ตัวเลขว่างงานต่ำสุด นับแต่โควิดระบาด

.vce-row-container .vcv-lozad {display: none}

รัฐบาลเผยสถานการณ์ว่างงานของไทยดีขึ้น สอดคล้องการฟื้นตัวเศรษฐกิจ สำนักงานสถิติฯ เผยข้อมูล ก.ค.65 มีผู้ว่างงาน 5.14 แสนคน ต่ำที่สุดนับแต่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ขณะที่ต่างชาติเดินหน้าลงทุนในไทยต่อเนื่อง ล่าสุด “โซนี่ พิคเจอร์ส” ทุ่มงบพันล้านสร้างธีมพาร์คแห่งแรกของโลกที่พัทยา แนะผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐขั้นแรกไม่สมบูรณ์ รอตรวจสอบสถานะได้อีกครั้ง 20 ก.ย.นี้

เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์การมีงานทำและการว่างงานของกำลังแรงงานในประเทศโดยต่อเนื่อง  เพื่อประกอบการพิจารณาการดำเนินนโยบายและมีมาตรการที่เหมาะสม โดยพบว่าภาวะการมีงานทำและการว่างงานในภาพรวมยังคงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่แต่ละภาคส่วนฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามลำดับ

ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติได้รายงานสถานการณ์ผู้มีงานทำล่าสุด ณ เดือน ก.ค.65 ว่าจากประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปทั้งหมด 58.64 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้อยู่นอกกำลังแรงงาน 16.63 ล้านคน (เช่น อยู่ระหว่างการศึกษา หรือเป็นผู้พิการทุพพลภาพ) และอยู่ในกำลังแรงงาน 40.01 ล้านคน ซึ่งในกลุ่มนี้เป็นผู้มีงานทำ 39.48 ล้านคน ว่างงาน 5.14 แสนคน และรอฤดูกาลอีก 2 หมื่นคน

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า การว่างงานในเดือน ก.ค. ที่ 5.14 แสนคน หรือร้อยละ 1.3 ของผู้อยู่ในกำลังแรงงาน ปรับตัวลดลงจาก 5.80 แสนคน หรือร้อยละ 1.4 ในเดือน มิ.ย.65 และนับเป็นจำนวนผู้ว่างงานและอัตราการว่างงานที่ต่ำที่สุดนับแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ซึ่งมีผู้ว่างงานสูงสุดที่ 8.70 แสนคน หรือร้อยละ 2.25 ในไตรมาสที่ 3/64

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาในรายละเอียดชั่วโมงทำงานของผู้มีงานทำต่อสัปดาห์ในเดือน ก.ค. ก็พบว่ามีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มที่แรงงานจะมีรายได้จากการทำงานมากขึ้นด้วย โดยข้อมูลล่าสุดก็พบว่ากลุ่มผู้ทำงานตั้งแต่ 35-49 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีจำนวน 26.80 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 26.75 ล้านคนในเดือน มิ.ย. ขณะที่ผู้มีงานทำ 50 ชั่วโมงขึ้นไปต่อสัปดาห์มีจำนวน 7.01 ล้านคน เพิ่มจาก 6.52 ล้านคนในเดือนมิ.ย.65 สำหรับผู้ทำงานน้อยกว่า 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีจำนวน 5.67 ล้านคน ลดลงจาก 6.63 ล้านคนในเดือน มิ.ย.

“รัฐบาลไม่เพียงติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ได้ติดตามภาวะการมีงานทำหรือการว่างงานของประชาชนในภาพรวม เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการต่างๆ จากทุกหน่วยงาน เช่น การออกโครงการให้ผู้ประกอบการคงการจ้างงาน การมีมาตรการจ้างงานของหน่วยงานต่างๆ นั้นเกิดประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งขณะนี้ทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การกลับมามีงานทำของประชาชน เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล” น.ส.ไตรศุลีกล่าว

ขอรับส่งเสริม 217 โครงการ

ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากมาตรการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล และปัจจัยสนับสนุนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของภาคเอกชน ทั้งการฟื้นตัวในภาคบริการและการขยายตัวต่อเนื่องในภาคการผลิต ภายหลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้การลงทุนในช่วง 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.) ปี 2565 ที่ผ่านมา มีโครงการขอรับส่งเสริมการลงทุน 784 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4% และมูลค่ารวม 2.19 แสนล้านบาท

