หลังจาก “มนตรี เดชาสกุลสม” เข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) คนที่ 11 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มอบนโยบายการดำเนินงานให้แก่บุคลากรกรมทางหลวงชนบท เพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และถือปฏิบัติตามแนวนโยบายในการเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายทางหลวงชนบท พร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมในการดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่ง พัฒนาระบบการให้บริการที่สร้างโอกาสและการเข้าถึงให้กับประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ตามนโยบาย “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย”
ภารกิจหลักจะมุ่งเน้นเชื่อมโยงโครงข่ายถนนหลักและถนนท้องถิ่นให้มีความสมบูรณ์ โดยเฉพาะการทำถนนเพื่อเข้าสู่ชุมชน อำเภอ และหมู่บ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชน นอกจากนี้จะเข้าไปรับมอบถนนของท้องถิ่นที่อยู่นอกเหนือการดูแลของกรมทางหลวงชนบทกว่า 1 หมื่นกิโลเมตร (กม.) มาดูแลรักษาเอง เพื่อพัฒนาถนนให้ได้มาตรฐานทั้งหมด โดยจะทยอยรับมอบตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป
โดย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ได้มอบนโยบายภารกิจเร่งด่วนของกรมทางหลวงชนบท เช่น เตรียมการรับมือ เผชิญเหตุอุทกภัย ให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ภูมิภาคที่มีลำน้ำผ่านในพื้นที่และมีโอกาสที่จะท่วมเส้นทาง เตรียมวางแผนจัดทำ Bigbag ถุงทราย และจัดเตรียมทรายเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน เดินหน้าตรวจสอบพื้นที่ที่มีดินโคลนถล่มทับเส้นทาง เพื่อปรับปรุงป้องกันในปีต่อไป
อธิบดี กล่าวว่า จะเดินหน้าสำรวจสะพานและคอสะพานที่มีระดับ หากมีความจำเป็นต้องยกสูงขึ้นเพื่อให้พ้นระดับน้ำสูงสุด เตรียมสำรวจออกแบบ เสนอแผนปรับปรุงแก้ไข หากมีความจำเป็นต้องยกสูงขึ้น เพื่อให้พ้นระดับน้ำสูงสุด ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซากในปีต่อไป พร้อมทั้งเพิ่มคุณภาพการให้บริการประชาชนด้านความปลอดภัย โดยปรับปรุงการมองเห็น ทั้งป้ายจราจรและสีตีเส้น ทั้งกลางวันและกลางคืน รวมถึงสภาพผิวทาง เข้มงวดเรื่องความปลอดภัยระหว่างก่อสร้าง และการบริหารการจราจรไม่ให้เกิดการติดขัดในบริเวณพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง
ขณะเดียวกัน จะเข้มงวดเรื่องการบริหารจัดการในการส่งมอบพื้นที่และการควบคุมงานก่อสร้างให้แล้วเสร็จตรงตามเวลาที่ระบุในสัญญา จัดลำดับความสำคัญของการรับมอบ คืนถนนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามประโยชน์ที่จะเกิดกับโครงข่ายของกรมทางหลวงชนบทเป็นสำคัญ เดินหน้าตรวจสอบโครงข่ายถนนของกรมทางหลวงชนบท เพื่อสนับสนุนการขนส่งสินค้า ผลิตภัณฑ์ โครงการพระราชดำริ เพื่อเชื่อมต่อกับโครงข่ายถนนของกรมทางหลวงไปสู่ตลาด ให้สะดวก รวดเร็ว
นอกจากนี้ ได้วางแผนโครงข่ายทางหลวงชนบทให้รองรับเสริมกับโครงข่ายถนนสายหลักของกรมทางหลวง และโครงข่ายถนนท้องถิ่นให้เหมาะสม พร้อมทั้งเร่งรัดเบิกจ่ายให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล กระทรวงคมนาคม ทุกโครงการต้องลงนามก่อนสิ้นไตรมาสแรก มีเกณฑ์ตัวชี้วัด เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาทางแยก และบริเวณที่เป็นคอขวดให้มีความปลอดภัย และไม่สร้างปัญหาการจราจร พิจารณาทบทวนกฎหมายของตนเองให้มีความทันสมัย ยืดหยุ่น ส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม และรองรับเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในอนาคต หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงให้เร่งนำเสนอทันที ขณะเดียวกันได้ให้ความสำคัญกับการสื่อสารให้ข้อมูลกับพี่น้องประชาชนในทุกช่องทาง เพื่อให้สาธารณะเข้าใจถึงภารกิจและผลงานของกระทรวงคมนาคม
