อินเทรนด์ 'เรื่องพระ'

คนไทยมีหลายอาชีพ

อาชีพที่ "ขึ้นจอ-ขึ้นเฟซ" มากที่สุดยุคนี้ เห็นจะไม่มีอาชีพไหนเกิน

อาชีพ "ล่าพระ"!          

แต่ละวัน จึงเห็นสหอาชีพ "สื่อและกระสือ" ออกหากินทาง "ล่าพระ" เป็นที่สนุกสนาน ทั้งคนล่าและคนดู

ช่วงนี้ ขี้เกียจไถเฟซ เพราะไถไปทางไหน เจอแต่สองผัวเมียหมอผีอัปรีย์สีกบาล ยึดครองพื้นที่เฟซหมด

โบราณว่า "รู้หน้า-ไม่รู้ใจ"

ไม่จริงหรอก ผมเห็นหน้าไอ้หมอผีตัวนี้มาหลายปีแล้วจากสื่อปั้น เห็นหน้า หน้ามันบอกสันดานทะลุดากไปถึงใจ เมื่อรู้ว่าขี้ ก็ไม่อยากแตะมานานแสนนาน

ถึงวันนี้ ก็ไม่อยากแตะให้เป็นเสนียดนิ้่วจิ้มอักษรชื่อ  มันถึงยุค "ยมทูตใต้พิภพ" ล้างคนบาป-คนชั่วแล้ว ตอนนี้่

ฉะนั้น ให้เป็นไป "ตามทางใคร-ทางมัน"
สังเกตให้ดี ช่วงปี-สองปีหลังนี้ มฤตยูเร่งทำหน้าที่กวาดล้าง "คนบาป-คนชั่ว" ไปจากโลก-จากแผ่นดิน มากกว่าปกติ

และก่อนสิ้นกรกฎา....ระวังกันให้ดี

โดยเฉพาะพวกอัปรีย์-จัญไร อสัตย์-คิดไม่ซื่อ ต่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ ยมทูตใต้พิภพ จะกระตุกฉาก ลากคอ "คืนนรก"

แล้วอย่ามาว่า "รู้แล้วไม่บอก" ก็แล้วกัน เพราะนี่ เท่ากับ "ผมเตือนคุณแล้ว" นะ

อ้อ...นัก "กินบ้าน-กินเมือง" ด้วย!

ผมก็ไม่ใช่คนดีนะ บอกให้รู้ก่อน เลวก็เยอะ แต่ไม่ถึงขั้นนรกเหลียว ตอนเป็นเด็กวัด ชาวบ้านเอาหมา-แมว มาปล่อยวัดเป็นร้อย

แต่ละตัวที่มา ขี้เรื้อนเขลอะ ขี้เหร่ อัปลักษณ์ ตรงใบหน้าและหู ทั้งขี้เรื้อน ทั้งเห็บเกาะหนาตึ้บ เรียกว่า "หมาไม่ดี" เขาจึงเอามาปล่อยวัด

อย่างหมาพันธุ์ดี ที่ว่าพันธุ์บางแก้ว หรือหมาพันธุ์ฝรั่ง ซื้อขายกันตัวละหลายสตางค์ ไม่เคยมีใครเขามาปล่อยซักตัว!

ดังนั้น คำว่า "ไอ้หมาวัด"

หมายถึง "เดนหมา-หมาเหลือเดน" ที่บ้านเหลือระอา จึงเอามาปล่อยวัด

ย้อนดูคนที่เข้ามาอาศัยผ้าเหลืองคลุมกายบางกลุ่ม-บางพวกทุกวันนี้ จะเข้าลักษณะนั้น

คือ ลูกหลานชาวบ้าน ที่มีการศึกษาดี อบรมบ่มเพาะมาดี พ่อแม่หรือทางบ้าน จะไม่ยอมให้บวช

หรือให้บวช ก็บวชตามประเพณี อย่างสูง ๑ พรรษา  คือ ๓ เดือน แต่โดยมาก แค่ ๗-๑๕ วัน ก็ให้ลาสิกขาแล้ว

ขณะเดียวกัน คนเกะกะ-เกเร คนหยาบช้า-สามานย์  คนไม่มีอาชีพ คนติดยา คนพิการ คนแก่ชรา ทำงานการไม่ไหว

ทางครอบครัว ก็ผลักไส ไล่บวชเป็นพระ หรือตัวเองหมดท่า-หมดทาง ไม่รู้จะหากินอย่างไร ก็ไปขอบวช

คนมั่ง-คนมีก็เถอะ.......

