ศึกหวย 'แอปเป๋าตัง'

ในที่สุด.....

ผมก็ค้นพบจนได้ว่า "อะไรคือปัญหาของชาติ"?

ไม่ใช่เงินเฟ้อ รถติด น้ำมันแพง ข้าวแกงขึ้นราคา  หมาคลับเฮาส์ นั่นหรอก

"หวยครับ...หวย"

หรือ "สลากกินแบ่งรัฐบาล" นั่นตะหาก คือ "ปัญหาของชาติ" ที่แท้ทรู!

ชนชาวหวย ร้องทุกข์ถึงเทวดาให้ช่วยแก้ปัญหา "ขายเกินราคา" มาแรมชาติ

แต่รัฐบาลไหนๆ มา ก็แก้ไม่ได้ นอกจากแก้ไม่ได้แล้ว ยังฉวยโอกาสอ้าง "ดีมานด์-ซัพพลาย" พิมพ์สลากฯ เพิ่มเข้าไปอีก

จนตอนนี้ ประชากร ๖๕ ล้านคน

แต่พิมพ์สลากฯ ขาย งวดละกว่า ๑๐๐ ล้านฉบับ!

เป็นสินค้าชนิดเดียวในโลกที่ "ยิ่งเพิ่ม-ยิ่งแพง" จนทุกคนบอกว่า ต่อให้เป็นเทวดาเหาะลงมาด้วย           

ก็แก้ "หวยขายเกินราคา" ไม่ได้!

สรุป ทุกคนเชื่อ "เจ้าพ่อ-เจ้าแม่" ที่กุมกลไก "ตลาดหวยเกินราคา" ฤทธิ์เดชเหนือกว่าเทวดาและระบบรัฐ

แต่มาวันนี้.........

รัฐบาลใช้วิธี "หนามยอก-เอาหนามบ่ง" กับเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ ด้วยการนำสลากฯ กว่า ๕ ล้านใบขาย ๘๐ บาท ผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง"

แพล็บเดียว "เกลี้ยง"!

ถ้าดูตามโจทย์ คนต้องเฮ ว่าหนามรัฐบาล ตำสกัดหนามเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ถูกทางแล้ว แม้มีขาย ๘๐ บาท แค่ ๕  ล้านใบ อีกตั้งร่วมร้อยล้านใบ ยังอยู่ใต้กลไกเจ้าพ่อก็ตาม

เพราะอย่างน้อย เป็นการ "เปิดช่องทาง" ให้ผู้ซื้อ  "เลือกซื้อ" ได้ ในราคา ๘๐

แต่ผลของการที่รัฐบาลทำให้ถูก เกิดปรากฏการณ์ "จักรวาลนฤมิต" ในโลกข่าวสารที่สยึมกึ๋ยขึ้น

นำมาให้อ่านขำๆ อย่าคิดมาก กับข่าวตามสื่อทุกวันนี้

.........................

"ไทยรัฐออนไลน์"

ชาวเชียงใหม่ร้องโอ๊ย! หวยแพง อัปราคาพุ่งแตะ  ๑๒๐-๑๓๐ ต่อใบ หลังหวย "เป๋าตัง" ขายหมดเกลี้ยง

๗ มิถุนายน:ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ชาวเชียงใหม่แห่ร้องทุกข์ หลังพลาดซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" จนต้องออกตามหาซื้อตามแผงต่างๆ

แต่ปรากฏว่า แผงหวยหลายแห่งถือโอกาสปรับราคาขึ้นสูงถึงใบละ ๑๒๐-๑๓๐ บาทเลยทีเดียว

.................................

