'ประยุทธ์' หลังเอเปก

ปี่กลองเชิดรัวๆ

"ลุงตู่" พยักหน้า ตอบรับคำถามนักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ว่าหลังการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกสิ้นสุดลง จะมีคำตอบเรื่องอนาคตทางการเมือง

ตอนนี้ก็ได้แต่วิแคะแกะเกากันไป

ยุบ ไม่ยุบ

ยุบตอนนี้

จะยุบวันที่ "๓๑ กุมภาพันธ์" ตามที่หยอดมุกไว้จริงหรือไม่

ถ้าจริงก็คือการอยู่ครบเทอม

ครับ...ช่วงนี้เป็นช่วงแห่งการจับตามองการเมือง  เพราะไม่มีอะไรแน่นอนสักอย่าง ทั้งๆ ที่เสถียรภาพของรัฐบาลไม่ได้ขี้เหร่

สภาล่ม เป็นเรื่องของ ส.ส.ให้ความสำคัญของงานในสภาน้อยกว่าการไปหาเสียงเตรียมเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจได้ 

 ตราบเท่าที่กฎหมายสำคัญที่เสนอโดยรัฐบาลผ่านสภา ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล

แค่ต้องทนเสียงด่าสภาอัปรีย์ ไม่ยอมทำหน้าที่ของตัวเอง

แต่ก็เป็นการด่าสภาในรวม ทั้งฝ่ายค้าน รัฐบาล ต้องรับผิดชอบไปเสมอกัน เพราะ ส.ส.ทุกคนไม่ว่าฝ่าย

ไหนคือองค์ประชุม

หลังการประชุมเอเปก จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?

ประการแรกอายุรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรจะเหลืออยู่แค่ ๔ เดือนเศษ

ที่แน่ๆ ก่อนเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆ เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างแน่นอน

นับจากปีใหม่อายุรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎร จะเหลืออยู่ ๓ เดือน

๓ เดือนในมุมของรัฐบาล ยังสามารถอนุมัติโครงการต่างๆ ได้อีกมาก

ขณะที่ ๓ เดือนของฝ่ายค้านคือ ช่วงเวลาแห่งการรอคอย

รอวันกลับเข้าสู่อำนาจ

ประการถัดมา ธรรมชาติของรัฐบาลหลังจัดงานใหญ่  หากเข้าตากรรมการ โอกาสอยู่ต่อจนครบวาระมีสูงมาก

แต่หากกรรมการร้องยี้ เสียงตะโกนไล่กระหึ่ม!       

ฉะนั้น "ลุงตู่" หลังประชุมเอเปก อยู่ในข่ายไหน ขึ้นกับ ฝีมือ "ลุงตู่" ล้วนๆ

แล้วดูจากอะไร            

รัฐบาลบอกว่าประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากการเป็นเจ้าภาพเอเปกทั้งสิ้น ๗ ข้อ

๑.เพิ่มบทบาทที่สร้างสรรค์ของไทยในการร่วมกำหนดนโยบายและทิศทางความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ

๒.สร้างช่องทางในการผลักดันท่าที ส่งเสริม และป้องกันผลประโยชน์ของไทยในเวทีระหว่างประเทศ ตลอดจนร่วมกำหนดมาตรฐานและนโยบายในประเด็นใหม่ๆ ของบริบทโลก

๓.การลดอุปสรรคและส่งเสริมโอกาสทางการค้า การลงทุนของไทยกับเศรษฐกิจเอเปกและประเทศที่เป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย

๔.ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ อาทิ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การศึกษา วิทยาศาสตร์ พลังงาน  สิ่งแวดล้อม และการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจ

๕.ใช้ประโยชน์จากเอเปกในฐานะแหล่งบ่มเพาะแนวคิด เพื่อก้าวไปข้างหน้าร่วมกันโดยมีเป้าหมายหลักของเอเปกคือ วิสัยทัศน์ปุตราจายา ค.ศ.๒๐๔๐ รวมทั้งการจัดทำเขตการค้าเสรีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Free Trade  Area of the Asia-Pacific หรือ FTAAP)

๖.แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ผ่านคณะทำงานต่างๆ รวมถึงเข้าถึงแหล่งข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกและภูมิเศรษฐศาสตร์รวมถึงเครือข่าย think tank ที่สำคัญ

และ ๗.ใช้ประโยชน์จากเอเปก ในฐานะผู้นำความเปลี่ยนแปลงในการปฏิรูปและยกระดับมาตรฐานทางเศรษฐกิจของไทยให้ทันสมัย เป็นสากล รวมถึงเสริมสร้างศักยภาพในมิติต่างๆ ให้แก่ภาครัฐและเอกชน

แต่ประทานโทษครับ ทั้ง ๗ ข้อไม่ได้เกิดทันทีหลังการประชุมเสร็จสิ้นลง        

ยังต้องใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปีกว่าจะเห็น "ประโยชน์"  ออกมาอย่างเป็นรูปธรรม

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในทันทีระหว่างการประชุมเอเปกคือ  ภาพลักษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

