เงื่อนไข 'ทักษิณ' กลับไทย

ยังคงปล่อยข่าวกันรายวัน

"ทักษิณ" จะกลับมา

ไม่ว่าบัตรเลือกตั้ง ๒ ใบหาร ๑๐๐ หรือหาร ๕๐๐

หรือจะกลับไปใช้บัตรใบเดียว ไม่อาจขวางการกลับมาของ "ทักษิณ" ได้

แลนด์สไลด์เมื่อไหร่ "ทักษิณ" มาแน่

ก็แค่แคมเปญหาเสียงของพรรคเพื่อไทยครับ เพราะคนที่เชื่อว่า "ทักษิณ" เก่งกาจ สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้นั้นมีอยู่เยอะพอควร

ก่อนเลือกตั้งปี ๒๕๕๔ ก่อนยิ่งลักษณ์จะเป็นนายกรัฐมนตรี "ทักษิณ" ก็บอกว่าจะกลับไทยหลังเลือกตั้ง

ก็ได้ผล เพื่อไทยชนะการเลือกตั้งมาเป็นอันดับ ๑

ก่อนเลือกตั้งปี ๒๕๖๒ "ทักษิณ" ประกาศอีกจะกลับไทยอย่างเท่ๆ

เพื่อไทยก็ชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง แม้ไม่ถล่มทลายแต่ยังคงเป็นอันดับ ๑ เหมือนเดิม

ครั้งนี้ก็เช่นกัน แม้จะยังไม่รู้ว่าเลือกตั้งกันเมื่อไหร่ แต่ไม่เกินเดือนพฤษภาคมปีหน้า "ทักษิณ" ก็พยายามพูดเรื่้องกลับบ้านซ้ำอีก วัตถุประสงค์ก็น่าจะเหมือนเดิม ปลุกกระแสให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์

ที่จริง "ทักษิณ" กลับไทยได้เลยไม่มีใครห้าม แค่มารับโทษก่อนเท่านั้นเอง

จะไม่รับโทษก็ได้หากใช้ช่องทางตามกฎหมายที่เอื้อให้ทำได้

มาดูกันครับว่า "ทักษิณ" กลับไทยได้ภายใต้เงื่อนไขอะไรบ้าง

หลักๆ มีอยู่ ๔ วิธี

วิธีที่ ๑ คือ ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้พิจารณาคดีใหม่ ตาม พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ.๒๕๒๖

แต่ก็ไม่ง่ายครับเพราะต้องมีข้อเท็จจริงใหม่ หากไม่มีก็รื้อฟื้นไม่ได้

วิธีที่ ๒ ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วิธีนี้ทำมาแล้วยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ รู้จักกันในชื่อกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย  หรือนิรโทษโกงเหมาเข่ง

สุดท้ายมวลมหาประชาชนลุกฮือต่อต้านจนนำไปสู่การรัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗

วิธีที่ ๓ การขอพระราชทานอภัยโทษ เป็นอีกวิธีที่  "ทักษิณ" เลือกได้ แต่ต้องตั้งอยู่บนเงื่อนไขกลับมาเข้าสู่กระบวนการรับโทษก่อน 

ขอพระราชทานอภัยโทษ เป็นพระราชอำนาจ "ทักษิณ"  ต้องมั่นใจจริงๆ ว่า เมื่อกลับมารับโทษแล้วกระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษจะประสบความสำเร็จ แต่ถ้าไม่มั่นใจ  "ทักษิณ" ไม่เลือกวิธีนี้แน่นอน เพราะมีโอกาสติดคุกยาว

การไม่รับโทษแต่จะขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่ง "ทักษิณ" เองพยายามใช้วิธีนี้อยู่เช่นกัน เป็นไปได้ยาก เพราะไม่เข้าเงื่อนไขของกฎหมาย

วิธีที่ ๔ ซับซ้อนน้อยที่สุดคือกลับมารับโทษ แต่แน่นอนว่าวิธีนี้ "ทักษิณ" ไม่ต้องการ เพราะมีโทษจำคุกร่วม ๑๐ ปี รออยู่

หมายความว่าหากเลือกวิธีนี้ ต้องทำใจมาตั้งแต่ดูไบว่า  เมื่อถึงไทยจะมีคนไปรับที่สนามบินเพื่อนำเข้าสู่เรือนจำ

ย้อนไปดูคดีของ "ทักษิณ" กันหน่อยครับ                           

มี ๘ คดีโกง

หมดอายุความไป ๑ คดี

พิพากษาจำคุกแล้ว ๔ คดี

ยกฟ้อง ๒ คดี

อยู่ในชั้น ป.ป.ช.อีก ๒ คดี

หากรวมคดีที่ศาลพิพากษาจำคุกจะมีทั้งสิ้น ๔ คดี

คดีที่ ๑ ทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ที่มีการกล่าวหาคุณหญิงพจมาน ชินวัตร และนายทักษิณ ในการซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก จำนวน ๓๓ ไร่ ๗๘ ตร.ว. ราคา ๗๗๒  ล้านบาท จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาลับหลัง จำคุก "ทักษิณ" ๒ ปี

แต่ "ทักษิณ" หนีจนคดีนี้หมดอายุความไปแล้ว

ฉะนั้นยังเหลือคดีที่ "ทักษิณ" ถูกพิพากษาจำคุกอีก ๓  คดี

นั่นคือคดีที่ ๒ คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย ๒ ตัว ๓ ตัว หรือคดีหวยบนดิน ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

คดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก "ทักษิณ" เป็นเวลา ๒ ปี ไม่รอลงอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗

คดีที่ ๓ คดีสั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) อนุมัติเงินกู้สินเชื่อ ๔ พันล้านบาทแก่รัฐบาลสหภาพพม่า  หรือคดีเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้พม่าเอื้อชินคอร์ป            

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก ๓ ปี ไม่รอลงอาญา

นี่คือหนึ่งในการทุจริตเชิงนโยบายในยุคระบอบทักษิณบริหารประเทศ หวังประโยชน์ในธุรกิจดาวเทียมที่มีการสั่งซื้ออุปกรณ์ จากบริษัท ชินแซทเทลไลท์ บริษัทในเครือชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของตระกูลชินวัตร

คดีที่ ๔ ให้บุคคลอื่น (นอมินี) ถือหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แทน โดยบริษัท ชินคอร์ปฯ เป็นคู่สัญญาต่อหน่วยงานของรัฐ เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นในกิจการโทรคมนาคม

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก "ทักษิณ" เป็นเวลา ๕ ปี ไม่รอลงอาญา

โทษในคดีนี้แบ่งเป็น ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ จำคุก ๒ ปี

ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการเข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น จำคุก ๓ ปี

รวมเป็น ๕ ปี

ฉะนั้นเบื้องต้นหาก "ทักษิณ" กลับมามีโทษจำคุกจาก ๓  คดี รวมทั้งสิ้น ๑๐ ปีรออยู่

แต่ก็อาจมีเพิ่ม เพราะยังเหลืออีก ๒ คดียังอยู่ในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

มีคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตสอง จำนวน ๘ สัญญา

คดีนี้ผู้ถูกกล่าวหาเป็นนักการเมืองตระกูลชินวัตรแทบจะยกตระกูล อาทิ "ทักษิณ" "ยิ่งลักษณ์" รวมไปถึง "เยาวภา  วงศ์สวัสดิ์" ด้วย

อีกคดีคือ การอนุมัติสั่งซื้อเครื่องบินแบบ A340-500  และ A340-600 ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)  ระหว่างปี ๒๕๔๕-๒๕๔๗ ทำให้การบินไทยมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น

เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ที่ผ่านมานี่เอง ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด "ทนง พิทยะ" เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการการบินไทย และที่ปรึกษาอนุกรรมการพิจารณาแผนการลงทุนระยะยาวของบริษัทกับพวก

ก็มีโอกาสที่ "ทักษิณ" จะถูกลงโทษจำคุกมากกว่า ๑๐ ปี 

ซึ่งแน่นอนครับ "ทักษิณ" ไม่มีทางกลับมาติดคุก เพราะถึงกับเอ่ยปากบอกลูกหลานว่าตายแล้วอย่าเผาให้เก็บศพไว้

ก็แสดงว่า "ทักษิณ" รู้ตัวเองดีว่า ต้องหนีไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเสียชีวิตในต่างแดนแน่นอน

กลับไทยจึงเป็นเพียงแคมเปญสร้างคะแนนนิยมให้พรรคเพื่อไทยเท่านั้น. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประชาธิปไตยแบบไทยๆ

นักการเมืองคนไหนที่บอกว่า "รวยพอแล้ว" อย่าไปเชื่อ เพราะถ้าพอจะไม่แสวงอำนาจการเมือง

นายทุนก้าวไกล

เริ่มต้นด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ วานนี้ (๑๗ เมษายน) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปยอดเงินบริจาคของพรรคการเมือง ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ทั้งสิ้น ๑๓ พรรคการเมือง

รวยแล้วไม่โกงไม่มี

นายกฯ เศรษฐาเปิดใจวานนี้ (๑๕ เมษายน) ฟังแล้วเหมือนเดจาวู "...มั่นใจได้ว่าเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนไม่มีแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามต้องพูดเรื่องทรัพย์สิน เรื่องของชีวิตส่วนตัว ส่วนตัวของผมลงตัวแล้ว มีรายได้ในอดีตที่ดีพอสมควร มีทรัพย์สินที่ทำให้อยู่ได้อย่างสบายๆ