พอมีทุกข์ มีปัญหา มีคดีความ เคว้งคว้าง ควานหาที่เกาะ ที่พึ่ง-ที่พิงไม่ได้ ก็ "บวชเป็นพระ" นั่นแหละ เป็นสรณะของคนบาป

เนี่ย....

จริงที่เป็นอยู่ของสังคมไทยใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา มันเป็นอย่างนี้

คนดี ไม่มาบวช บวชก็พอเป็นพิธี แล้วรีบลาสิกขา

มีแต่คนไม่ดี เข้ามาบวชแบบยึดเป็นอาชีพ

ถ้าบวชแล้ว "ใช้พระธรรม" กลับตัว-กลับใจได้ ก็นับว่าเป็นบุญ ทั้งพระศาสนาและทั้งตัวเอง

แต่นี่ไม่งั้น......

ใช้ผ้าเหลืองคลุมกาย ไม่ศึกษา ไม่ปฏิบัติ ข้างนอกเป็นพระ เนื้อในเป็นโจร

มันก็ไม่ต่างกับหมาเหลือเดน ที่เรียก "หมาวัด"

คนไม่ดีเข้ามาอาศัยผ้าเหลือง ก็คือ "เดนคน" ในคราบ "โจรผ้าเหลือง" นั่นแหละ

เมื่อมีอาชีพ "บวชหากิน"

มันก็เลยมีสื่อ-มีหมอผี "ล่าพระ" สร้างเรตติง เรียกยอดไลก์-ยอดแชร์ เป็นอาชีพหากินตามมา!

แต่พูดกันอีกที........

ถ้าพระอุปัชฌาย์เคร่งครัดในกฎคัดกรอง ว่าคนไหนมีคุณสมบัติบวชได้-บวชไม่ได้ ซึ่งกฎมีอยู่แล้ว ทั้งทางพระวินัยและทั้งทางกฎคณะสงฆ์

เรื่อง "เดนคน" เข้ามาซุกผ้าเหลือง ก็จะเกิดได้ยาก

เอากันง่ายๆ อย่างนี้ก็ได้.......

ถ้ามีพระรูปไหนประพฤตินอกรีต-นอกรอย ถูกจับได้  ให้สาวหาพระอุปัชฌาย์ ผู้มีหน้าที่อบรมสั่งสอน แต่กลับไม่ดูแล ปล่อยให้ประพฤตินอกพระธรรมวินัย

ถอดตราตั้งการเป็นพระอุปัชฌาย์องค์นั้นไปเลย!

หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง ท่านให้ข้อคิดเรื่องนี้ไว้ง่ายๆ แต่ลึกซึ้ง

ท่านว่า ร่อนเศษดิน-เศษหินจากภูเขาทั้งลูก

ได้แร่ทองเท่าเม็ดถั่วเขียว หรือก็ไม่ได้เลย

พระตามวัดก็ทำนองนั้น........

มีมากมายเป็นหมื่น-เป็นแสนรูป ก็เพ่งเล็ง-ค้นหาเอาที่เป็นทองซึ่งมีแค่สิบ-แค่ร้อย-แค่พัน นั้นเถอะ จะไปเพ่งเล็งกับพระประเภทเศษดิน-เศษทราย เพื่อด่ากราดพระไปทำไมกัน

พระเลว ก็มาจากชาวบ้านที่เลว นั่นแหละ!

ท่านว่าทำนองนี้ ผมจำได้แค่เนื้อหา ส่วนเป็นแต่ละคำจำไม่ได้ แต่ความหมายไม่ผิดจากนี้หรอก

ผึ้ง ตอมแต่เกสรดอกไม้

ส่วนแมลงวัน ตอมแต่อุจจาระ

แล้วเราจะเป็นผึ้งหรือแมลงวันในการเสพเรื่องพระล่ะ ก็คิดกันเอา!?

