เสี่ยขายรถมือสอง สูญเงิน 1.1 ล้าน หลงเชื่อสาวในออนไลน์ หลอกลงทุนเงินสกุลต่างประเทศ

เสี่ยขายรถยนต์มือสองเมืองขอนแก่น หลงคารมสาวในโลกออนไลน์ พาลงทุนซื้อเหรียญสกุลต่างประเทศ จากเริ่มต้น 3,000 บาท กลายเป็นลงทุนหลักแสน กว่าจะรู้ตัวว่าโดนหลอก สูญเงินในบัญชีธนาคารรวมกว่า 1.1 ล้านบาท

1 ธ.ค.2565 - ที่บริษัท 77 คอนสตรัคชั่น 2020 จำกัด หรือ ร้าน 77 รถบ้านขอนแก่น ซึ่งตั้งอนู้เลขที่ 399 ม. 2 บ้านทุ่ม ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายชัยเวช ถิ่นทัพไทย อายุ 55 ปี เจ้าของบริษัทฯ นำเเอกสารหลักซานหลักถูกสาวสวย อ้างเป็นนักธุรกิจ ขายเสื้อผ้า หลอกเงินสูญไป 1,134,754บาท นำมาแสดงต่อสื่อมวลชนเพื่อเตือนภัยให้กับประชาชน ร้านค้าและนักธุรกิจ อย่าหลงเชื่อคนที่มาชักชวนลงทุนแพลตฟอร์มร่วมลงทุนเงินตราต่างประเทศ เพราะจะทำให้สูญเสียเงิน

นายชัยเวช กล่าวว่า มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ "Thivapongtana Phinyada" ได้ แอดมาขอเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊ค จึงรับไว้ จากนั้นก็มีการทักทายกัน ตามประสาเพื่อนในเฟสบุ๊ค แต่ส่วนใหญ่ฝ่ายหญิงจะทักแชทมาคุยพร้อมแนะนำตัวว่า เป็นนักธุรกิจ ขายเสื้อผ้าแฟชั่นในห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่ จหนองคาย และครอบครัวก็ลงทุนแพลตฟอร์มซื้อเงินตราต่างประเทศ ซึ่งได้ผลกำไรดี โดยในแต่ละวันจะลงทุนครั้งละ 200,000-500,000บาท เพื่อซื้อเงินตราต่างประเทศ โดยจะได้รับการปันผล10 % ซึ่งบริษัทที่ร่วมลงทุนจะเปิดให้ผู้ต้องการลงทุนซื้อเงินตราต่างประเทศเพียง 20 นาทีเท่านั้น โดยจะเริ่มเปิดให้ผู้ร่วมลงทุนเข้าไปลงทุนหรือซื้อเงินตราต่างประเทซในช่วงเวลา 20.00 น.ของทุกวัน โดยจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนซื้อเพียงครั้งละ 5 นาทีเท่านั้น และในช่วงที่ซื้อ หากหมดเวลา ก็จะได้รับการปันผลกำไร 2.5% หากซื้อครบ 20 นาทีก็จะได้รับการปันผล 10%

" จากนั้นหญิงสาวก็ขอไลน์และชวนคุยทางไลน์ โดยชื่อว่ามัดหมี่ จากการคุยกันนานวันก็ไม่เหมือนเพื่อน เพราะหญิงรายดังกล่าวเรียกตนว่าที่รัก อยากพาตนไปพบพ่อแม่ ชวนไปเที่ยว ไปพบพี่ชาย ยอมรับว่าหลงในคำพูดและความสวยของหญิงรายดังกล่าว จากนั้นหญิงสาวก็ชวนลงทุนแพลตฟอร์มซื้อเงินตราต่างประเทศผ่านทางเว็บไซต์ https://www.capital-mini.shop/ พร้อมพูดชวนมาเล่นบอกว่าถ้ายังไม่มั่นใจลองเล่นดูก่อนก็ได้ เติม 3,000 บาท เล่นครั้งละ 5 บาท ตนเองจึงลองเล่นดู ทีแรกก็เติมไปก่อน 3,000 บาท วันต่อมาลงเพิ่มเป็น 10,000 บาท ซึ่งก็ได้ผลตอบแทนในการลงทุนแต่ละครั้งคือ 2.5% โดยครั้งแรกที่ลงทุนไปนั้นคือ 3,000 บาท ได้ผลตอบแทน 2.5 %เท่ากับ 75 บาทครั้งที่ 2 ลงไป 20,000 บาท ซึ่งในหนึ่งวันจะสามารถลงเล่นได้ 4 ครั้งครั้งละ 5 นาที โดยกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 10 %ของเงินลงทุนในแต่ละครั้ง ลงมาก็ได้มากลงน้อยก็ได้น้อย ซึ่งแต่ละครั้งที่ทำการถอนก็จะได้เงินเข้าบัญชีพร้อมกับผลตอบแทนถูกต้องทุกครั้ง เมื่อได้เงินตลอดก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่เลว ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะเริ่มชักชวนลงทุนเพิ่มให้มากกว่านี้ พร้อมกับบอกว่าตัวฝ่ายหญิงเองเล่นครั้งละ 500,000 บาท พร้อมทั้งส่งภาพแคปหน้าจอและสลิปเงินยืนยันว่าได้จริงมาให้ดู ก็ยิ่งทำให้ตนเองเกิดความเชื่อถือขึ้นไปอีก"

