม.ต่อไป ทั้งนี้ ตนได้รับเรื่องมาจากข้าราชการใน กทม. ที่เขาไม่อยากเซ็นอนุมัติโครงการที่มีแปรญัตติโยกงบมาในลักษณะเหล่านี้ เอกสารที่ออกมาเปิดเผยตอนแรก ประเด็นมันคือ งบท่อระบายน้ำเขตจตุจักรได้แปรญัตติเพิ่มแค่ 3 ล้านบาท ขณะที่โครงการสัมมนาได้เพิ่มเกือบ 10 ล้านบาท ไม่ได้บอกว่าเขตจตุจักรตัดงบท่อระบายน้ำเหลือ 3 ล้านบาท ตามที่มีคนเข้าใจผิดกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง