ดินแดนนี้ 'ศักดิ์สิทธิ์'

เมื่อทราบว่า.....

นายกฯ ไป "กาญจนบุรี" เมื่อวาน (๔ ส.ค.๖๕) ผมประหวัดถึง "บุษบาเสี่ยงเทียน" ขึ้นมาทันที

แล้วก็ตามดู "ผลเสี่ยงทาย" จากข่าว..........

ก็ต้องบอกว่า ขอแสดงความยินดีกับท่านนายกฯ ด้วยครับ ต่อจากนี้ไป คำว่า.....

"สัพพทุกข์ สัพพโศก สัพพโรค สัพพภัย สัพพเคราะห์ เสนียดจัญไร" เหล่านี้ จะหายมลายสูญไปจากท่าน

"สัพพธะนัง สัพพลาภัง ภะวันตุเม" ทรัพย์ทั้งปวง ลาภทั้งปวง จะบังเกิดกับท่าน

"รักขันตุ สุรักขันตุ" ด้วยอานุภาพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง จะปกปักรักษาท่าน

ถอดรหัสออกมา ก็ได้ความว่า

"ท่านต้องอยู่รักษาบ้าน-รักษาเมือง คอยแก้ปัญหา ดูแลสุข-ทุกข์ให้ประชาชนต่อไป"

จาก ๔ ปีนี้่แล้ว.........

ยังต้อง "รับภาระบ้านเมือง" ในตำแหน่งนายกฯ ต่อไปอีก ๔ ปี จาก ๒๕๖๖ จนถึงปี ๒๕๗๐ โน่น!

ผมพูดจากเหตุไหนน่ะหรือ?

ก็จากที่ท่านนายกฯ ไปถึงเมืองกาญจน์ สิ่งที่ท่านไม่ละเลยและรีรอ ก็คือการไปสักการะ

"พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ที่ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวน นั่นเอง!

"สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" คือพระผู้ทรงกู้ชาติ กู้แผ่นดิน นำเอกราชคืนกลับสู่ความเป็น "ราชอาณาจักรไทย" ไพศาล รุ่งเรือง ตราบทุกวันนี้

แม้พระองค์ท่านอาจไม่ดลใจนายกฯ

แต่การที่ "ใจนายกฯ" สำนึกน้อมถึงพระมหากรุณาธิคุณสุดเปรียบประมาณนั้น เมื่อพลันถึง ก็ตรงไปด้วย "จิตน้อม-กายนอบ"

นั่นคือ สัญญาณ "พันธสัญญา"

นายกฯ ยังจะหนีเอาสบายเฉพาะตัวยังไม่ได้

ต้องอยู่ทำหน้าที่เข็น "เกวียนประเทศ" ให้ขึ้่นจากหล่มวิกฤตโลก และกำจัดเหล่าบรรดา "มอด" ที่กัดกิน-ชอนไชประเทศ ไปอีกระยะ

ครับ....

นี่ผมถอดรหัสเสี่ยงทายตามตำราผมเอง แม่น-ไม่แม่น ไม่รู้ ให้ติดตามดูเอา ตำราผมยังบอกด้วยว่า เวลานี้ นายกฯ กำลังตกที่นั่ง "หน้าชื่น-อกตรม"

ไม่ใช่เพราะอกหักเพราะรักหญิงหรอก แต่หักเพราะ "ถูกผู้ใหญ่ใกล้ตัว" แต่มัวเมาในอำนาจและตำแหน่งจากแรงคนเป่าหู ทำให้นายกฯ กลืนไม่เข้า-คายไม่ออก

ตำราบอกว่า "ทุกข์ซ้ำ กรรมซัด วิบัติเป็น" ก่อนทุกข์เข็ญจะผ่าน

นั่นก็นาย นี่ก็พี่ โน่นก็น้อง ทำให้ต้องขุ่นข้องหมองจิต "คิดไม่ตก" ว่าจะเอาอย่างไรดี?

แต่โลกนี้ "ไม่มีทางตัน" สิทธิการิยะท่านว่า บางเรื่อง-บางปัญหา ไม่ได้มีเพื่อให้คนแก้ แต่มีเพื่อให้ "กาลเวลา" เป็นตัวแก้

คิดไปก็บ้าเปล่า..........

เอาเวลาไปพบปะเยี่ยมเยียนชาวบ้าน เอาสุข-ทุกข์ของนายกฯ กับของชาวบ้านมากองเป็น "ทุนประเทศ" รวมกัน แล้วช่วยกันฟันฝ่า

ดีกว่าไปจดจ่ออยู่กับเรื่อง "ตัณหา" ของคนขากะเผลก

ใครก็ตาม "หวังสูงเกินศักดิ์" จะหักกลางไปเอง!

เนี่ย...ตำราผมว่างี้

สิบกว่าปีมาแล้ว ผู้เคารพนับถือท่านหนึ่งผู้ทรงวิชาการและคุณธรรม มาหาผม ท่านหอบกล่องพลาสติกมาใบหนึ่ง แล้วบอกว่า

"นี่เป็นตำรา.....ทั้่งหมด เอามามอบให้คุณเปลวศึกษา"

ผมก็เก็บไว้ใต้ฐานพระ ไม่กล้าเปิดดูจนบัดป่านนี้ เพราะถ้าเปิดแล้ว ต้องศึกษาให้เจนจบตามเจตนาท่าน

แต่ผมไม่มีเวลาว่างเป็นวัน เป็นเดือน

อีกทั้ง เท่าที่ผมเคยซื้อตำราครูบาอาจารย์สมัยก่อนนานแล้วมาศึกษา ใครว่า "หมอดู-คู่หมอเดา" แสดงว่า คนนั้นไม่รู้เรื่องในศาสตร์แขนงนี้เลย

ทั้่งคณิตศาสตร์ ด้านคำนวณและเรขาคณิต ดาราศาสตร์ สถิติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ โลกและจักรวาล ทั้งตำนานเทพ

ทั้งหมด-ทั้งมวล เป็นปฐมบทที่คนเรียนโหราศาสตร์ต้องเรียนรู้ก่อน และต้องทดสอบความแม่นยำ ขั้นต่ำต้อง ๕-๑๐ ปี

กว่าจะถึงขั้นมีประสบการณ์ แตกฉาน "พอสมควร" ในศาสตร์นั้น พอจะให้คนเรียกว่า "อาจารย์" มันต้องกว่า ๑๐ ปีขึ้นไป!

ท่านผู้นำตำรามามอบให้ผม ท่านทรงคุณ-ทรงนาม ถ้าเอ่ยชื่อจะรู้จัก แต่ท่านเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ผมก็ยังไม่กล้าเปิดดู

ตั้่งใจว่า "เลิกเขียนหนังสือ" เมื่อไหร่

จะเปิดกล่อง เพื่อศึกษาจริงจัง ตามเจตนาท่านเจ้าของ

นี่ก็อยากเลิกเต็มที ถึงใจยังสู้ แต่สังขารมันบอกว่า...มึงพากูไปเที่ยวดูโลกให้มันโศภิน "ก่อนตาย" บ้างเห้อะ!

แต่ "เปลว" หรือ "ป่าช้า" ไม่มีวันตาย

เพราะป่าช้ามีหน้าที่ "ฝังคนควรตาย"

ดังนั้น "เปลว" หรือ "ป่าช้า" จึงเป็นอมตะ!

เมื่อมันเป็นเช่นนี้ ท่านก็จงจำใจทนฟังผมคุย ได้เรื่องบ้าง เละเทะไปตามเรื่องตามราวบ้างต่อไป ในวันที่ผมไม่รู้จะเอาอะไรมาเขียน-มาคุย

แต่จำต้องเขียน-ต้องคุย อย่างวันนี้่ เป็นต้น

นี่...นี่...ผมมีอะไรจะให้อ่าน คุณ "เวหา ธรรมบารมี" เขาโพสต์มาให้ผมอ่าน ตอนต้นๆ ท่านคงบอก มึนตึ๊บ..ไม่รู้เรื่อง

ก็ไปอ่าน ๔-๕ บรรทัดล่าง ที่เขาถอดรหัสดาวไว้ให้แล้วก็ได้ ลองดูนะ

.............................

เวหา ธรรมบารมี

มุมดาวแบบนี้ น่าติดตามยิ่งนัก

ดาวบาปเคราะห์ใหญ่ เกือบทั้งหมดในระบบสุริยจักรวาล เข้าทำมุมร้าย ๙๐ องศา ต่อกัน

ในทวารราศีทั้ง ๔ คือ ราศี เมษ กรกฎ ตุล มังกร

เมษ มี (๓)+(๐)+(๘)

กรกฎ มี (๑)

ตุล มี (๒) (ถ้าเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งเค้ามารออยู่ก่อน เมื่อดาวจันทร์เข้าร่วมวงด้วย ปรากฏการณ์นั้นจะเกิดขึ้น)

มังกร มี (๗)+(พลูโต)

ล้วนเป็นดาวบาปเคราะห์ใหญ่ในระบบสุริยจักรวาลนี้

ทำมุมร้าย ทั้ง เล็ง (๑๘๐ องศา)

 ทั้ง จตุเกณฑ์ (๙๐ องศา)

ซึ่งกันและกัน

และ เกิดบน ทวารราศี คือ

 ห้องแกนสำคัญแม่ธาตุ ไฟ น้ำ ลม ดิน ของโลก

จับตาและติดตามดูให้ดี ในช่วงวันที่ ๔-๗ สิงหาคม นี้

อาจจะเกิดปรากฏการณ์ หรือปฏิบัติการ

 (อันอาจจะเกิดการเริ่มต้นปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหน้าหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ก็ได้)

เวหา ธรรมบารมี

๔/๘/๒๕๖๕

๑๕.๔๑ น.