นายชัยเวช กล่าวอีกว่า พอมาวันที่ 3 ฝ่ายหญิงส่งสลิปมาให้ดูว่าโอนไป 500,000 บาทเพื่อลงทุน แล้วมีโบนัส 50,888 บาท ถามตนเองว่าได้รับข้อความแบบนี้เหมือนกันไหม ตนเองก็เปิดดูพบว่ามีข้อความเช่นกันแต่ต้องเติมเงิน 500,000 บาท จึงจะได้โบนัสจำนวนนี้ ตนเองจึงบอกว่างั้นไม่เอาถ้าต้องเติมเงิน 500,000 บาท แต่ฝ่ายหญิงบอกว่าอยากให้จองให้หน่อยเพราะว่าเสียดาย มีแค่เพียงอันเดียว ตนเองจึงเข้าไปจองให้ฝ่ายหญิงโดยใช้แอคเค้าท์ของตนเองจอง ทำให้เกิดปัญหาเกิดขึ้น

ตอนที่ตนเองสั่งถอนเงิน 220,000 บาทพร้อมกำไร 10 เปอร์เซ็นต์ ในระบบแจ้งข้อความมาหาตนเองว่าได้ทำการจองโบนัสไว้จะต้องเติมเงินให้ครบ 500,000 บาท ซึ่งตอนนี้ในแอคเค้าท์ตนเองมีเงิน 220,000 บาท จะต้องโอนเข้าไปอีก 280,000 บาท จะเป็น 500,000 บาทพอดีจึงโอนเข้าไปครบ 500,000 บาท แต่ในระบบแจ้งมาอีกว่า เงินของคุณเข้าออกสูงเกินสมาชิกธรรมดาจะต้องอับเกรดแอคเค้าท์เป็นVIP ตั้งแต่ VIP1 / 2 / 3 และจะสามารถถอนได้โดยไม่มีเงื่อนไข จึงเลือก VIP1 เติมเงินเข้าไปอีก 300,000 บาท เพื่ออับเกรดเป็นวีไอพี ทำให้ตอนนี้กลายเป็นเงินในแอคเค้าท์ของตนเองรวมกำไรมีอยู่ 870,000 กว่าบาท แต่ระบบบอกให้ทำเรื่องเปลี่ยนบัญชีใหม่ โดยให้ยกเลกตัวเก่าเนื่องจากเปลี่ยนเป็นบัญชี VIP แต่ตอนใส่ข้อมูลตนเองใส่ผิด ในช่องเลขบัญชีตนเองใส่ชื่อธนาคารลงไป ทำให้ระบบแจ้งมาว่าระบบตัดเพื่อเซฟตี้ข้อมูลเอาไว้เนื่องจากตนเองกรอกข้อมูลผิด จะต้องเติมเงิน 30 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่ลงทุนไป คือ 260,000 กว่าบาทเพื่อปลดล็อค

ตนเองจึงไปคุยกับฝ่ายหญิงที่แนะนำ บอกว่าตนเองไม่มีเงินแล้ว โดยฝ่ายหญิงช่วยมา 120,000 บาท พอเติมเงินเข้าไปตามเขื่อนไขเสร็จ ตนเองทราบว่า VIP เบิกได้ 1ล้านบาท ตนเองกลัวว่าจะมีลูกเล่นกลัวมีปัญหา จึงขอถอน 900,000 บาท แต่ระบบก็ยังพยายามจะเอาเงินตนเองเพิ่มอีกให้ได้ บอกว่าการลงทุนที่คุณลงทุนเข้าไปยังไม่มีการเล่น ทำให้ไม่สามารถถอนได้ คราวนี้จะต้องเติมเงินอีก 30 % จากเงิน 1,134,000 บาท ก็ต้องเติมอีกประมาณ 400,000 บาท ตนเองจึงไม่เติมเพราะรู้ตัวแล้วว่าถูกหลอก

