แคนดิเดตนายกฯ

เร็วกว่าที่คิด!

"ลุงตู่" ประกาศไปอยู่รวมไทยสร้างชาติ

ว่าไปแล้ว พรรครวมไทยสร้างชาติถือว่ามีความหมายดีมากทีเดียว

สถานการณ์ปัจจุบันมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่คนไทยทุกหมู่เหล่าจะต้องรวมตัวกันเพื่้อสร้างบ้านแปงเมืองกันอีกครั้ง

ทำไมต้องรวมไทยสร้างชาติ

เราผ่านยุคบุกป่าฝ่าดง โค่นต้นไม้ทำถนน สร้างบ้านเรือนมาหลายศตวรรษแล้ว จากสยามเป็นไทย พระมหากษัตริย์เป็นจุดศูนย์รวมของการสร้างชาติ 

การสร้างชาติยุคใหม่ มิใช่ต้องควานหาดินแดนอีกต่อไป

แต่เป็นการพัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้ว

คือรักษาและต่อยอดสิ่งที่บรรพบุรุษเสียเลือดเนื้อหยาดเหงื่อให้มา

นี่คือพันธกิจของคนรุ่นหลัง

การจะสร้างสิ่งเหล่านี้ได้ การเมืองต้องมีความซื่้อสัตย์ โปร่งใส ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง

มีพรรคการเมืองไหนเข้าสเปกนี้บ้าง?

เมื่อ "ลุงตู่" ชัดเจน หลังจากนี้การเมืองเรื่องย้ายพรรคก็จะชัดเจนยิ่งขึ้น 

ที่น่าสนใจคือ เส้นทางการเมืองของ "ลุงตู่" เมื่อครั้งพรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ต่างไปจากการเดินเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างสิ้นเชิง

"ลุงตู่" ไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ        

แต่กำลังจะสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ

เรื่องนี้มีนัยอะไร

อย่างน้อยนี่คือการประกาศชัดเจนถึงการเป็นนักการเมืองเต็มตัว

 “...ที่ผ่านมานายกฯ ก็พยายามพิจารณาในเรื่องต่างๆ ด้วยหลักการและเหตุผลต่างๆ มากมายหลายประการ วันนี้ทางพรรครวมไทยสร้างชาติก็ได้เสนอมาแล้วว่ายินดีสนับสนุนนายกฯ คือผมให้เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

ผมจึงจำเป็นต้องทำให้เกิดความชัดเจนเกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันไป ให้เกิดความเสียหายหลายอย่างด้วยกัน

ผมก็เคยบอกแล้วว่าในช่วงที่ผ่านมา ผมได้รับการสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ แต่วันนี้พรรคพลังประชารัฐก็ได้มีการตกลงใจที่จะเสนอชื่อหัวหน้าพรรคคือ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีไปแล้ว..."

 “...เรื่องนี้ได้กราบเรียนท่านไปนานแล้ว ว่าผมอาจจะมีความจำเป็นบางอย่าง ก็กลับเรียนกับท่านไปหลายครั้งแล้ว จนครั้งสุดท้ายได้ตัดสินใจไปแล้วและคุยกับท่านแล้ว ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่มีความขัดแย้งอะไรกันทั้งสิ้น

อันนี้เป็นเรื่องของการเมืองก็ว่ากันไปตามการเมืองตามระบบประชาธิปไตยก็ว่ากันไป...”

 “...ผมไม่ได้จากกันไปไหนนี่ ก็ยังคงพูดคุยกันอยู่เหมือนเดิม ไม่มีปัญหาอะไร

อย่าลืมว่าความสัมพันธ์ของทหารกับทหารด้วยกันมันลึกซึ้ง ลึกซึ้งยิ่งกว่า และผมก็จบมาก็อยู่ในการดูแลของท่าน และท่านก็เป็นผู้บังคับบัญชาของผมคนแรกในการที่ผมจบจากโรงเรียนนายร้อยไปแวะรับราชการตั้งแต่ร้อยตรี จนกระทั่งอยู่ด้วยกันมาตลอดชีวิตรับราชการมาจนถึงวันนี้

ความผูกพันอันนี้มันไม่มีใครลบล้างผมได้ ท่านเองก็รู้สึกเหมือนกันและท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร ซึ่งผมก็ได้บอกท่านว่าท่านจะได้สบายใจ เพราะว่าท่านมีแรงกดดันมากมายหลายประการด้วยกัน ซึ่งทุกคนก็ทราบดีกันอยู่แล้ว...”

๓ ป. เขาคุยกันตลอดครับ

บางทีน้ำข้นกว่าเลือดก็เป็นได้

ฉะนั้นการประเมินพรรคพลังประชารัฐกับพรรครวมไทยสร้างชาติ อาจต้องพลิกตำรากันนิดหน่อย

เพราะบางอย่าง สิ่งที่เห็น อาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น

แต่ภาพรวมหลังแม่น้ำหลายสายไหลมารวมกัน วันนี้ถึงเวลาไหลแยกไปคนละคุ้งน้ำ แต่สุดท้ายก็กลับมารวมกันอีกครั้ง

พลังประชารัฐยังคงเต็มไปด้วยคนเก่าจากระบอบทักษิณ

ส่วนรวมไทยสร้างชาติอุดมไปด้วยคนที่เคยต่อสู้กับระบอบทักษิณมาก่อน

หากมองในแง่การบริหารจัดการพรรคการเมืองบนเงื่อนไขที่แตกต่างไปจากการเลือกตั้ง ปี ๒๕๖๒ ก็ดูลงตัวไปอีกแบบ

เลือกตั้งเที่ยวนี้สนุกครับ

สนุกทั้งคนลงคะแนน และคนสมัคร ส.ส.

มันไม่ใช่เลือก ส.ส.ธรรมดาๆ แต่คือการเลือกรัฐบาล

ณ ขณะนี้ที่ชัดๆ แล้ว แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีมีใครบ้าง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรครวมไทยสร้างชาติ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ

อนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จากพรรคประชาธิปัตย์

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล

เพื่อไทยยังเหนียมๆ อยู่ แต่ไม่ใช่ "ชลน่าน ศรีแก้ว" หัวหน้าธุรการพรรคแน่นอน

หากโผไม่พลิก "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร นอนมา! ในฐานะลูกสาวเจ้าของพรรค

นายกรัฐมนตรีคนต่อไปคือบุคคลตามรายชื่อนี้คนใดคนหนึ่งแน่นอน

ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้

แม้จะยังไม่เลือกตั้ง แต่หลายคนมองไปถึงรัฐบาลหน้าแล้ว

ใครจะจับมือกับใคร?

ทัศนะของ "ลุงตู่" ดูเรียบๆ แต่มันคือความจริง

"...มันขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง ประชาชนจะเลือกใครเข้ามาวันนี้ยังไม่มีใครรู้ ถึงเวลานั้นสถานการณ์การเมืองที่เรียกว่าการจับคู่ทางการเมืองใครจะเป็นฝ่ายค้านเป็นฝ่ายรัฐบาล ซึ่งก็เหมือนครั้งที่แล้ว ก็จะมีพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ถ้าคะแนนเสียงมารวมกันได้ และมากกว่าก็จะได้เป็นฝ่ายรัฐบาล ครั้งที่แล้วตนก็มาอย่างนั้นไม่ใช่หรือ..."

เอาเข้าจริงสูตรจัดตั้งรัฐบาลค่อนข้างหลากหลาย แต่มีแนวโน้มขั้วการเมืองเดิมจะจับมือกันก่อน หากไม่ลงตัว ถึงจะมองหาทางเลือกใหม่

ตัวแปรหลักน่าจะอยู่ที่พรรคภูมิใจไทย

แต่ก็ยังเร็วไปที่จะสรุปอะไรได้

เพียงแต่หากวัดกันที่ขุมกำลัง ณ ปัจจุบัน พรรคร่วมรัฐบาลยังได้เปรียบอยู่ แม้จะมีการไหลของ ส.ส. แต่เป็นการไหลในขั้วการเมืองเดียวกันเป็นหลัก

ผิดกับขั้วฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ไหลออกมากกว่าไหลเข้า

คงต้องรอให้พรรครวมไทยสร้างชาติมีความชัดเจนในแง่ขุมกำลังมากกว่านี้ เพราะท่าทีของ "ลุงตู่" ยังถือว่านับหนึ่ง

ศึกยังไม่ได้เริ่ม อย่าเพิ่งนับศพทหาร.

                   

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รวยแล้วไม่โกงไม่มี

นายกฯ เศรษฐาเปิดใจวานนี้ (๑๕ เมษายน) ฟังแล้วเหมือนเดจาวู "...มั่นใจได้ว่าเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนไม่มีแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามต้องพูดเรื่องทรัพย์สิน เรื่องของชีวิตส่วนตัว ส่วนตัวของผมลงตัวแล้ว มีรายได้ในอดีตที่ดีพอสมควร มีทรัพย์สินที่ทำให้อยู่ได้อย่างสบายๆ

รัฐบาลลิงแก้แห

ชี้แจงก็เหมือนไม่ชี้แจง ผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คงจะหน้าเขียวไปตามๆ กัน เพราะถูกรัฐบาลบีบให้ร่วมโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต วงเงินที่รัฐบาลล้วงมาคือ ๑๗๒,๓๐๐ ล้านบาท

วอลเล็ตมรณะ

อย่าเพิ่งดีใจ... ใครที่คาดหวังว่ารัฐบาลจะแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตทันไตรมาส ๔ ของปีนี้ ควรเผื่อใจไว้บ้าง

'ภาษีกู' ทั้งนั้น

เวียนหัวกับรัฐบาลนี้จริงๆ นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตหัวละหมื่น พูดกี่ทีก็ไม่ค่อยจะเหมือนเดิม