ปิยบุตรคลั่ง'หลังม็อบ'

ทักษิณ หมอบ

ธนาธร หลบ

ปิยบุตร รุก

ยิ่งเห็นเพื่อไทยประกาศเป็นแกนนอน ไม่ขอเป็นแกนนำ เรื่องแก้มาตรา ๑๑๒ ในสภา

"ศาสดายุเด็ก" จากรุก ยกระดับเป็นคลั่งอ่อนๆ!

ทำไมจะไม่คลั่งล่ะ ในเมื่อ กุมารา-กุมารี ที่ล้างสมองให้ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ผลเป็นว่าเชื่อคำยุศาสดาปิยบุตรแล้ว

"คุกเป็นแถวๆ"!

ทำไมจะไม่คุกล่ะ ในเมื่อศาลท่านให้โอกาส ปล่อยครั้งแล้ว-ครั้งเล่า แทนจะได้คิด กลับเชื่อคำยุ แถมติดใจ "เงินไหลเข้าบัญชี" โหมระห่ำย่ำยีกันซ้ำซาก

"คุก" ชั่วคราว จึงเป็นผลของกรรมที่ "ทำเอง"!

อาศัยช่องทางสภาล้มเจ้า ก็เหลว อาศัยเด็กในช่องทางถนน ก็เหลว

ศาสดาหลอกเด็ก ทำไงดีล่ะ?

ก็ต้องอาศัยคราบนักวิชาการเลกเชอร์ทางคลับเฮาส์บ้าง ทางโพสต์เฟซ โพสต์ทวีตบ้าง

ปั้นลีลาวาทกรรม ทั้่งหลอก ทั้งปลอบปลุก ให้เด็กไปติดคุกแทนในเกมล้มเจ้า

ลองเปิดเพจ "คณะก้าวหน้า" ภายใต้โลโก้ "ปลอกแตก" ดูซี

 ปลุกระดม "ล้มเจ้า" เอากันตรงๆ เช่น.....

".....แต่ไม่ว่าพวกท่านจะโกรธ จะเกลียด จะแค้น จะไล่ฟ้องคดี จะไล่ล่า พวกเขา ด้วย “นิติสงคราม” จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่มาปราบปรามอย่างรุนแรง

จะเอา พวกเขา ไปขังให้หมดทุกคน ก็ไม่มีทางที่ พวกเขา จะเปลี่ยนความคิดที่มีต่อสถาบันกษัตริย์ได้

ตรงกันข้าม ยิ่งทำกันแบบนี้ ก็จะยิ่งผลักให้ พวกเขา ราดิคัล มากขึ้น

จนข้อเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ จะพัฒนาจนกลายเป็นข้อเรียกร้องแบบอื่นไป"

สังเกตเห็นอะไรมั้ย?

ทั้งหมด มีแต่ "พวกเขา..พวกเขา..พวกเขา" ไม่มีตัวเขา คือตัวปิยบุตรรวมอยู่ด้วยเลย ในปฏิบัติการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์

หมายถึงว่า ทุกขั้นตอน ปิยบุตร "เปิดทางรอด" ตัวเองไว้ล่วงหน้าเรียบร้อย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น กูเปล่านา...พวกมึงโง่ทำกันเอง!

เช่นที่บอกว่า..."ก็จะยิ่งผลักให้ พวกเขา ราดิคัลมากขึ้น"

ราดิคัล คือ การล้มล้างชนิด "ถอนราก-ถอนโคน"

ปิยบุตรไม่กล้าใช้ในภาษาไทย ด้วยหัวหมอ...กลัวจะผูกมัดตัวเองชัดมากไป จึงเลี่ยงใช้ภาษาอังกฤษว่า "ราดิคัล" แทน

"พวกเขาราดิคัล" เจตนาที่บ่งบอก ก็คือ....

พวกมึง ล้มล้างสถาบันชนิดขุดรากถอนโคนนะ ส่วนพวกกู-ปิยบุตร ไม่เกี่ยวโว้ย

เห็นมั้ย เปิดทางถอยให้ตัวเองเสร็จสรรพ!

นี่..ตัวอย่างชี้ให้เห็นความชาญฉลาดของนักกฎหมายที่หลอกใช้คนไปตาย-ไปติดคุกแทน

ถ้าชนะ ข้าเป็นเจ้า

ส่วนพวกเอ็ง เป็นวีรบุรุษ-วีรสตรีประชาธิปไตย

ถ้าแพ้ พวกเอ็งเป็นโจร

ส่วนข้า...เป็นรองศาสตราจารย์ ดร.ปิยบุตร ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายมหาชนตูลุส มีเมียอยู่ฝรั่งเศสไง!

แล้วดูการปลุกระดมลีลา "เหยียบสถาบันให้ต่ำ แต่ทำเป็นยกให้สูง" ของเขาดูซี...

การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ คือ ความจำเป็นของยุคสมัย เราหลีกหนีไม่ได้อีกแล้ว

ร่วมกันปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เพื่อรักษาสถาบันกษัตริย์

เพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็นราชอาณาจักร มิใช่สาธารณรัฐ

เพื่อรักษาประชาธิปไตย ให้คนทุกคนได้มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน

ก็จะเห็นว่า ปิยบุตร "กั้่นม่าน" ยุให้คนอื่นทำ

ตัวเองไม่กล้าออกมาทำหรือมานำเองเลย!

ผมสงสารนักศึกษาที่ถูกหลอกใช้ ตอนรวมพวก-รวมหมู่ "มันคึก" แต่ตอนตัวใคร-ตัวมัน "ขวัญกระเจิง"

ก็ยังไม่สายที่จะสะบัดจมูกให้พ้นสายตะพายปิยบุตร อยากให้อ่านนี่ เพื่อเป็นกำลังใจ

....................

Isara Jeam

ฉันเคยเกลียงชังและคิดโค่นล้มสถาบันกษัตริย์

ฉันสนใจอ่านหนังสือพิมพ์ตั้งแต่เรียนอยู่ ป.4 พอเรียน มศ.1 ก็เข้าร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองกับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

และเข้าป่าตอนเรียนอยู่ชั้น มศ.3 ด้วยความโกรธแค้นการฆ่าหมู่ ในเหตุการณ์ 6 ตุลา 19

เคียดแค้นในหลวง ร.๙ ว่าเป็นคนสั่งฆ่าหมู่ในธรรมศาสตร์

มุ่งมั่นว่า “จะกลับไปกรีดเลือดมารล้างลานโพธิ์”

.......................

ยิ่งเข้าร่วมกับ พคท.ก็ยิ่งได้รับการปลูกฝังว่า สถาบันกษัตริย์คือศักดินาใหญ่ ที่ยึดกุมอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศไทย

ศักดินากดขี่ขูดรีดประชาชน ทำให้ประชาชนยากจนข้นแค้นเหลื่อมล้ำ จึงมีสโลแกนเพื่อการปลดปล่อยประเทศชาติประชาชนว่า “ศักดินาจงพินาศ ประชาชาติจงเจริญ”

ความเชื่อนี้ฝังแน่นอยู่ในหัวฉันตลอดมาหลายสิบปี

........................

ยิ่งเมื่อออกจากป่ามาทำงาน ก็มักจะมีเรื่องบอกเล่าเกี่ยวกับในวังให้ได้ยินอยู่บ่อยๆ

อย่างเช่น การก่อการร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่สงบไปหลายปี กลับปะทุขึ้นอีกในสมัยรัฐบาลทักษิณ

ข่าวลือบอกว่าเป็นแผนจากในวัง เนื่องจากมีการจับผู้ก่อการร้ายได้ ปรากฏว่าเป็นทหารรักษาพระองค์ เพราะสถาบันต้องการสร้างความวุ่นวายและแรงกดดันให้รัฐบาลทักษิณ

แต่ทำแล้วการก่อการร้ายขยายตัวจนควบคุมไม่ได้ มีเรื่องเล่าที่ไม่มีหลักฐาน ไม่มีที่มาที่ไป แบบนี้เยอะมาก

........................

จนเมื่อฉันสนใจศึกษาพุทธศาสนา

ครั้งหนึ่ง ฉันได้ฟังพระอริยสงฆ์ท่านหนึ่งกล่าวถึงในหลวง ร.๙ ว่า เป็นพระราชาที่ทรงทศพิธราชธรรม ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ที่กำลังบำเพ็ญเพียรเพื่อการหลุดพ้นในภายภาคหน้า

ฉันสะกิดใจว่า พระอริยสงฆ์ย่อมไม่โกหกและมีญาณปัญญาหยั่งรู้แจ้งเห็นจริง

........................

ฉันเริ่มเปิดใจ ศึกษาพระราชกรณียกิจในหลวง ร.๙ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และศึกษาข้อมูลอีกด้านหนึ่งในเรื่องที่ฝังใจมานานคือ กรณี 6 ตุลา 19

สิ่งที่ฉันได้พบคือ ความจริงใจของในหลวง ร.๙ ที่ทรงรักห่วงใยประชาชนและรักชาติยิ่ง เช่นเดียวกับบุรพกษัตริย์พระองค์อื่นๆ ในราชวงศ์จักรี ที่มีบทบาทในแต่ละช่วงของประวัติศาสตร์ชาติไทย

เป็นข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่ฉันไม่เคยรับรู้มาก่อน ไม่รับรู้เพราะไม่เปิดใจเรียนรู้ อ่านแต่ข้อมูลของนักวิชาการที่ต่อต้านสถาบัน

ถ้าในหลวง ร.๙ ทรงมีอำนาจเหนือการเมืองไทย ฉันคงไม่ได้ยินอาจารย์ยักษ์ (วิวัฒน์ ศัลยกำธร) ประธานสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ

บ่นว่า รัฐบาลไม่จริงใจในการทำเศรษฐกิจพอเพียง ในหลวง ร.๙ เคยตรัสกับอาจารย์ยักษ์ว่า "ผลักดันปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงยากมาก"

.......................

ฉันเชื่อว่า ถ้าสถาบันกษัตริย์มีอำนาจและยึดกุมการเมืองไทยได้จริงๆ อย่างที่ถูกโจมตี ประเทศไทยต้องเจริญรุ่งเรืองกว่านี้

พสกนิกรไทยจะต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้อย่างแน่นอน

........................

แต่สิ่งที่สถาบันกษัตริย์มีอำนาจ นอกจากอำนาจตามรัฐธรรมนูญที่ผ่านทางผู้สนองบรมราชโองการแล้ว อำนาจที่ยิ่งใหญ่ของสถาบันคือ บารมีที่ประชาชนรักเทิดไว้เหนือเกล้า เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนไทย

ซึ่งนี่คือ บารมีที่สั่งสมมาหลายร้อยปีของบุรพกษัตริย์ไทย เป็นบุญญาธิการที่ฝ่ายคิดร้ายต่อประเทศไทยเกรงกลัวและมุ่งทำลาย

นี่คือ ความจริงที่ผู้คิดโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ต้องเข้าใจ มากกว่าอคติ ที่มองอย่างเหยียดหยามหมิ่นแคลนว่า  "ประชาชนไทยถูกครอบงำ ล้างสมอง เป็นพวกถูกปกครองคิดไม่เป็น"

เพราะอคติที่ครอบงำจิตใจนี้ จะไม่มีวันเข้าถึงความจริงของรากเหง้าและวัฒนธรรมไทยในเรื่องสถาบันได้เลย

........................

ไม่ว่าสถาบันใดๆ ถ้าไม่ปรับตัว ไม่มีประโยชน์ต่อสังคม สถาบันนั้นๆ ย่อมต้องล่มสลายไปตามกฎอนิจจัง

สถาบันกษัตริย์ไทยก็ไม่ยกเว้นจากกฎไตรลักษณ์นี้

แต่สถาบันกษัตริย์ไทยปรับตัวมาตลอดจากอดีตจนถึงปัจจุบัน จึงไม่ใช่สถาบันกษัตริย์ในอดีตเมื่อ 100 ปี หรือหลายร้อยปีก่อน อย่างที่มีการให้ร้ายว่าล้าหลัง ซอมบี้ ไดโนเสาร์

........................

พระคุณเจ้าท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า “ความเข้าใจอัจฉริยภาพในจริยวัตรของพระมหากษัตริย์ ต้องอาศัยการเรียนรู้และน้อมรับ ผู้ใดมีจิตอกุศล มีอคติเป็นที่ตั้ง ก็ยากที่จะถ่องแท้ได้”

........................

ภาพ : 25 ตุลาคม 2560 น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ณ พระเมรุจำลอง วัดคลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

--------------------

ท่านคงอยากอยู่กับความคิดตัวเองซักพักมากกว่านะ ฉะนั้น ผมจะไม่รบกวน ขอจบนะ.

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง