ถ้าไม่ใช่รัฐบาลประยุทธ์

ห่างหายจากการบ้านการเมืองไปหลายวัน มัวแต่ไปส่องแถวๆ ยูเครน

กลับมาอีกที ฝ่ายค้านฟิตจัด!

เมื่อวันอาทิตย์ เขาจัด ปาฐกถาพิเศษ โครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ภายใต้ชื่อ "ฝ่ายค้านรับฟังปัญหาทั่วไทย เพื่อประชาชน"

ภายนอกก็หรูอยู่นะ แต่เนื้อในคือเนื้อหาเดิม

อยากเปลี่ยนรัฐบาล

สรุปสาระ จะไม่ยอมให้รัฐบาลประยุทธ์อยู่เกินสิงหาคมนี้

นายกฯ จะอยู่เกิน ๘ ปีไม่ได้

ชลน่าน ศรีแก้ว บอกว่า

...หมดเวลานายกฯ ก่อนประเทศจะหมดเวลา คำพูดนี้จะไม่ศักดิ์สิทธิ์หากรัฐบาลชุดนี้ ดูแลประเทศอย่างดียิ่ง ถ้าทุกคนมีความสุข เราต้องสนับสนุนให้เขาอยู่ครบวาระ แต่สิ่งที่เราประสบคือ ความทุกข์ยากทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น วิกฤตโรคระบาดโควิด เศรษฐกิจ หนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลก่อขึ้น...

วิเคราะห์คำพูดนี้ หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ตั้งแต่ต้นปี  ๒๕๖๒ ประเทศไทยจะเดินไปทางไหน ภายใต้วิกฤตโควิด-๑๙ และล่าสุด สงครามรัสเซีย-ยูเครน

เพื่อไทย และ ก้าวไกล (อนาคตใหม่) คัดค้านการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาสกัดการระบาดของโควิด-๑๙ ตั้งแต่แรก

เพื่อไทย และ ก้าวไกล คงไม่ทำสัญญากับ AstraZeneca ให้สยามไบโอไซเอนซ์ ผลิตวัคซีน 

และไม่ซื้อวัคซีนจีนอย่าง Sinovac หรือ Sinopharm

แต่จะรอซื้อวัคซีนเทพ mRNA อย่าง Pfizer และ  Moderna เท่านั้น

วัคซีนเข็มแรกที่ฉีด ไม่ใช่เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ แต่จะเป็นเดือนกรกฎาคมไปแล้ว เพราะประเทศนอกยุโรป  อเมริกา ได้ Pfizer มาฉีดช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๖๔ แทบทั้งสิ้น

เคยมีคำตอบจาก เพื่อไทย ก้าวไกล ในการระบาดช่วงแรกๆ ว่า สามารถใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ สั่งห้ามดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาแรง

เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน

ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดการป้องกันโควิด และนโยบายเรื่องวัคซีน ๒ พรรคการเมืองนี้ต่างมั่้นใจ แนวคิดของตัวเองเหนือกว่ารัฐบาลประยุทธ์

ทั้งๆ ที่แนวคิดการป้องกันของ ทั้ง ๒ พรรคลอกมาจากฝั่งยุโรป ที่หลายประเทศเคยติดเชื้อพุ่งหลักแสนคนต่อวัน        

และขณะนี้บางประเทศยังคงมีผู้ป่วยรายวันพุ่งระดับ  ๒ แสนคนต่อวัน เช่น เยอรมนี

หลายครั้งที่เราเห็นตรรกะป่วย จากกลุ่มผู้สนับสนุนฝ่ายค้าน 

เช่น ดีใจแทนชาวยุโรป ที่มีเสรีภาพไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยแล้ว พร้อมค่อนแคะไทยยังบังคับทุกอย่าง เพราะเป็นรัฐเผด็จการ

การสรุปว่า เศรษฐกิจ หนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลก่อขึ้น ดูจะตื้นเขินไปหน่อย เพราะภายใต้วิกฤตโรคระบาดครั้งใหญ่นี้ แทบทุกประเทศทั่วโลกล้วนเจอปัญหาเดียวกัน

หนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น

เมื่อซ้ำเติมด้วยสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ก็ต้องคูณสองเข้าไป

น้ำมันแพง ฉุดทุกอย่างให้เลวร้ายลงอีก

ความเลวร้ายของสถานการณ์ในปัจจุบันที่ฉุดให้เศรษฐกิจทั่วโลกร่วงนั้น หากเทียบกับสิ่งที่รัฐบาลในอดีตเจอ มันต่างราวฟ้ากับเหว

เป็นความซวยของรัฐบาลทั่วโลกที่ต้องมาเจอการระบาดของโควิด-๑๙ กับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ในคราวเดียวกัน

ต้นปี ๒๕๕๗ ช่วงปลายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  ไทยเผชิญกับวิกฤตราคาน้ำมัน

ขณะนั้นราคาน้ำมันดีเซล ๒๙.๙๙ บาทต่อลิตร และราคาน้ำมันเบนซินสูงสุดที่ ๔๙.๑๕ บาทต่อลิตร ซึ่งถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์

สาเหตุน้ำมันแพงช่วงปี ๒๕๕๖-๒๕๕๗ ส่วนใหญ่มาจากประเด็น "ความกังวล" 

เศรษฐกิจยุโรปที่มีปัญหายืดเยื้อ

เลือกตั้งครั้งแรกของอิตาลีล้มเหลวและไม่มีใครสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้สำเร็จ