น.ส.รัชดากล่าวถึงพื้นที่เป้าหมาย EEC มีการขอรับส่งเสริมจำนวน 217 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 1 แสนล้านบาท โดยจังหวัดระยอง มีโครงการขอรับส่งเสริมการลงทุนที่มีมูลค่าเงินสูงสุด 85,500 ล้านบาท จาก 86 โครงการ รองลงมาคือ จังหวัดชลบุรี มูลค่าเงินลงทุน 16,690 ล้านบาท จาก 110 โครงการ และจังหวัดฉะเชิงเทรา มูลค่าเงินลงทุน 2,660 ล้านบาท จาก 21 โครงการ และล่าสุด บริษัท โซนี่ พิคเจอร์สฯ เดินหน้าลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ลุยสร้างโครงการ “โคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส” มูฟวี่ ธีม พาร์ค ไทยแลนด์ ณ พัทยา ภายใต้การสนับสนุนของ EEC ซึ่งถือเป็นโปรเจ็กต์สวนสนุกแห่งแรกของโซนี่ พิคเจอร์ส และเป็นที่แรกของประเทศไทยและของโลก

โดยโครงการดังกล่าว เป็นสวนสนุกและสวนน้ำในธีมภาพยนตร์ระดับโลก เปิดบนพื้นที่ 100 ไร่ (8 ธีม) เช่น การแสดงไลฟ์โชว์ ความบันเทิงในโลกเสมือนจริง อุปกรณ์เครื่องเล่นอินเตอร์แอคทีฟ ฉากในสวนสนุกที่ออกแบบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ ร้านอาหารอร่อยที่ตกแต่งหลากหลายตามธีมภาพยนตร์ และร้านขายของที่ระลึก คาดจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ เฟสแรก 12 ตุลาคม 2565 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 10,000 ล้านบาท การจ้างงานและสร้างรายได้โดยตรงให้คนไทยไม่ต่ำกว่า 1,000 คน

รองโฆษกรัฐบาลกล่าวว่า การที่โซนี่  พิคเจอร์ส เลือกประเทศไทยเป็นที่แรกของการลงทุนด้านสวนสนุก สิ่งที่สำคัญมาจากศักยภาพของประเทศไทยและของพัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่รู้จักกันทั่วโลก อีกทั้งยังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเที่ยวได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยโซนี่ พิคเจอร์ส จะทำการประชาสัมพันธ์ผ่านสำนักงาน 80 ประเทศทั่วโลก เพื่อสร้างการรับรู้รวมถึงผนึกความร่วมมือกับสายการบิน เอเยนต์การท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่มีสำนักงานทั่วโลก เพิ่มพลังการทำตลาดดึงกลุ่มเป้าหมายมาท่องเที่ยวประเทศไทย ส่งผลต่อรายได้ทั้งด้านการท่องเที่ยว การจ้างงานในประเทศเป็นจำนวนมาก

“รัฐบาลพร้อมเดินหน้าสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทย รวมถึงอำนวยความสะดวกให้กับนักธุรกิจและนักลงทุนในการเข้าประเทศได้ง่ายขึ้น ด้วยศักยภาพและการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่ให้สิทธิพิเศษแก่นักลงทุนต่างชาติ ให้เข้ามาตั้งฐานธุรกิจในประเทศ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนตัดสินใจมาลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง นำไปสุดการจ้าง สร้างรายได้เพิ่มขึ้น” น.ส.รัชดากล่าว

รอตรวจสอบสถานะ 20 ก.ย.

ขณะที่ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังประกาศผลการตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 รอบแรกเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ผ่านการตรวจสอบข้อมูลจากกรมการปกครองจำนวน 4,282,429 ราย จากข้อมูลผู้ที่ลงทะเบียนในระหว่างวันที่ 5-8 กันยายนที่ผ่านมาทั้งหมด 5,246,699 ราย โดยผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบสถานะแล้วจะพบข้อความว่า “สถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์” ขอให้รอผลการตรวจสอบคุณสมบัติในช่วงเดือนมกราคม 2566 ต่อไป