อธิบดี กล่าวว่า มีความตั้งใจที่จะพัฒนาถนนลูกรังที่ยังมีอยู่ในประเทศไทยอีกประมาณ 557 กม. ให้เป็นถนนคอนกรีตทั้งหมดด้วย ซึ่งที่ผ่านมากรมทางหลวงชนบทได้เร่งดำเนินการมาโดยตลอด เพื่อให้ถนนที่อยู่ภายใต้การดูแลของกรมทางหลวงชนบท ประมาณ 50,233 กม. ปลอดถนนลูกรัง ทั้งนี้ถนนลูกรังที่ยังเหลืออยู่ประมาณ 557 กม. ส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าไม้ ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ส่วนการขยายถนนจาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร มีอยู่ในแผนดำเนินงาน แต่มองว่าอาจไม่จำเป็นต้องขยายทุกเส้นทั่วประเทศไทย ควรจะพิจารณาเส้นทางที่มีความจำเป็นเป็นหลัก อาทิ มีความหนาแน่นของปริมาณจราจร เป็นต้น
อธิบดีกล่าวทิ้งท้ายว่า จะเดินหน้าส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายด้านการท่องเที่ยวให้เป็นไปตามนโยบายหลักของรัฐบาล โดยการพัฒนาเส้นทางเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของประเทศ อาทิ Thailand Riviera เป็นต้น รวมถึงพัฒนาเส้นทางสนับสนุนการค้าชายแดน ให้โครงข่ายทางหลวงชนบทเชื่อมต่อเป็นโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่มีความสมบูรณ์ โดยขอให้มีความเป็นหนึ่งเดียว รักและสามัคคีต่อกัน ร่วมพัฒนา และผลักดันกรมทางหลวงชนบทให้เติบโตขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้การเดินทางมีความสะดวกรวดเร็ว และปลอดภัย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชูภารกิจปั้น“กรมธนารักษ์”ยุคใหม่! เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ปั๊มMaster Planยกระดับทรัพย์สินรัฐ
“กรมธนารักษ์” ถือเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ที่มีภารกิจสำคัญทั้งในเรื่องการปกครอง ดูแล บำรุงรักษา ให้ใช้ จัดประโยชน์ และพัฒนาที่ราชพัสดุตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุ
“กุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา”พลิกฟื้นรถเมล์ไทย เปลี่ยนถ่ายยุคสันดาปสู่พลังงานสะอาดลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
คงต้องบอกว่าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หลายๆ ท่านคงได้หยุดพักผ่อนกัน แต่สำหรับไทยโพสต์ยังคงไม่หยุดที่จะหาสาระดีๆ มาเล่าสู่กันฟัง
‘วรวุฒิ กิตติอุดม’เพราะกล้าที่จะก้าวจากComfort Zone เดินหน้าหาโอกาสทางธุรกิจในวงการอสังหาฯ
หากพูดถึงนักธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและสามารถพลิกโฉมอุตสาหกรรมได้ “นายวรวุฒิ กิตติอุดม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โลนด์ ดีดี จำกัด (LOAN DD) คือหนึ่งในบุคคลที่ต้องจับตามอง
เปิดแนวคิด‘สอน.’ปรับพันธุ์อ้อย เพิ่มประสิทธิภาพ‘ลดเผา ลดฝุ่น!’
“ฝุ่นพิษ” หรือ PM2.5 ในช่วง 4-5 ปีก่อนคนอาจจะมองเป็นเรื่องเล็กน้อย และยังไม่ค่อยให้ความสนใจ แถมใช้ชีวิตกันอย่างปกติ แต่ในปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันสถานการณ์เรื่องฝุ่นโหมหนักขึ้น จนสร้างผลกระทบหนักให้กับการใช้ชีวิตของคนในสังคมอย่าง
ปักหมุดเช็กอิน “บนสะพานทศมราชัน” “สุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข” ชวนเที่ยวงานมหกรรมสุขเต็มสิบ
กลายเป็นกระแสที่ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวาง สำหรับ “มหกรรมสุขเต็มสิบ” งานใหญ่แห่งปีที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเปิดสะพานทศมราชัน โดย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)
“นายธนชัย ชัยกิตติวนิช”พลิกโฉม“สมูทอี” ชูนวัตกรรมตอบโจทย์รุกคืบตลาดเวชสำอาง
คงต้องยอมรับว่า “สมูทอี” เป็น Medical Skincare หรือแบรนด์เวชสำอางที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทยมากว่า 30 ปี โดยผลิตภัณฑ์สมูทอีวางจำหน่ายในเมืองไทยเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.1991