ธนาคารใหญ่อันดับที่ ๒ ของไซปรัส ต้องเผชิญกับภาวะล้มละลาย

เศรษฐกิจจีนก็ไม่เป็นไปดังคาด

ความไม่ลงรอยกันบนคาบสมุทรเกาหลี

ความขัดแย้งของประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ได้แก่ อิหร่าน, ซูดาน-ซูดานใต้, ลิเบีย,  อียิปต์ และไนจีเรีย

จะพบว่าสาเหตุล้วนเป็นเรื่องของความกังวล ดันราคาน้ำดิบขึ้นไปเกิน ๑๐๐ เหรียญต่อบาร์เรล

แต่เที่ยวนี้ต่างออกไป

น้ำมันแพงคราวนี้เกิดจากสงคราม

และซ้ำเติมด้วย การใช้อุตสาหกรรมพลังงานเป็นเครื่องมือในการทำสงคราม

ฉะนั้นวิธีการจัดการด้านพลังงานจึงแตกต่างไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง

รัฐบาลทั่วโลกใช้เงินสู้กับโควิด-๑๙ ไปเยอะ รัฐบาลไทยก็ตกอยู่ในสถานการณ์นี้

ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องหาแหล่งเงินมาเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และภาษีสรรพสามิตน้ำมันคือรายได้ก้อนโต

ฝ่ายค้านเรียกร้องให้รัฐบาลงด หรือลด การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ก็เป็นคำถามตัวโตๆ ว่า แล้วรัฐบาลจะหารายได้จากไหน

ลองไล่เลียงตั้งแต่ต้นดูนะครับ

หาก เพื่อไทย-ก้าวไกล เป็นรัฐบาลตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๒

ทันทีที่เจอการระบาดของโควิด-๑๙ ไม่มีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อห้ามการเคลื่อนไหวของประชาชน เพราะประชาชนคือพาหะของโรค

 ไม่มีการเคอร์ฟิว ปล่อยเสรี ๒๔ ชั่วโมง

รอวัคซีนเทพ ได้ฉีดครึ่งปีหลังปี ๒๕๖๓ ซึ่งแน่นอนว่าจนถึงขณะนี้ยังฉีดวัคซีนกันไปไม่เท่าไหร่

เมื่อเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน รัฐบาลเพื่อไทย-ก้าวไกล ก็ประณามรัสเซีย พร้อมเรียกร้องถอนทหารออกจากยูเครน

ไปพร้อมๆ กับถูกรัสเซียกาหัว เหมือนที่ทำกับสิงคโปร์

เมื่อน้ำมันแพง รัฐบาลเพื่อไทย-ก้าวไกล ประกาศงดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน โดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้น้ำมันราคาถูก

นั่นจะทำให้ราคาน้ำมันในภาพรวม ไทยจะถูกกว่าหลายชาติในอาเซียน

ในทางกลับกัน รัฐบาลต้องกู้เงินเพื่อใช้หนี้กองทุนน้ำมัน และเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ตัวเลขเป็นแสนล้านแน่นอน

กองเชียร์ฝ่ายค้านอาจบอกว่าก็ดีแล้วรัฐเป็นหนี้แทนประชาชน

แต่ในข้อเท็จจริงหนี้รัฐบาลคือหนี้ของประชาชน

ในอดีตรัฐบาลเก็บภาษีน้ำมันโดยเฉลี่ยในอัตราที่แพง  แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ยุครัฐบาลประชานิยม เริ่มตั้งแต่รัฐบาลทักษิณ ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันไปแทรกแซงราคา ทำให้โครงสร้างราคาบิดเบือน

กองทุนน้ำมันติดลบ ๘ หมื่นล้านบาท 

มาถึงรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ต้องเข้าไปล้างหนี้ให้กองทุนน้ำมัน

บางช่วงเวลาจึงเห็นได้ว่า ทั่วโลกเริ่มใช้น้ำมันถูกลง  แต่ไทยยังต้องใช้น้ำมันแพงต่อไป เพราะต้องเอาเงินเติมกลับเข้าไปในกองทุนน้ำมัน

และไฮไลต์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา "ชลน่าน ศรีแก้ว"  ยอมรับกลายๆ ว่า "อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร" จะมีชื่ออยู่ในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย

โชคดีประเทศไทย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตายหมู่ไปกับ 'ดิจิทัลวอลเล็ต'

ในที่สุดก็ชัดเจน ถือเป็นความรับผิดร่วมกันของคณะรัฐมนตรี โดยมิอาจมีใครปฏิเสธในภายหลังได้เลยว่า ไม่มีส่วนรับรู้กับนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ให้ประชาชนหัวละ ๑ หมื่นบาท ด้วยงบประมาณกว่า ๕ แสนล้านบาท

มันมากับความเงียบ

งานเลี้ยงใกล้เลิกรา... สมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบันจะหมดวาระลงเดือนพฤษภาคมนี้แล้วครับ

แผนแทรกแซงกองทัพ

ก็ยังไม่เห็นว่าหน้าตาชัดๆ เป็นอย่างไร หมายถึงกฎหมายต้านการปฏิวัติรัฐประหารครับ

ประชาธิปไตยแบบไทยๆ

นักการเมืองคนไหนที่บอกว่า "รวยพอแล้ว" อย่าไปเชื่อ เพราะถ้าพอจะไม่แสวงอำนาจการเมือง

นายทุนก้าวไกล

เริ่มต้นด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ วานนี้ (๑๗ เมษายน) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปยอดเงินบริจาคของพรรคการเมือง ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ทั้งสิ้น ๑๓ พรรคการเมือง