อย่าคิดว่าไม่สำคัญ

จะรอดหรือไม่ ส่วนหนึ่งก็อยู่ที่ภาพลักษณ์ในฐานะผู้นำประเทศเจ้าภาพ

อย่าไปคิดว่าเป็นแบบนี้ตั้งแต่เกิด จะให้เปลี่ยนได้ไง

เมื่อทั่วทั้งโลกมองมาที่ประเทศไทย พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยต้องมีความเป็นสากล

และดูฉลาด

ไม่ได้บอกว่าท่านโง่นะครับ เพราะท่านเรียนเก่งมาตั้งแต่เด็กๆ

แต่หากโลกมองมาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้วเห็นตรงกันว่านี่คือผู้นำประเทศที่น่าเชื่อถือ มีความเฉลียวฉลาด โลกก็จะยอมรับ

โลกยอมรับ ไทยก็แถยากครับ

อย่าให้เหมือนตอน "ยิ่งลักษณ์" รับแขกเมือง

ราวกับสาวน้อยไม่ประสีประสา

ภาพลักษณ์มีหลายแบบครับ อยากให้ดูทีมวอลเลย์บอลสาวไทยเป็นตัวอย่าง

สาวๆ เหล่านี้เข้าไปอยู่ในใจคนทั้งโลกได้อย่างไร?

เป็นการบ้านของทีมนายกฯ

เหนือสิ่งอื่นใด อนาคตของ "ลุงตู่" เกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศมา ๘ มาปีเต็มโดยตรง หลายอย่างเริ่มผลิดอกออกผล

แต่เพราะการเมืองทำให้คนตาบอด มองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงในรอบ ๘ ปี

วันนี้ยังมีคนเอาแต่ร้องว่าเศรษฐกิจพังพินาศ ประยุทธ์อยู่ต่อก็สิ้นชาติ

ความฉิบหายทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นจริง จากการระบาดของโควิด-๑๙ ไม่เฉพาะเศรษฐกิจไทย แต่ฉิบหายกันทั้งโลก

ใครที่รอดจากวิกฤตเศรษฐกิจช่วง ๒-๓ ปีที่ผ่านมาได้ ก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว

เศรษฐกิจดำดิ่งถึงจุดต่ำสุดไปแล้ว และขณะนี้อยู่ในช่วงเงยหัวขึ้น

นักท่องเที่ยวกลับมาแล้ว ไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่เพราะนโยบายเปิดประเทศท่ามกลางการบูลลีจากคนเกลียดลุงตู่

ประเทศเพื่อนบ้านพากันอิจฉาไทย ที่นักท่องเที่ยวเข้ามาเต็มสนามบินสุวรรณภูมิ

ไม่ใช่เรื่องฟลุก

แต่เพราะไทยยืนหยัดตัดสินใจเปิดประเทศก่อนใครเพื่อน

กว่าจะสร้างการรับรู้ สร้างความมั่นใจ ใช้เวลาเป็นปี

ดู EEC ระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเป็นตัวอย่าง กว่าจะถึงวันที่ไทยเนื้อหอม กำลังกลายเป็นศูนย์กลางการลงทุนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) มันไม่ได้มาเพราะต่างชาติสงสาร

แต่เพราะการลงมือทำท่ามกลางคำเย้ยหยันว่ารัฐบาลที่ผู้นำเป็นพลเอกทำอะไรไม่เป็น

น่าเสียดายครับ การเมืองที่เห็นต่าง จะมองไม่เห็นสิ่้งเหล่านี้ เพราะการเสพเฟกนิวส์ มันกว่า สะใจกว่าเยอะ

ฉะนั้นถ้าโลกชื่นชม "ลุงตู่" แต่ยังมีไทยแถก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ผลการเลือกตั้ง ทำให้การเมืองเปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนรัฐบาล ก็ไม่แปลกอะไร

ก็...สีข้างถลอก ไปแบบนี้แหละครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายทุนก้าวไกล

เริ่มต้นด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ วานนี้ (๑๗ เมษายน) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปยอดเงินบริจาคของพรรคการเมือง ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ทั้งสิ้น ๑๓ พรรคการเมือง

รวยแล้วไม่โกงไม่มี

นายกฯ เศรษฐาเปิดใจวานนี้ (๑๕ เมษายน) ฟังแล้วเหมือนเดจาวู "...มั่นใจได้ว่าเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนไม่มีแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามต้องพูดเรื่องทรัพย์สิน เรื่องของชีวิตส่วนตัว ส่วนตัวของผมลงตัวแล้ว มีรายได้ในอดีตที่ดีพอสมควร มีทรัพย์สินที่ทำให้อยู่ได้อย่างสบายๆ

รัฐบาลลิงแก้แห

ชี้แจงก็เหมือนไม่ชี้แจง ผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คงจะหน้าเขียวไปตามๆ กัน เพราะถูกรัฐบาลบีบให้ร่วมโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต วงเงินที่รัฐบาลล้วงมาคือ ๑๗๒,๓๐๐ ล้านบาท