น.ส.ทิพานันกล่าวว่า สำหรับผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านอีก 964,270 ราย ที่พบข้อความว่า “สถานการณ์ลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” ซึ่งอาจเกิดจากข้อมูลไม่ตรงกับฐานข้อมูลของกรมการปกครอง ระบบจะขึ้นข้อความระบุสาเหตุของการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์  เช่น ข้อความว่า “การลงทะเบียนไม่สมบูรณ์เนื่องจากตรวจสอบกับฐานข้อมูลกรมการปกครองแล้วพบว่าผู้ลงทะเบียนมีคู่สมรส” แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าคู่สมรสของผู้ลงทะเบียนเสียชีวิต และมีใบมรณบัตรของคู่สมรสแล้ว หรือพบข้อความว่า “การลงทะเบียนไม่สมบูรณ์" เนื่องจากตรวจสอบกับฐานข้อมูลกรมการปกครองแล้วพบว่าผู้ลงทะเบียนแจ้งจำนวนบุตรไม่ครบถ้วน โปรดตรวจสอบจำนวนบุตร และข้อมูลเลขบัตรประชาชนของทุกราย” แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าบุตรของผู้ลงทะเบียนมีอายุเกิน 18 ปีบริบูรณ์แล้ว เป็นต้น หากพบข้อความในลักษณะดังกล่าว ขอให้ผู้ลงทะเบียนตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนอีกครั้ง ในวันอังคารที่ 20 กันยายน 2565 เป็นต้นไป ตั้งแต่ เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป หากยังพบ "การลงทะเบียนไม่สมบูรณ์" ให้ติดต่อแก้ไขก่อนวันที่ 3 พ.ย. 2565 ที่จุดลงทะเบียนเดิมที่ลงไป ส่วนที่ลงทางออนไลน์ให้ไปจุดลงทะเบียนใดก็ได้ที่ท่านสะดวก

น.ส.ทิพานันกล่าวอีกว่า ขณะนี้มีคำถามเรื่องผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ จะนับอย่างไรนั้น ให้นับถึงวันสุดท้ายที่เปิดรับลงทะเบียนคือ 19 ตุลาคม 2565 ส่วนในกรณีหากผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว แต่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสหรือบุตรให้มาลงทะเบียนที่จุดรับลงทะเบียนหรือลงลายมือชื่อในเอกสารได้ต้องดำเนินการอย่างไร ตรงนี้ตามกติกาตอนนี้ ในกรณีคู่สมรสที่จดทะเบียนและ/หรือบุตรที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องลงนามทุกคนให้ครบถ้วน แต่หากคู่สมรสไม่สะดวกเดินทางมายื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนพร้อมกับผู้ลงทะเบียน ให้ขอสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและ/หรือบุตร พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง แล้วมายื่นแทนได้ ทั้งนี้ ในปัจจุบันท่านที่ถือบัตรสวัสดิแห่งรัฐยังสามารถใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามปกติ จนกว่าจะมีการประกาศสิทธิและยืนยันสิทธิรอบใหม่ในช่วงเดือนมกราคม 2566.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

14 พ.ค.ได้ลุ้น คกก.ค่าจ้างฯ ถกค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ

'คารม' ย้ำขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ พิจารณาอย่างเหมาะสมและรอบคอบ เผย 14 พ.ค.นี้ คกก.ค่าจ้างฯ เตรียมประชุมพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ

รัฐบาลกวักมือเรียกผู้กู้ กยศ.ที่ถูกดำเนินคดีเร่งปรับโครงสร้างหนี้ด่วน!

รัฐบาลเชิญชวน ผู้กู้ยืม กยศ. ถูกดำเนินคดีในปี 2557 ที่ยังมีภาระหนี้ค้าง เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อขยายระยะเวลาชำระหนี้ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน

ไฟเขียวเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ ไม่ถือเป็นวันลา!

รัฐบาลร่วมแสดงความจงรักภักดี และถวายพระราชกุศล เห็นชอบให้รัฐวิสาหกิจ ลาเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ โดยไม่ถือเป็นวันลา

รัฐบาลห่วงยอดโควิดพุ่ง แต่ขอให้มั่นใจโรงพยาบาลพร้อมรับมือ!

'เกณิกา' เผยรัฐบาลห่วงใยยอดโควิดยังพุ่งหลังสงกรานต์ ขอให้ประชาชนมั่นใจโรงพยาบาลทุกแห่งมีความพร้อมรับมือผู้ป่วยโควิด แนะใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่แออัด รีบตรวจ ATK หากมีอาการคล้ายหวัด