"ต่อมาฝ่ายหญิงบอกว่าเป็นห่วง หาเงินมาช่วยยืมเงินพี่ชายมา 200,000 บาท เอาแหวนแม่มาขายอีก 50,000 บาท แต่ตนเองจะต้องเติมเงินอีกแสนกว่าบาท จึงไปปรึกษาตำรวจบอกว่าถูกมิจฉาชีพหลอกและเป็นขบวนการมิจฉาชีพหลอกผู้เสียหายหลายรายแล้ว มีผู้เสียหายทั่วประเทศ ซึ่งทีแรกยังไม่รู้ว่าถูกต้มตุ๋น เพราะการลงทุน 20 นาทีได้กำไรมากกว่าฝากธนาคาร จึงยอมลงทุนไป

แต่พอถอนเงินไม่ได้ และให้ฝากเพิ่มเรื่อย ก็เริ่มรู้และคิดว่าถูกหลอก จนกระทั่งระบบล็อค เข้าไปแก้ไขข้อมูลไม่ได้จึงรู้ว่าถูกหลอกชัวร์ และไม่ยอมลงทุนอีก ได้ติดต่อไปหาหญิงสาวชื่อมัดหมี่ แจ้งให้ทราบว่าเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นและถอนเงินไม่ได้ หญิงสาวบอกให้ใจเย็นๆ ระบบล็อคชั่วคราว และควรจะลงทุนต่อ เพื่อจะได้ถอนเงินทุนและกำไรออกมา

ผมฟังแต่ผมไม่ทำตาม ทำเพียงรวบรวมหลักฐานทั้งหมด เพื่อจะเข้าแจ้งวามกับตำรวจไซเบอร์ ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 (บก.สอท.3) ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อให้มีการสืบสวนจับกุม ขบวนการหลอกลวงต้มตุ๋น ให้ลงทุนซื้อสกุลเงินต่างประเทศ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเชื่อว่า หญิงสาวชื่อมัดหมี่ น่าจะเป็นหนึ่งในนกต่อที่หาลูกค้ามาร่วมลงทุนและหลอกเอาเงินไป และยังเชื่ออีกว่าน่าจะมีคนถูกหลอกอีกจำนวนมาก จึงออกมาเตือนประชาชน นักธุรกิจ อย่าหลงเชื้อคารม หญิงสาวสวยน่าตาดี วาจาดี เพราะจะทำให้สูญเสียเงินล้านได้”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เหยื่อพระครูปลัดเล่นแอปหาคู่เกย์ ยันถูกลากขึ้นรถ หลังปฏิเสธมีเซ็กซ์เหตุใช้รูปไม่ตรงปก

หนุ่มนครพนม ที่ถูกพระครูชื่อดังหลอกมาข่มขืนที่ขอนแก่นเข้าให้ปากคำตำรวจแล้ว ยืนยันถูกลากขึ้นรถก่อนตัดสินใจหักพวงมาลัยชนราวเหล็กขอบถนน บาดเจ็บทั้งคู่

ชาวบ้านขอนแก่น พบอุกกาบาต ตอนแรกนึกว่าขี้แมวกำลังจะกวาดทิ้ง

นึกว่าขี้แมวกำลังจะกวาดทิ้ง ก่อนพบเป็นอุกกาบาต เจ้าของบ้านพร้อมให้หน่วยงานพิสูจน์เพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์

ตั้งรางวัลนำจับ 1 หมื่น มืดมีดกระหน่ำแทงลุงวัย 60 กลางเมืองขอนแก่น

กรณีที่คนร้ายเป็นชายขับรถจักรยานยนต์ตามประกบ นายวัฒนศักดิ์ สรรพิทยากับ อายุ 60 ปี เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น ริมถนนมะลิวัลย์ ชุมชนสามเหลี่ยม เขตเทศบาลนครขอนแก่น ขณะขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ๊กซ์ หมายเลขทะเบีย

ลุงวัย 60 ออกจากห้องไอซียูแล้ว ยันไม่รู้จักคนก่อเหตุแค่สบตากลางถนน ก็ถูกไล่แทง

เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น ออกจากห้องไอซียูแล้ว พร้อมระบุไม่รู้จักคนก่อเหตุมาก่อนแค่สบตากลางถนนตอนขับรถ ก็ถูกไล่ตามทันที โชคร้ายรถเสียหลักล้มก่อน ทำให้ผู้ก่อเหตุตามมาแทงหลายแผล

ล่าตัววัยรุ่นใช้มีดกระหน่ำแทงลุงวัย 60 อาการสาหัส

โลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิด หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงชายสูงวัยได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณถนนมิตรภาพเยื้องกับร้านอาหารอีสาน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น