ในเท็จมีจริง ในจริงมีเท็จ   

และอุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้เสมอ

 แค่วิเคราะห์ตามหลักโหราศาสตร์นะครับ 

 ถูกผิดติดตามกันไปด้วยกันครับ

...........................................

เกริ่นเรื่องนายกฯ ไปกาญจน์ แต่ผมดันแฉลบลงข้างทางซะหมดเนื้อที่

เอาเป็นว่า เมื่อใดที่นายกฯ ได้ออกไปอยู่กับชาวบ้าน ดูท่านมีความสุขจากหัวใจ ชาวบ้านแต่ละจังหวัดที่มาต้อนรับ ก็มาด้วยรักและผูกพันด้วยใจต่อนายกฯ เช่นกัน

ไม่ต้องจ้าง-ต้องเกณฑ์หัวละ ๓๐๐ มาเป็นหน้าม้าต้อนรับให้หลงว่า "เขามาฟังผมพูดกันแน่น"

เห็นเด็กนักเรียนลูกๆ หลานๆ วิ่งไปแย่งกันกอดเอว กอดแขนนายกฯ ซุกหน้ายิ้มร่า-หัวเราะดีอก-ดีใจ "ลุงตู่" มาเยี่ยม ผมเห็นก็พลอยสุขไปด้วย

เด็กๆ กับนายกฯ นี่ ไม่ว่าไปที่ไหน-ทางไหน นายกฯ ท่านจะเมตตา รักใคร่ ดีอก-ดีใจ มีความสุขมาก

ท่านเปิดอกพูดกับพี่น้องชาวกาญจน์ ตอนหนึ่งว่า

"........เป็นนายกฯ ไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว มันลำบาก ลูกน้องก็ห่วง ผมไม่ได้ไปไหนเป็นสิบปีแล้ว

ทำงาน กลับบ้าน ตรวจเยี่ยม ประชุม หมดแล้ว ชีวิตผมไม่บ่น บ่นแล้วเดี๋ยวคนไล่ออกอีก

ก็เล่าให้ฟังว่า เป็นนายกฯ มันไม่สบายนักหรอก โอเค วันนี้มาพบประชาชน ถือว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ครอบครัวคนไทย ขอให้รักษาโครงการนี้อย่าให้เสีย...."

และอีกตอนหนึ่ง ฟังแล้วใคร่ครวญตามนะครับ

"ผมมาที่จังหวัดกาญจนบุรีหลายครั้งตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ. เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงมากมาย ยินดีกับทุกท่านด้วยใจจริง วันนี้เห็นประชาชนมารับเยอะ ก็ตื้นตัน พูดอะไรไม่ออก นี่คือประเทศไทย คือคนไทยที่เราต้องพร้อมกัน

ร่วมมือด้วยความสมัครสมานสามัคคี ทำให้บ้านเมืองเรามีเสถียรภาพ และเดินหน้าไปได้

วันนี้ มีความสุขตั้งแต่เช้าแล้ว.....

เห็นบ้านเมืองเป็นระเบียบ ตั้งแต่ไปสักการะ "สมเด็จพระนเรศวรฯ" แล้ว ตลอดทางก็ไหว้มาตลอด

เพราะดินแดนนี้ เป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์หลายอย่าง และ "ดินแดนศักดิ์สิทธิ์"

วันนี้ก็คุยกับ ส.ส.และผู้ว่าราชการจังหวัด มีหลายอย่างที่ผมรับเรื่องไว้พิจารณา อะไรทำได้ ผมยืนยันจะทำให้ ขอให้ห่วงใยซึ่งกันและกัน

ผมห่วงใยประชาชน ประชาชนก็ห่วงใยผมด้วย เพราะผมทำอะไรที่ผิดมากๆ ไม่ได้ ต้องรักษากติกา"

.........................

ดินแดนนี้ เป็นดินแดนเดชานุภาพ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช"

"ศักดิ์สิทธิ์" นัก

ฉะนั้น "กอบกู้-รักษา" คือหน้าที่ "ต้องสานต่อ"!.

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พรพระ-พรนักโทษ'

หมู่นี้..... "คนห่มเหลือง" ประพฤติผิดพระวินัยสงฆ์ ต้อง "อาบัติปาราชิก" ข้อ "เสพเมถุน" ถี่มาก!

เศรษฐา "นายกฯ ฮูดินี"

"ชีวิตที่มีหมานำ" ก็อย่างนี้แหละครับ "หัวหน้าคอก" เมื่อพักคุก ก็ไปขลุกเชียงใหม่

'เมษา....พระมาเตือน'

เรา...."ประเทศไทย"! "ชาติ-พระศาสนา-พระมหากษัตริย์" เป็นทั้งรูปธรรมและนามธรรม