แต่เรื่องเดียวกัน "ผู้จัดการออนไลน์" รายงานข่าวว่า

ผู้จัดการออนไลน์ ๖ มิ.ย.๖๕

ผู้ค้าสลากคนพิการเชียงใหม่ครวญ “สลากดิจิทัล” ทำแผงหวยเงียบสนิท-ยอดขายดิ่งเหว

นายกสมาคมผู้ค้าสลากคนพิการเชียงใหม่ครวญ ยอดขายดิ่งเหว เหตุ “สลากดิจิทัล” พ่นพิษ ทำแผงขายสลากเงียบเป็นเป่าสาก จนต้องทำใจล่วงหน้าพร้อมรับสภาพขาดทุนจากการขายสลากที่เหลือเต็มแผง

ขณะที่ผู้ค้ารายย่อยเดือดร้อนทั่วหน้า โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีโควตาเป็นของตัวเอง โดนผลกระทบหนักทั้งขึ้นทั้งล่อง จนสู้ไม่ได้แทบทุกทาง

เหตุต้องรับสลากมาจากยี่ปั๊วในราคาต้นทุนที่แพงกว่า  80 บาทแล้ว ทำให้จำเป็นต้องขายเกินราคา หวั่นสุดท้ายอาจต้องจำใจเลิกอาชีพ

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า บรรยากาศการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 16 มิ.ย.65  ตามแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาลต่างๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่เป็นไปอย่างเงียบเหงา

ซึ่งปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งเนื่องมาจากงวดนี้ เป็นงวดแรกที่ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เริ่มทำการขายสลากดิจิทัล หรือสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ทำการสแกนนำเข้าเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในแพลตฟอร์มขายผ่านทางแอปพลิเคชันเป๋าตัง ในราคาใบละ 80 บาท เพื่อแก้ไขปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา

ซึ่งปรากฏว่า ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี

นับตั้งแต่ที่เริ่มเปิดขายวันที่ 2 มิ.ย.65 และเพียงแค่วันที่ 6 มิ.ย.65 ก็ถูกขายจนหมดทั้ง 5 ล้านใบ....ฯลฯ.......

---------------------------------

หนังสือพิมพ์ประจำจังหวัด "เชียงใหม่นิวส์" เขาออกสำรวจ แล้วรายงานไว้ ดังนี้

เชียงใหม่นิวส์

แผงหวยเชียงใหม่กังวล สลากดิจิทัลฉุดยอดขาย ยินดีคนไทยได้ซื้อหวยถูก แต่ขอพื้นที่ได้ทำอาชีพ

หลังจากที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเปิดขายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังเป็นวันแรกเมื่อวานนี้ (2 มิ.ย.)

และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยในวันแรก มียอดขายกว่า 2.4 ล้านใบ จากจำนวนสลากทั้งหมด  5,279,500 ฉบับ

ล่าสุดในวันนี้ (3 มิ.ย.65) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจย่านขายลอตเตอรี่หลายแห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ พบว่าบรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ....ฯลฯ......

แม่ค้าหวยที่ตลาดสิริวัฒนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่  บอกว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาทำให้หลายเดือนที่ผ่านมายอดขายลดลงมาก

และเชื่อว่าการเข้ามาของสลากดิจิทัลที่เปิดขายในราคา 80 บาท จะทำให้ยอดขายหายไปมากกว่านี้ในงวดต่อๆ ไป

แต่ก็ยินดีกับคนไทยที่ได้ซื้อหวยถูก

หากจะให้แม่ค้าขายราคา 80 บาท ยอมรับว่าเป็นไปได้ยาก เพราะที่รับมาขายแต่ละงวด ราคาต่อใบก็สูงกว่านี้หลายบาท เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่มีโควตาของตัวเอง ต้องไปรับมาอีกที

และเมื่อปฏิเสธไม่ได้ ก็ขอให้เหลือโควตาสำหรับผู้ค้าในส่วนของร้านค้า แผงขาย และผู้ค้ารายย่อย และผู้ค้าเร่ ขอพื้นที่ได้ทำอาชีพเลี้ยงครอบครัว

ขณะที่แม่ค้าอีกคนหนึ่งมองว่า แม้จะมีสลากดิจิทัล แต่เชื่อว่าร้านขายหวยแบบออนไซต์ยังพออยู่ได้

เพราะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและคนที่ไม่ถนัดในการใช้แอปพลิเคชันต่างๆ ที่ยังต้องการเลือกซื้อลอตเตอรี่ด้วยตัวเอง และได้ลอตเตอรี่กลับบ้านทันที

แต่ในอนาคตหากสลากดิจิทัลเข้ามาแทนที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็คงต้องเลิกอาชีพ

..............................

ดูทางเหนือแล้ว ดูทางอีสานบ้าง "โคราชเดลี" รายงานข่าว ดังนี้่

Korat Daily

กลุ่มคนเดินเร่กระทบหนัก ขายสลากฯ ไม่ออก เพราะคนหันไปซื้อสลาก 80 บาท และสลากออนไลน์ จำเป็นต้องลดปริมาณรับซื้อล​อตเตอรี่ลงเท่าตัว

7 มิถุนายน 2565 กลุ่มผู้มีอาชีพเดินเร่ขายลอตเตอรี่จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ไม่มีโควตาเป็นของตัวเอง ต้องรับซื้อลอตเตอรี่จากยี่ปั๊วมาขายต่ออีกทอด ต่างได้รับผลกระทบ

หลังจากกองสลากฯ ได้เปิดจำหน่ายสลากดิจิทัล และมีโครงการขายสลากในราคา 80 บาท อำเภอละ 1 จุด  ทำให้ประชาชนหันไปซื้อสลากออนไลน์ใบละ 80 บาทมากกว่า

ส่งผลให้ผู้ค้าเร่ขายลอตเตอรี่ขายไม่ค่อยได้เหมือนเมื่อก่อน ต้องลดปริมาณการรับซื้อลอตเตอรี่จากยี่ปั๊วลงจากเดิมเกือบครึ่ง

ซึ่งจากเดิม เคยรับซื้อจากยี่ปั๊วมาขายต่องวดละ  1,000 ใบ แต่พอกองสลากฯ มีโครงการขายสลากออนไลน์ในราคาใบละ 80 บาท ก็ลดลงเหลือเพียง 600  ใบเท่านั้น เพราะหากขายไม่หมดก็ต้องแบกรับภาระสลากที่เหลือตกค้างเอง

นางอำพร อายุ 47 ปี และ น.ส.แสงวลี อายุ 44 ปี  ผู้มีอาชีพเร่ขายลอตเตอรี่ บอกตรงกันว่า

"หลังจากรัฐมีโครงการขายสลากออนไลน์ในราคาใบละ 80 บาท ก็ได้รับผลกระทบ ขายไม่ค่อยได้เหมือนเมื่อก่อน จนต้องลดจำนวนรับซื้อสลากจากยี่ปั๊วลงเกือบครึ่ง เพราะกลัวขายไม่หมด

ขณะที่บางคนก็ชะลอยังไม่ขายในงวดนี้ไปก่อน จากผลกระทบดังกล่าว ก็อยากให้รัฐบาลได้พิจารณาจัดสรรโควตาให้กับคนเดินเร่ขายลอตเตอรี่

จะได้ไม่ต้องไปรับซื้อต่อจากยี่ปั๊วในราคาแพงเฉลี่ยใบละ 91-93 บาท แล้วต้องมาขายต่อใบละ 100 บาท

ซึ่งหากมีโควตาเป็นของตัวเองก็จะสามารถขายในราคาใบละ 80 บาทได้"

............................

ขำดีเนอะ

สำนักหนึ่งบอก แอปเป๋าตัง ทำให้หวยขายเกลี้ยง  หวยแผงฉวยโอกาสอัปราคาแพงขึ้นไปอีก จนต้องแห่กันไปร้องทุกข์ว่าหาซื้อไม่ได้

แต่อีกสองสำนักบอก "แอปเป๋าตัง" ทำหวยแผงเงียบสนิท ยอดขายดิ่งเหว คือเหลือเบะ

เถอะ จะแบบไหนก็ช่าง แต่ผมจะบอกว่า แอปเป๋าตังขายหวย ๘๐ บาท ทำให้เกิดปฏิบัติการเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ "จับผู้ค้ารายย่อย" เป็นตัวประกัน เริ่มขึ้นแล้ว!

รัฐบาลจะแก้ยังไง ผมจนปัญญา แต่คุณ "Kittitouch  Chaiprasith" ยกเคสจากข่าวไทยรัฐออนไลน์ โพสต์ความเห็นไว้ดังนี้

Kittitouch Chaiprasith

ถ้าวันนี้ผมเป็นผู้นำรัฐบาล แล้วเจอแบบนี้ พรุ่งนี้ผมจะประกาศนโยบายเร่งด่วนทันทีว่า

ให้กองสลากเพิ่มโควตาขายสลากดิจิทัล จาก 5.17  ล้านใบ เป็น 20 ล้านใบ (จากสลากทั้งระบบ 100 ล้านใบ)  ภายใน 2 เดือนข้างหน้า

และจะวางยุทธศาสตร์เลยว่า จะเพิ่มจนเป็นสลากดิจิทัลถึง 50 ล้านใบ (จาก 100 ล้านใบ) ภายในสิ้นปี 2565!!!

 (หมายเหตุ: 5.17 ล้านใบ เดือนแรกนี้ เป็นโควตาที่ยึดมาจากพวกทำผิดกฎ ที่เอาไปขายให้แพลตฟอร์มออนไลน์  แล้วเปิดให้รายใหม่มาขายในระบบเป๋าตังแทน)

เหตุการณ์แบบนี้ คล้ายกับที่สิงคโปร์ ช่วงปี 1980 ในยามที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและน้ำมันแพง

แต่พนักงานสายการบินสิงคโปร์และสหภาพแรงงานโวยวายเรื่องค่าแรงและชั่วโมงการทำงาน ที่จะขอค่าแรงสูงๆ แต่บริการห่วยแตก และโดนร้องเรียนเป็นประจำ

นายกฯ ลีกวนยู ประกาศเลย เรียกสหภาพฯ มาคุย และประกาศเลยว่า ยุติการกระทำเช่นนี้ซะ หรือจะให้โละพนักงานเหล่านั้นทิ้งให้หมด เพราะไม่คิดถึงประชาชนในยามยากลำบาก 

โดยเขาบอกว่า "ผมจะสั่งสอนพวกคุณ และให้ประชาชนชาวสิงคโปร์ช่วยผมสอนบทเรียนแก่พวกคุณ!!"

ซึ่งเพียงแค่ 1 ชม.ต่อมา พวกสหภาพฯ ก็หยุดจับสายการบินสิงคโปร์เป็นตัวประกันทันที เพราะรู้ว่า "ผู้นำเอาจริง" และประชาชนพร้อมสนับสนุน

วันนี้ "สลากดิจิทัล" ได้รับคำชื่นชมจากประชาชนทั้งประเทศ และแค่ 4-5 วันกลับขาย 5.17 ล้านใบจนหมดได้             มันเหมือนเสียงประชาชนอยู่ข้างรัฐบาลในเรื่องนี้

หากไม่คิดจะดำเนินการยามนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะทำตอนไหนแล้วครับ

อย่าทำให้เสียโอกาสดีๆ ในการแก้ปัญหาครั้งนี้ครับ

------------------------------

ซื้อผ่านเป๋าตังไว้ ๒ ใบ ถ้าถูกจะ "ปิดประเทศ" เลี้ยงทันทีเลย!

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

๑ หมื่น 'ไม่ลื่นคอ' นะจ๊ะ

ปกติจ้อจน "จ๋อลพบุรี" ตกต้นไม้ แต่พอถึงเรื่อง "เงินแจก ๑ หมื่น" ชาวบ้านที่ไม่ต่างแมวถูกเศรษฐาเอาปลาย่างทาจมูก ต่างรอฟังผลประชุม ครม.ตกลงจะเคาะแจกวันไหน?

"ขายเพื่อน" ใครจะคบ?

"บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล"สมแล้ว ที่มีคนเรียก "เทพโจ๊ก" บ้าง "มารโจ๊ก" บ้าง "แมวเก้าชีวิต" บ้าง "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" บ้าง

'เรามาปฏิวัติกันเถอะ'

รัฐบาลนี้.... ในจำนวนรัฐมนตรีทั้งหมด ๓๓-๓๔ คน มี "ใหญ่จริง" ที่ได้รับการซูฮกยกเป็น "บิ๊ก" มีอยู่คนเดียว