มีคนนำคำ "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" มาโพสต์ไว้ตัวโตๆ ให้สติในการพูด-การคิด-การทำกับพระดี อ่านดูนะ

"....การด่าว่าพระ เป็นกรรมหนัก..."

อย่าตามแห่ไปด่าพระ เพราะเราไม่รู้จริง

ตายแล้ว ลงอเวจีมหานรก ไม่คุ้ม

เอาเวลาไปปฏิบัติธรรม

กับพระที่เลื่อมใส จะดีกว่า

โอวาทคติธรรม

 (หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

วัดป่าสุทธาวาส อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร

ความจริง วันนี้ ตั้งใจจะติดตามข่าวนายกฯ ไปประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-สหรัฐฯ ที่วอชิงตัน เพื่อนำมาคุยกัน

แต่มีโน่น-นี่ต้องทำ หันซ้ายที-ขวาที เวลามี แต่ไม่เหลือให้ตามข่าวคราว

ได้แค่เห็นภาพนายกฯ จับมือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากข่าวโทรทัศน์แค่นั้น

ไม่ได้ยินเสียงพิธีกรข่าวคนเก่งท่านไหน ล้วงลับจับลึกประเด็นนาโต ๒ มาโพนทะนาจนหมาตื่น เหมือนก่อนหน้าสี่ซ้าห้าวันที่นายกฯ จะเดินทางไปเลย

ปิดท้ายวันนี้ ด้วยข้อความในเพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย

โดยโฆษกสถานทูตจีนฯ ตอบคำถามเกี่ยวกับคลิปโฆษณาของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Lazada ดังนี้

.............................

Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย

Q: เมื่อเร็วๆ นี้ คลิปโฆษณาของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Lazada ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในประเทศไทย สถานทูตจีนมีความรู้สึกอย่างไร

A: สถานทูตจีนประจำประเทศไทยรับทราบเหตุการณ์ดังกล่าว คิดเหมือนกันว่าคลิปโฆษณาที่เกี่ยวข้องมีเนื้อหาที่ยอมรับไม่ได้

Remarks of the Spokesperson  of the Chinese Embassy to the  Kingdom of Thailand Concerning  An Advertisement on An E-commerce Platform

Q: Recently, a promotional video clip on e-commerce platform Lazada has sparked controversy  in Thailand. Does the Chinese Embassy have any comment?

A: The Chinese Embassy in Thailand has noticed  the incident, and shares the same view that the  content in the video is unacceptable.

สรุป...........

ในเรื่องสถาบัน จะหาประเทศไหนเข้าใจคนไทยลึกซึ้งด้วยกันเท่าประเทศจีน เห็นจะไม่มี

นี่แหละ "จีน-ไทย" พี่น้องกันจริง!

วันเสาร์ที่ปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' กับ 'อนาถา'

ยุค "นักโทษ" เป็นใหญ่ "ปรับ ครม.เพื่อไทย" จะแจก-จะริบ "อาหารเม็ด" หมาในคอกตัวไหน?

๑ หมื่น 'ไม่ลื่นคอ' นะจ๊ะ

ปกติจ้อจน "จ๋อลพบุรี" ตกต้นไม้ แต่พอถึงเรื่อง "เงินแจก ๑ หมื่น" ชาวบ้านที่ไม่ต่างแมวถูกเศรษฐาเอาปลาย่างทาจมูก ต่างรอฟังผลประชุม ครม.ตกลงจะเคาะแจกวันไหน?

"ขายเพื่อน" ใครจะคบ?

"บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล"สมแล้ว ที่มีคนเรียก "เทพโจ๊ก" บ้าง "มารโจ๊ก" บ้าง "แมวเก้าชีวิต" บ้าง "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" บ้าง

'เรามาปฏิวัติกันเถอะ'

รัฐบาลนี้.... ในจำนวนรัฐมนตรีทั้งหมด ๓๓-๓๔ คน มี "ใหญ่จริง" ที่ได้รับการซูฮกยกเป็น "บิ๊ก" มีอยู่คนเดียว