พลังบวกปีใหม่

ใกล้เทศกาลปีใหม่แล้วครับ

ที่จริงปลายสัปดาห์นี้ ช่วงวันคริสต์มาส บริษัท ห้างร้านหลายๆ แห่งเริ่มจะหยุดกันแล้ว พักผ่อนยาวถึงต้นปีหน้า

มีคนไปปล่อยข่าวกันเยอะว่า มีคำสั่งให้งดจัดงานรื่นเริง

บางคนไปไกลถึงกับบอกว่า นักดนตรีได้รับคำสั่งว่า งดการแสดง แล้วเอาไปด่ากันขรมในโซเชียลว่า รังแกประชาชน

เป็นตุเป็นตะ!

เพื่อความชัดเจน "ลุงตู่" ยืนยันแล้ว ไม่มีใครสั่ง 

ฉะนั้นกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ จัดได้ไม่มีใครห้ามครับ

ก็เอากันตามสมควรแก่สถานการณ์

 อย่าลืมว่าประเทศไทยอยู่ในช่วงที่ประชาชนจำนวนมาก ตั้งจิตอธิฐานถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้หายจากพระอาการประชวรและมีพระพลานามัยแข็งแรง

มาคุยกันเรื่องบวกๆ เติมพลังบวกให้กับสังคมไทยกันครับ

เทศกาลปีใหม่ ต้องมาพร้อมกับของขวัญ

ปีนี้รัฐบาลแจกของขวัญให้ประชาชนไม่น้อยทีเดียวครับ 

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (๒๐ ธันวาคม) เห็นชอบมาตรการการดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๖ ให้แก่ประชาชน ตามที่กระทรวงการคลังเป็นผู้เสนอ

สองรองโฆษกรัฐบาล "รัชดา ธนาดิเรก-ทิพานัน ศิริชนะ" แถลงเอาไว้ตามนี้ครับ

๑.มาตรการ “ช้อปดีมีคืน ปี ๖๖” เริ่มตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

ข้อกำหนดคือ ให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท

แบ่งเป็น ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวน ๓๐,๐๐๐ บาทแรก ออกใบกำกับภาษีแบบกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์

และค่าซื้อสินค้าหรือบริการ อีกจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท ออกใบกำกับภาษีรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

สำหรับสินค้าที่เข้าร่วมมาตรการ เช่น ค่าซื้อสินค้า และค่าบริการทุกประเภทที่ซื้อจากผู้ประกอบการ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าสินค้า OTOP

แต่ไม่รวมถึงสินค้าและบริการ ดังนี้

ค่าซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ค่าซื้อยาสูบ

ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ

ค่าซื้อหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร ค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต

ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม

ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า

ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต

ค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว ซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๖ หรือสิ้นสุดหลังวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

และค่าเบี้ยประกันวินาศภัย

คาดว่าจะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมูลค่าประมาณ ๕๖,๐๐๐ ล้านบาท                ผลิตภัณฑ์มวลรวมเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ ๐.๑๖

๒.มาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี ๒๕๖๖

ลดภาษีให้ในอัตราร้อยละ ๑๕ ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของปีภาษี พ.ศ.๒๕๖๖

๓.มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยปี ๒๕๖๖

โดยลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ จากร้อยละ ๒ เหลือร้อยละ ๑ และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ จากเดิม ร้อยละ ๑ เหลือร้อยละ ๐.๐๑ สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ และห้องชุด (ทั้งบ้านมือ ๑ และมือ ๒) เฉพาะที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน ๓ ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน ๓ ล้านบาท ต่อสัญญา

๔.มาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิต สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นที่นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับอากาศยานภายในประเทศ

เป็นการลดอัตราภาษีตามปริมาณของน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับเครื่องบินไอพ่นที่ใช้บินในประเทศ จากลิตรละ ๔.๗๒๖ บาท เหลือลิตรละ ๐.๒๐ บาท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ถึง ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖

เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและบริการให้มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และบรรเทาผลกระทบการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและสายการบินภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-๑๙

ผลดีสำหรับผู้บริโภคคือ ค่าตั๋วเครื่องบินลดลงเช่นกัน

ยังไม่หมด

มาตรการและโครงการของขวัญปีใหม่ ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ อาทิ

๑.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เช่น โครงการชำระดีมีคืน ลดดอกเบี้ยแก้หนี้ภาคครัวเรือน มาตรการส่งเสริมสภาพคล่องและฟื้นฟู

๒.ธนาคารออมสิน เช่น โครงการวินัยดี มีเงิน

๓.บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เช่น ยกเว้นค่าดำเนินการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการ SMEs

๔.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เช่น ผ่อนดีมีคืน (บัตรกำนันสูงสุด ๓๐๐ บาท) มาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน

เพิ่มเติมด้วยมาตรการและโครงการของขวัญปีใหม่ จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ๕ โครงการ ได้แก่

๑.มาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๖ จากกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)

๒.มาตรการของขวัญปีใหม่ให้กับลูกค้ารายย่อยที่ไม่มีหลักประกัน/ผู้ค้ำประกัน จากบริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด (บสอ.)

๓.โครงการเที่ยวปีใหม่สุขใจไปกับพิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน จากกรมธนารักษ์

๔.โครงการสนับสนุนตลาดทุนและเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน ลดภาระแก่ผู้ประกอบธุรกิจเพื่อความสุขที่มั่นคงของทุกภาคส่วน จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทัพย์ (ก.ล.ต.)

๕.โครงการส่งเสริมให้ประชาชนและผู้ลงทุนมีศักยภาพในการสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดี และมีภูมิคุ้มกัน ไม่ถูกหลอกลวง จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทัพย์ (ก.ล.ต.)

๖.โครงการกรมธรรม์ประกันภัยรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์)

ของขวัญปีใหม่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

๑.ซ่อมบ้าน สร้างสุข จำนวน ๕๐,๐๐๐ หลัง ให้บ้านของเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และครอบครัวผู้มีรายได้น้อยมีความมั่นคงปลอดภัย มีมาตรฐาน มีสภาพแวดล้อมและระบบสาธารณูปโภคที่เหมาะสม

๒.บ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อย ๑๕,๐๐๐ หน่วย แบ่งออกเป็น โครงการบ้านเช่า ๑,๕๐๐ บาทต่อเดือน (๕๐ บาทต่อวัน) จำนวน ๕,๐๐๐ หน่วย ของการเคหะแห่งชาติ และโครงการบ้านเช่าซื้อ จำนวน ๑๐,๐๐๐ หน่วย ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพื่อส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง

ก็ประมาณนี้ครับ ส่วนรายละเอียดอีกสักพักแต่ละหน่วยงานก็จะเผยแพร่ออกมา ใครสนใจของขวัญชิ้นไหน รอตรวจสอบข้อมูลที่ชัดเจนอีกครั้ง

ครับ....สถานการณ์การเมือง ขณะนี้ราวกับโรงลิเก เปลี่ยนมาคุยเรื่องบวกๆ กันบ้าง เพื่อเริ่มต้นปีใหม่ด้วยพลังบวก

ปีหน้าปีเถาะ กระต่าย

ขอให้เป็นปีแห่งความอ่อนโยน น่าทะนุถนอม สำหรับทุกคน.

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายทุนก้าวไกล

เริ่มต้นด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ วานนี้ (๑๗ เมษายน) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปยอดเงินบริจาคของพรรคการเมือง ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ทั้งสิ้น ๑๓ พรรคการเมือง

รวยแล้วไม่โกงไม่มี

นายกฯ เศรษฐาเปิดใจวานนี้ (๑๕ เมษายน) ฟังแล้วเหมือนเดจาวู "...มั่นใจได้ว่าเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนไม่มีแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามต้องพูดเรื่องทรัพย์สิน เรื่องของชีวิตส่วนตัว ส่วนตัวของผมลงตัวแล้ว มีรายได้ในอดีตที่ดีพอสมควร มีทรัพย์สินที่ทำให้อยู่ได้อย่างสบายๆ

รัฐบาลลิงแก้แห

ชี้แจงก็เหมือนไม่ชี้แจง ผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คงจะหน้าเขียวไปตามๆ กัน เพราะถูกรัฐบาลบีบให้ร่วมโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต วงเงินที่รัฐบาลล้วงมาคือ ๑๗๒,๓๐๐ ล้านบาท